หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งฉบับสุดท้าย คือร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ นั่นแสดงว่า การเลือกตั้งจะดำเนินไปตามโรดแมปและขั้นตอนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้อย่างแน่นอนแล้ว ไม่น่ามีเหตุอันให้หลายฝ่ายกังวลว่า คสช. จะพยายามยื้อเลือกตั้งออกไปอีก ถ้าย้อนไปดูจะเห็นว่าตั้งแต่สภาปฏิรูปโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และต้องมาร่างใหม่อีกโดยคณะกรรมการชุด นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ขยายเวลาเพิ่มขั้นตอนทำประชามติ ตลอดจน สนช.ขยายเวลามีผลกฎหมายเลือกตั้งสส.ไปอีก 90 วัน ไปถึงส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายเลือกตั้งสส.อีก ถือได้ว่าทั้งยื้อทั้งยืดเวลาโดยใช้เทคนิคทางกฎหมาย และเทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่แล้ว
จากนี้ไป ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็จะนำร่างกฎหมายส่งมอบให้นายกรัฐมนตรีเพื่อนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายใน 20 วัน นับแต่ได้รับร่างกฎหมายจากประธาน สนช. โดยคาดว่ากระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อเข้าสู่กระบวนการที่พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 90 วัน ซึ่งคาดจะเสร็จสิ้นราวเดือนกันยายนนี้
คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ข้อ 8 กำหนดให้เมื่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้คณะรัฐมนตรี และ คสช. พิจารณาแก้คำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อพรรคการเมือง นั่นหมายถึงการยกเลิกประกาศ คสช. ที่ 57/2557 เพื่อปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงการดำเนินการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยระบบ “ไพรมารีโหวต” จะสามารถทำได้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. แม้จะประกาศราชกิจจานุเบกษาได้ช่วงเดือนกันยายน แต่ก็ต้องรอเพื่อให้มีผลบังคับใช้ไปอีก 90 วัน ซึ่งไปลงเอาในเดือนธันวาคม จากนั้น กกต.จึงจะกำหนดวันเลือกตั้ง โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 268 กำหนดเงื่อนไขให้จัดการเลือกตั้งแล้วเสร็จภายใน 150 วัน ทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้อย่างช้าสุดคือ “พฤษภาคม 2562” หรือราว 1 ปีนับจากนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยืนยันหนักแน่นต่อสาธารณชนเป็นครั้งสุดท้ายไว้ว่า การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นภายในเดือน “กุมภาพันธ์ 2562” จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลดทอนระยะเวลาในกระบวนการใดกระบวนการหนึ่ง หากจะให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามโรดแมปที่ พล.อ.ประยุทธ์ วางไว้ เช่น ลดทอนเวลาจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน เป็นภายใน 60 วัน เพราะในอดีตเมื่อยุบสภาผู้แทนราษฎรก็จะให้ ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วันอยู่แล้ว ซึ่งนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ยืนยันว่าการกำหนดวันเลือกตั้งอาจใช้เวลาไม่เต็มกรอบก็ได้
ต้องรอดูสัญญาณ คสช.ประชุมผู้แทนพรรคการเมืองว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 ข้อ 8 กำหนดไว้ว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้รัฐบาล คสช. กกต. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประธาน สนช. ผู้แทนกลุ่มหรือพรรคการเมือง หารือกัน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายใน “กุมภาพันธ์ 2562” ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สัญญาไว้กับประชาชนหรือไม่ ให้ดูสัญญาณจากเวทีนี้
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น คือสมาชิกพรรคการเมืองมีสิทธิเลือกผู้สมัคร สส.ของพรรคตนเองไปแข่งกับพรรคอื่น ที่เรียกกันว่าระบบ “ไพรมารีโหวต” พรรคการเมืองต้องจัดประชุมให้สมาชิกเลือกเป็นตัวแทนผู้สมัครรับเลือกในเขตนั้นๆ ก่อนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีกทีหนึ่ง จึงนับเป็นครั้งแรกที่กำหนดหลักการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคต่อการเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้อย่างชัดเจนใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ถือเป็นพัฒนาการสำคัญของการปฏิรูปการเมือง พรรคการเมืองต้องใช้เวลาเพื่อเตรียมความพร้อม แต่จนถึงวันนี้พรรคการเมืองยังไม่สามารถดำเนินกิจกรรมนี้ได้ เพราะ คสช. ก็ไม่ปลดล็อกประกาศ คสช. ที่ 57/2557
หากคสช. ต้องการปฏิรูปการเมืองมากกว่าการยื้อเวลา ก็ควรปลดล็อก เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้เตรียมการจัดทำไพรมารีโหวต ประกาศนโยบายสู่การเลือกตั้ง เรียกได้ว่า “ยิ่งเร็วเท่าไร ยิ่งสมบูรณ์” ถึงเวลาพูดคุยเรื่องนโยบายเศรษฐกิจเรื่องปากท้องของประชาชน พรรคไหนดีก็งัดมาเสนอกัน พูดคุยกัน แต่หากยังยื้อเวลาเลือกตั้ง คำสั่งคสช.ยังห้ามประกาศนโยบายกันอยู่แบบนี้ ประเด็นการเมืองในสังคมมันจะวนอยู่กับการแก้-ฉีกรัฐธรรมนูญมากกว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี