การที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำเสื้อเหลืองที่เคยประกาศว่า จะเลิกทำงานการเมือง แต่ในที่สุดทนเสียงปี่กลองไม่ไหวตระบัดสัตย์ โดยประกาศร่วมเป็นแกนนำในการกลับมาทำพรรคการเมือง โดยอ้างว่า เพื่อสืบสานเจตนารมณ์โดยยอมตระบัดสัตย์ที่ว่าจะยุติบทบาททางการเมือง แต่กลับเข้าร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ซึ่งมี นายธานี เทือกสุบรรณ นายเชน เทือกสุบรรณ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ น้องชาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) แม้ตัวนายสุเทพเองจะอ้างว่า ตัวเองเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค โดยนัยว่าจะยกให้นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรค แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าตัวนายสุเทพ เคยประกาศว่าจะยุติบทบาททางการเมืองแต่อดทนปี่กลองไม่ไหว หรืออาจจะมีสัญญาใจกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่นายสุเทพเองมีส่วนสำคัญในการก่อให้เกิดการรัฐประหารขับไล่คณะรัฐมนตรีภายใต้การกำกับของนายทักษิณ ชินวัตร โดยเชิดน้องสาว นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เป็นนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งถูก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะทหารทำการรัฐประหารขับไล่คณะรัฐมนตรีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ปกครองประเทศภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นรัฐบาลจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 4 ปีเต็ม และกำลังจะผ่อนคลายอำนาจในการปกครองประเทศ โดยจัดทำรัฐธรรมนูญภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ
อย่างไรก็ดี การตระบัดสัตย์ของนายสุเทพ จะไม่มีผลกระทบต่อการเมืองของประเทศมากนัก เพราะนายสุเทพ เป็นนักการเมืองซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าคำพูดของนักการเมืองนั้นไม่อาจจะยึดถือได้ เพราะมีการกล่าวว่า ลิ้นนักการเมือง จะยึดถือเป็นสัจวาจาไม่ได้ คำพูดของนักการเมืองอาจจะแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่คำพูดของนักรบนั้นคำพูดมีความหมายมาก การจะแปรเปลี่ยนไปก่อให้เกิดปัญหาติดตามมา ดังที่ปรากฏในเหตุการณ์ที่เรียกว่า“พฤษภาทมิฬ” เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญของประเทศไทย กล่าวคือ เมื่อผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น คือ พลเอกสุจินดา คราประยูรประกาศว่าจะไม่ทำงานการเมืองแต่ในที่สุดกลับยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการจลาจลโดยกลุ่มผู้ต่อต้านการดำรงตำแหน่งของพลเอกสุจินดา คราประยูร ซึ่งนำโดย พลตรีจำลอง ศรีเมือง ผู้ต่อต้านโดยอ้างว่า พลเอกสุจินดา ตระบัดสัตย์ ผลที่สุดเรื่องนี้จบลงด้วยนายอานันท์ ปันยารชุน ได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
สรุปรวมความว่า การที่นักการเมืองตระบัดสัตย์นั้น มีผลกระทบทางการเมืองไม่มากเท่าผู้ถืออาวุธตระบัดสัตย์ ฉะนั้นปัจจุบันการกระทำของคณะปฏิวัติจึงมีความสำคัญต่ออนาคตการเมืองของประเทศมาก เพราะสังคมไทยในปัจจุบันยอมรับว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบที่เป็นไปตามโรคแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นที่ยอมรับได้ แต่ถ้ามีเหตุการณ์แปรเปลี่ยนไปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับคณะปฏิวัติภายใต้การนำของพลเอกสุจินดา คราประยูร อาจจะกลับมาหลอกหลอนสังคมไทยอีกได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ ดำเนินต่อไปโดยราบรื่น จึงใคร่วิงวอนขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำเนินการทางการเมืองของประเทศไปตามโรดแมปที่วางไว้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดำเนินไปตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยให้บรรลุถึงสิ่งที่ประชาชนปรารถนา ถ้าเป็นไปได้ตามสถานการณ์ดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าจะได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็น สุภาพบุรุษแห่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี