เป็นที่ภาคภูมิใจเมื่อเมืองหลวงอย่าง กรุงเทพมหานครได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยว อันดับต้นๆ ของโลกถือเป็นสวรรค์สำหรับนักเดินทาง แต่เป็นที่ทราบดีว่าเรื่องจราจรติดขัด และอุบัติเหตุบนท้องถนน ติดอันดับไม่เป็นสองรองใครในโลก หากนั่งรถสาธารณะคงหลับได้สักตื่น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมมือแก้ไขฝ่าวิกฤติเหล่านี้ เพื่อความสะดวกของทุกคน
นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพื้นที่ จะคอยยืนเป่านกหวีดใส่ถุงมือโบกรถ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ภายใต้การควบคุมของ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผบก.จร. ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคำว่า รถติดวินาศสันตะโร จะออกจาก กทม. โดย ผบก.จร.มองว่าอนาคตสภาพการจราจร จะดีขึ้นกว่าปัจจุบันแน่นอน เป็นมะเร็งที่เกาะกินคนกรุง มานานหลายปีและยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
แต่กว่าจะมาเป็น จ.1 เส้นทางรับราชการ พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ หรือ ผู้การแป้น นรต.รุ่น 38 เริ่มต้นด้วยการอยู่ในแวดวง นักสืบ สังกัด บช.น. บช.ภ.9 ก่อนมาเป็นนายเวร พล.ต.อ.มีชัย นุกูลกิจ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ จากนั้นย้ายเป็น รอง ผกก.จร.สน.ตลิ่งชันผกก.สน.บางขุนเทียน ผกก.ดส.บช.น. ผกก.สน.บางบอนรอง ผบก.อคฝ. รอง ผบก.จร. ผบก.กองวินัย และขึ้น ผู้บังคับการตำรวจจราจร
พล.ต.ต.ธีรศักดิ์เผยความรู้สึกว่า สืบสวนเป็นงานรักสมัยหนุ่มๆ เมื่อมาทำหน้าที่จราจรถือว่าเป็นงานที่ทำประโยชน์ให้สังคม ตนอยู่ไหนก็อยากทำงานอยู่แล้ว กรุงเทพฯ ติดอันดับต้นๆ เมืองใหญ่ของโลกที่มีปัญหารถติด รวมถึงเรื่องอุบัติเหตุ ตรงนี้เกี่ยวกับหน้างานเราโดยตรง มีโจทย์ที่จะต้องแก้ไขปัญหา ถ้าทำได้ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)จะเป็นความท้าทายที่น่าทำ
“เป็นปัญหาทุกเมืองของโลก เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว แต่ของเขารถติดแบบไปเรื่อยๆ เราเสียเปรียบตรงที่ว่า มีประชากรอยู่ 5 ล้านกว่าคน มีรถยนต์ที่จดทะเบียนเมื่อ 31 ธ.ค. 2559 ทั้งหมด 9 ล้านกว่าคัน เมื่อเปรียบเทียบกับลอนดอน ประชากรไม่ต่างกันมาก ปรากฏว่ามีรถอยู่ 2 ล้านกว่าคัน”
รัฐบาลเองพยายามมองปัญหานี้ การก่อสร้างทางรถไฟฟ้าอาจจะไม่สะดวกกับพี่น้องประชาชนสิ่งที่จะมองเห็นอนาคตลางๆ คือพฤติกรรมการเดินทางของผู้คน หากรถไฟฟ้าทุกสายเริ่มทยอยเสร็จ สภาพการจราจรจะดีขึ้นกว่านี้ ถ้าเราไม่แก้ไขเรื่องปริมาณรถ จะมีปัญหาหนักกว่าการจราจร คือรถไม่มีที่จอดอย่างจะเข้าไป เขตพระราม 1, 4 ตัวอย่างวันสงกรานต์ ถ.สีลม รถไม่ติดเพราะใช้รถไฟฟ้า
เรามีศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร-บก.02 เป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา 5 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.การลดจุดตัด ปัญหาคอขวด หรือที่เป็นกายภาพ ขณะนี้ทำสำเร็จแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ 2.การกวดขัน แก้กฎหมายจราจร 3.การบริหารจัดการและเทคโนโลยี
4.การขนส่งสาธารณะ และ 5.การประชาสัมพันธ์ มีจส.100, สวพ.FM91 และสื่อมวลชนหลายสำนัก กระจายข่าวไปยังพี่น้องประชาชน ที่จะมีผลกระทบต่อการจราจร เพื่อรับรู้ รับทราบ ตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินทาง จากบ้านไปยังจุดเป้าหมายที่จะไป วิธีการเลือกเส้นทางมีทั้ง Google เว็บไซต์ กทม. บก.จร. เราทำทุกวันว่าวันนี้จราจรเป็นอย่างไร เป็นลักษณะ Real time ทั่วโลกเขาทำกันอยู่แล้ว
เจ้าของรหัส จ.1 กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนได้พยายามดึงภาคีเครือข่ายส่วนร่วม กรณีฝนตกน้ำท่วมยังมีเจ้าหน้าที่ กทม. ช่วยอำนวยความสะดวก สาเหตุอีกอย่างทำให้จราจรติดขัด คือการจอดรถขีดขวางทางเราต้องบังคับใช้กฎหมาย และปลูกฝังให้เคารพกฎ หากแก้ตรงนี้ได้ต่อมา คือเรื่องรถเสียระหว่างทาง เกิดอุบัติเหตุ ถ้าเอาออกจากผิวการจราจร ให้เร็วที่สุดได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
“ทุกงานถ้าทำจริงผมว่าไม่ยาก มันสามารถแก้ไขได้ ผมไม่ใช่คนเก่ง ไม่สามารถแก้ไขปัญหา ด้วยตัวคนเดียวเองได้ ต้องอาศัยความร่วมมือทุกด้าน ฝนตกน้ำท่วมรถติด ก็ด่าตำรวจจราจร ถ้าตำรวจเราไม่อยู่ช่วงรถติด ก็ขอน้อมรับความผิด ยินดีได้รับคำถูกดุด่า แต่ตอนนี้เรามี กรมอุตุฯ กทม. ช่วยกันดูอยู่ที่ บก.02 การพร่องน้ำอาจจะช้าไปบ้างตรงนี้ทางฝ่ายผู้รับผิดชอบ เขาพยายามทำกันอยู่แล้ว”
ส่วนข้อครหาตำรวจกับประชาชน ตนพยายามเอาเทคโนโลยีเข้าไปใช้ และถอยตำรวจออกมาไปทำหน้าที่ ในเรื่องการเลื่อนไหลของจราจร อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมาย เป็นผลที่ดีสุดที่จะหยุดยั้ง ทั้งเรื่องเมาแล้วขับ หมวกนิรภัย ที่มีผลโดยตรงต่อประชาชน สิ่งที่ตนทำไม่ใช่เพราะหน้าที่ แต่คือสิ่งที่สมควรต้องทำ จะด่าตนก็ได้หากอุบัติเหตุลดลง นับกันจริงๆ ในกรุงเทพฯ ยังถือว่าน้อยกว่าภูธร
ผู้การแป้น วัย 55 ปี ทิ้งท้ายว่า ถามว่าพอใจไหม กับการแก้ไขปัญหาจราจร มันต้องวัดจากความรู้สึกของผู้ใช้รถใช้ถนน เวลาตนทำอะไรจะทำให้สำเร็จตนอ่านอนาคตไว้ชัดเจนว่า กรุงเทพฯสามารถแก้ได้ และการมาทำตรงนี้รู้สึกว่า เหมือนทำบุญด้วยหน้าที่ เพราะลดปัญหาการบาดเจ็บ สูญเสีย หรือตายได้
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี