หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ปฏิบัติการถอนรากถอนโคน “เงินทอน” ในครั้งนี้ “เสือไท” มองว่า ยิ่งกว่าการสะสาง “พระไตรปิฎก” เสียอีก เพราะการ“สะสาง” พระที่ใช้“จีวร”หรือ“ผ้าเหลือง”เข้ามาทำมาหากิน อยู่กันเป็นล่ำเป็นสันมานับศตวรรษ คราวนี้เราจะมีแต่“พระดี” พระที่กราบแล้วสบายใจเสียที...
nn ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้มีอยู่ 2 ประการ ประการแรกคือคนของ พศ. หากินกับพระด้วย ประการที่ 2 พระนอกรีตเหล่านี้ มีพระผู้ใหญ่ให้ความคุ้มครอง พูดง่ายๆ คือ หัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก ฉะนั้นข้าราชการชั้นผู้น้อยอย่าง พศ. จึงไม่กล้าดำเนินการอะไร เราจึงเห็นว่า พศ.บางยุคก็เลยตามเลย กินตามน้ำ พระเอาคนในพศ.ก็เอาบ้าง มันเลยกลายเป็น“ขนมผสมน้ำยา”...
nn “เสือไท”ขอชูนิ้วโป้งให้ ผอ.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ แต่คงไม่ใช่เฉพาะ ผอ.พงศ์พร หรอกแต่น่าจะมีที่เหนือกว่า ผอ.พงศ์พร ที่“ไฟเขียว”ให้ดำเนินการ ส่วนจะเป็น“พระ”รูปใด บรรดาสาธุชนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารก็น่าจะทราบว่า ยุคนี้ จะไม่มีพระรูปใดที่ทำผิดทุจริตงบประมาณแผ่นดินอีก...nn เรื่องการทุจริตงบประมาณแผ่นดินก็อีกเรื่อง ส่วนเรื่องเงินบริจาคที่มาจากญาติโยม ก็เป็นที่ครหานินทาวัดดังๆกันพอสมควร ปัจจุบันนี้พูดก็ พูด “วัด” กลายเป็นสถานที่ทำธุรกิจไปเสียแล้ว บางวัดให้เอกชนเช่าที่ ไม่ทราบว่าเดือดร้อนเงินอะไรกันนักหนา บางวัดใช้ลานวัดให้เช่าทำตลาด ขายของเสียงดังเอะอะโวยวาย แยกกันไม่ออกว่าอันไหนตลาดสด ร้านค้า อันไหนอุโบสถ อันไหนศาลาการเปรียญ อันไหนกุฏิพระ เพราะว่ามั่วกันไปหมด แล้วพระสงฆ์ที่จะต้องนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม จะเอาสมาธิ จะเอาจิตใจที่สงบที่ไหนมาปฏิบัติธรรมได้ เพราะมันแวดล้อมไปด้วยสิ่งยั่วยวน และอบายมุขทางโลกทั้งนั้น...
nn อย่างที่ ผอ.พงศ์พร ส่งหนังสือไปยังวัดต่างๆ เพื่อขอให้ส่งระบบการบริหารจัดการบัญชีเงินวัดมาให้ พศ.ดู และอยากจะหา “วัดต้นแบบ” ที่ไม่จับเงิน “เสือไท” ก็จนปัญญาว่า จะไปหาที่ไหนในประเทศไทย วัดที่พระไม่จับเงิน ไม่ว่าเงินบริจาคหรือเงินงบประมาณ หายาก แต่หากเอาตามที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน เคยเสนอคือให้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินของวัด และบัญชีพระ พร้อมกำหนดให้“เงินทำบุญ” เป็นเงินวัดไม่ใช่เงินพระ จะทำให้แก้ปัญหาการทุจริตได้ในระดับหนึ่ง...
nn ฮัดเช้ย!!!มีพรายกระซิบบอก “เสือไท” ว่า อย่าลืม มหาเถรสมาคม (มส.)องค์กรปกครองสงฆ์ เพราะถือว่าเป็นอีกต้นทางที่ทำให้เกิดการ“ซื้อขายสมณศักดิ์” ซึ่งก็ใช่ เพราะว่า รูปแบบการบริหารจัดการของ มส. เปรียบเสมือนเป็นครม.สงฆ์ เหมือนกับครม.ทางโลก ฉะนั้นบรรดาผลประโยชน์ทั้งหลายทั้งปวงก็วิ่งเข้าหาพระผู้ใหญ่ มีคนกระซิบอีกว่า โดยจารีตเมื่อมีการเปลี่ยนพระสังฆราช แล้ว กรรมการมส.ชุดที่ทำงานกับ พระสังฆราช พระองค์เดิม ก็ควรจะลาออก แล้วเปิดทางให้ พระสังฆราช พระองค์ใหม่ ได้เสนอแต่งตั้งกรรมการมส.ใหม่เข้ามา เว้นไว้เฉพาะกรรมการมส.โดยตำแหน่ง ที่ทำแบบนี้เพื่อให้การบริหารจัดการคณะสงฆ์ทำได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญคือแก้ปัญหากรรมการมส.ที่ทำตัวเป็น “มาเฟีย” แสวงหาผลประโยชน์จากพระที่อยากเลื่อนสมณศักดิ์...
nn “เสือไท” เขียนเรื่องพระยาว ไม่ได้แตะการเมือง เอาไว้ครั้งหน้าจะมา“เจาะสนามเลือกตั้ง” ว่าอดีตสส.คนไหนถูกดูดไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ บ้าง โดยเฉพาะอดีตสส.จากพรรคประชาธิปัตย์ งานนี้มีหนาว...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี