เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญจากศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีภูเก็ต ให้ไปบรรยายให้กับนักเรียนมัธยมปลาย โดยให้ผมเลือกหัวข้อเอง ซึ่งก็ได้แจ้งหัวข้อไปล่วงหน้าว่า “อะไรที่ควรรู้” แต่เมื่อถึงเวลาบรรยาย ก็ได้เติมวลีอีกนิดว่า “(แล้ว) ทำไมถึงต้องรู้”
ผมก็เท้าความโดยสรุปเรื่องเกี่ยวกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดภูเก็ตว่าสำคัญอย่างไร ซึ่งภูเก็ตเป็นเกาะใหญ่ในแถบทะเลอันดามัน อันเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย และอยู่ทางตอนเหนือของช่องแคบมะละกา
ตามประวัติศาสตร์ ภูเก็ต หรือถลาง ถือเป็นเมืองชั้นเอก เป็นด่านหน้าของสยามตั้งแต่สมัยอยุธยา ธนบุรี จนถึงรัตนโกสินทร์ ฉะนั้นเมื่ออิทธิพลของฝ่ายตะวันตกเริ่มเข้ามา นำโดยฝ่ายโปรตุเกส ภูเก็ตจึงกลายเป็นจุดติดต่อกับโลก โดยทำหน้าที่หลากหลาย คือเป็นทั้งฝ่ายต่างประเทศ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมืองและการพาณิชย์
มาบัดนี้ ภูเก็ตได้เติบโตเป็นเพชรน้ำหนึ่งด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก และทำรายได้ให้แก่ประเทศชาติอย่างมากมายมหาศาล
นอกจากนั้นภูเก็ตก็เหมือนเช่นจังหวัดอื่นๆ ของไทย คือต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ ก็หนีไม่พ้นปัญหาดั้งเดิมของไทย นั่นคือปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งมักจะเกี่ยวโยงกับการค้ามนุษย์ อีกทั้งโดยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ก็อยู่ในเส้นทางของการอพยพลี้ภัยทางเรือของชนกลุ่มน้อยพม่า ได้แก่ชาวมุสลิมโรฮีนจา
จากที่เกริ่นๆ มาโดยสังเขป จึงพูดได้ว่า ภูเก็ตนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศไทย ก่อนจะเข้าไปสู่ช่วงหลังๆ ของการบรรยายว่า เรื่องต่างๆ เหล่านี้ มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับนักเรียนแต่ละคน
ผมได้ขยายความว่า เพราะทุกคนนั้นร่วมกันเป็นเจ้าของเกาะภูเก็ต และฉะนั้น จึงถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อความเป็นไปต่างๆ ของภูเก็ตโดยปริยาย ซึ่งก็เป็นไปตามสิทธิและหน้าที่ และเป็นโอกาสในชีวิตของการทำมาหากิน โดยทิศทางความเจริญก้าวหน้าของภูเก็ตในยุคสมัยนี้ จะต้องเป็นไปในแนวทางแห่งความยั่งยืน สอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ฉะนั้นทุกคนก็ต้องร่วมมีความรับผิดชอบ มีความหวงแหน และทำตัวเป็นเจ้าของร่วมในการทำนุบำรุงรักษา และเสริมสร้างความเจริญก้าวหน้า
ผมก็ได้พยายามให้นักเรียนได้ตระหนักถึงความเป็นเจ้าของร่วม และได้ฝากเป็นการบ้านให้สนอกสนใจ และร่วมพัฒนาท้องถิ่นของตนในการจะขับเคลื่อนความเป็นไปของภูเก็ต การมีส่วนร่วมของชาวภูเก็ตจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ซึ่งก็สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ภายในครอบครัว ภายในโรงเรียน ไปจนถึงภายในองค์กรปกครองท้องถิ่น จนถึงระดับจังหวัด ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูล มีการปรึกษาหารือ ร่วมคิดร่วมทำกัน เป็นความสัมพันธ์ในแนวราบ มากกว่าแนวดิ่งอย่างที่แล้วๆ มาในอดีต คือการสั่งการจากระดับบนสู่ระดับล่าง แม้กระทั่งในระดับครอบครัวที่มักจะขาดการพูดจาหารือกัน
นอกจากการบรรยายที่โรงเรียนแล้ว ผมก็ได้มีเวลาไปตระเวนชื่นชมทัศนียภาพ โบราณสถาน ย่านค้าขาย และสักการบูชาวัดวาอาราม อีกทั้งได้ไปแวะเยี่ยมเยียนชุมชนประมงริมคลองที่ไหลลงทะเลตรงหาดป่าตอง ซึ่งผมเคยนำทุนช่วยเหลือจากชาวอเมริกันช่วงเหตุการณ์ สึนามิ มาสร้างบันไดซีเมนต์ เพื่อให้ชาวบ้าน ชาวประมง 17 ครอบครัว ขึ้นลงจากที่พักริมหาด ริมคลอง ไปที่ถนนใหญ่บนไหล่เขาได้ บันไดยังอยู่ในสภาพดี ชุมชนยังอยู่อย่างยั่งยืน (ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่า มิได้สูญหายไปจากอิทธิพลท้องถิ่น หรือจากการฉ้อฉลของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง) เมื่อได้เยี่ยมเยียนแล้ว ก็เอ่ยปากฝากฝังผู้หลักผู้ใหญ่ของภูเก็ตเอาไว้ด้วย
ผมสังเกตว่า ถนนหนทางในภูเก็ตนั้นมีเพิ่มขึ้นมาก ที่มีอยู่แล้วก็ขยายกว้างขึ้น แต่ที่น่าเศร้าใจก็คือ บรรดาป้ายโฆษณาแสนจะรกลูกนัยน์ตา ซึ่งไม่ได้สอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ถนนหลักๆ นั้นยังขาดท่อระบาย ขาดต้นไม้ เส้นทางก็แสนจะรกรุงรัง วุ่นวาย เมืองภูเก็ตและทุกชายหาดยังคงขาดที่จอดรถ (Parking Lot) และขาดรถเมล์ประจำทาง ก็เรียกว่า ภูเก็ตโด่งดังเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ภูเก็ตยังมีจุดด้อยในเรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ
เรื่องเหล่านี้ ก็คงต้องฝากเยาวชนภูเก็ตเอาไว้ให้ได้เป็นพลังช่วยกันร่วมมือพัฒนาสิ่งดีๆ และแก้ไขจุดด้อย นอกจากนั้น ก็ขอฝากเยาวชนทุกจังหวัดให้ไปพินิจพิเคราะห์ปัญหาของชุมชนของตนเองว่า จะก้าวหน้าไปในทิศทางใด เพราะเอาเข้าจริงแล้ว ปัญหาต่างๆ ของทุกจังหวัด ก็คล้ายๆ กัน ซึ่งในวันนี้ นอกจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะต้องให้ข้อมูล เปิดเวทีการหารือแล้ว ก็ต้องอาศัยพลังเยาวชนที่จะเติบโตขึ้นมาและได้มาช่วยกันดูแลบ้านเมืองในอนาคต
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี