ศึกชิงอำนาจเริ่มเข้มข้นระหว่างนายกรัฐมนตรีจาก คสช. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ครองเก้าอี้มา 4 ปีเต็มๆ ผ่านมาถึงปีที่ 5 คณะ คสช. ทหารหาญหากอยากจะได้อำนาจบริหารประเทศต่อไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ก็ต้องกุมเสียงสนับสนุนจากบรรดา สส. ในสภาล่าง คือ สภาผู้แทนราษฎรที่มี 500 เสียง ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขตเลือกตั้งให้ได้ประมาณ 150 คะแนนขึ้นไป รวมกับสภาสูง สมาชิกวุฒิสภาที่จะมี 250 เสียง เพื่อให้มีคะแนนหนุน 400 เสียง จาก 750 คะแนน
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารช่วงนี้ออกมาเตะตัดขาทุกๆ กรณีเพราะหากให้ “ลุงตู่” อยู่ต่อ การกลับมาของ
นายใหญ่จากนอกประเทศก็จะลำบากมากๆ คดีความต่างๆที่นายใหญ่และบรรดาบริษัทบริวารโดนฟ้องอยู่การจะเดินแต้มออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยแบบสมัยรัฐบาลน้องสาวน่าจะทำได้ยากหรือทำไม่ได้เอาเลย การไม่ให้ “ลุงตู่” คัมแบ๊กหลังเลือกตั้งจึงเป็นกระบวนการที่ต้องเดินเกมทุกวิถีทางการออกมาให้สัมภาษณ์โจมตี“ลุงตู่” หรือสร้างกระแสข่าวปั้นเรื่องเท็จ
เพื่อนำเอาความผิดไปป้ายสี “ลุงตู่” ให้มีมากที่สุดจึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งโหมกระแสไฟเพิ่มฟืนเข้าไปให้มากๆ แม้คดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวาดจับอลัชชีที่แฝงเร้นหาประโยชน์อยู่ในคณะกรรมการมหาเถรสมาคม มาช้านานเป็นสิบๆ ปีจีงถูกโจมตีว่านายกรัฐมนตรีไทย เอาใจศาสนาอื่นมากเกินความพอดีมีกระแสโซเชียลออกมากล่าวหา“ลุงตู่” แบบหนักหน่วงที่สุดเพื่อไม่ให้โงหัวได้
บางเรื่องที่เป็นข่าวที่ไม่ดีของข้าราชการก็ถูกลิ่วล้อ “นายใหญ่” โจมตีว่ารัฐบาลรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริตฉ้อราษฎร์ทั้งในกระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกโยงใยไปหา “ลุงตู่”ทุกๆ รายการทั้งๆ ที่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
แม้แต่การพักงานนายกเทศมนตรี, นายก อบจ.นายก อบต. ทั้งหลายก็ถูกโยงไปหา “ลุงตู่” อีกจนได้หาว่า
กลั่นแกล้งฐานคะแนนเสียงกลุ่มอำนาจเก่าของนายใหญ่ดูไบไปโน่นเลย เรียกว่าช่วงนี้มีงานการที่ไหนจะถูกลูกน้องนายใหญ่อัดหนักๆ ทุกๆ วินาทีเลยทีเดียวจะไม่ว่างเว้นไปได้
อีกกรณีที่มีการเพ่งเล็งอย่างการเดินทางไปประชุมครม.สัญจรในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ ตอนล่าง ในระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน ที่จังหวัดนครสวรรค์,พิจิตร, อุทัยธานี และกำแพงเพชร ก็ต้องถูกมองว่านายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ไปหาเสียงเป็นการบุกถิ่นเหนือล่าง เพื่อโกยคะแนนเสียงให้แก่พลเอกประยุทธ์เช่นที่เคยถูกโจมตีมาทุกๆ ครั้ง
4 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง แห่งนี้ มีพิจิตร ที่เป็นฐานคะแนนเสียงของหลายพรรครวมกัน คนดังในพื้นที่นี้
เดิมคือ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, นายนราพัฒน์ แก้วทอง, นายไพฑูรย์ แก้วทอง, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ และนายวินัย ภัทรประสิทธิ์
ส่วนอดีต สส.นครสวรรค์ ก็มีหลายคนบางคนก็ลี้ภัยหนีเงื้อมือกฎหมายไปต่างประเทศ บางคนก็ต้องคดีฆาตกรรมอำพรางรายชื่อนักการเมืองที่นี่ได้แก่นายวีรกร คำประกอบ, นายดิสทัต คำประกอบ,นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร, นายสัญชัย วงษ์สุนทร,พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ, นายทายาท เกียรติชูศักดิ์,นายประสาท ตันประเสริฐ เป็นต้น
มาที่เมืองกล้วยไข่กำแพงเพชรเป็นถิ่นของพรรคเพื่อไทย แกนนำ ได้แก่ นายเรืองวิทย์ ลิกค์, นายวราเทพ รัตนากร, นายไผ่ ลิกค์, นายปรีชา มุสิกกุล, นายอนันต์ ผลอำนวย, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ส่วนพื้นที่อุทัยธานี นั้น อดีตสส. ได้แก่ นายกุลเดช พัวพัฒนกุล และนายชาดา ไทยเศรษฐ์
โครงการใหญ่ในพื้นที่ 4 จังหวัดนั้น มีกระแสข่าวออกมาว่า ได้แก่ การพัฒนาบึงสีไฟ ที่พิจิตรและการพัฒนาบึงบอระเพ็ด 2 ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ให้เป็นแหล่งน้ำจืดเพื่อการชลประทาน, การประมง, การท่องเที่ยวแบบครบเครื่องชนิดให้ขยายพื้นที่กักเก็บน้ำด้วยการขุดให้ลึกมากขึ้นไม่เกิดปัญหาในขณะที่ฝนแล้งจนน้ำแห้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
ขณะนี้หอการค้าและคณะกรรมการ กรอ.ของ 4 จังหวัด คือ กำแพงเพชร, พิจิตร,นครสวรรค์, อุทัยธานี มีแผนเสนอขอรับงบประมาณช่วยเหลือจากการประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้ ที่นครสวรรค์ในวันที่ 12 มิถุนายน อย่างเต็มพิกัดขออะไรได้ก็ขอรับรองว่า “ลุงตู่” พร้อมกระจายงบประมาณลงมาให้มากเป็นพิเศษแน่นอนแต่ถ้าขอมาแบบผิดหลักเกณฑ์ “ลุงตู่” ก็อาจจะไม่ให้ก็ได้นะเพราะถ้ามันผิดคงให้ไม่ได้หรอก
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี