พระสงฆ์บนแผ่นดินไทยมีทั้งสองชนิดคือ สงฆ์ที่บริบูรณ์และเพรียบพร้อมไปด้วยศีล แต่ทว่าสงฆ์บางรายก็บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์
สงฆ์ที่บริบูรณ์ไปด้วยศีลจะไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ในวัตรปฏิบัติ อีกทั้งยังไม่แสวงหาโภคทรัพย์ ไม่แสวงหาชื่อเสียงลาภยศสรรเสริญ ไม่ทุศีล ไม่ปลิ้นปล้อนเล่นลิ้นลวงโลก ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสงฆ์จำพวกอลัชชี
สงฆ์แท้ผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยไม่เคยคิดครอบครองทรัพย์สินหรือข้าวของเงินทอง แต่กลับตั้งใจบริจาคทรัพย์สินและข้าวของทั้งหลายให้กับผู้ที่สมควรจะได้รับการช่วยเหลือในทุกกรณี และเต็มใจให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ส่วนสิ่งมีชีวิตจำพวกที่ดูเสมือนสงฆ์ หรือสงฆ์อลัชชีนั้นจะจงใจปกปิดทรัพย์สินบรรดามีที่อยู่ในความครอบครองของตน บ้างก็แอบซ่อนทรัพย์ที่ตนได้มาหลังจากบวชเป็นพระแล้ว โดยจงใจอำพรางด้วยการใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของแทน บ้างก็คัดค้านการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินพระสงฆ์ โดยใช้เพทุบายเล่นลิ้นร้อยเล่ห์ว่า การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของสงฆ์คือการตรวจสอบศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสงฆ์ สงฆ์จำพวกร้อยลิ้นกะลาวนพรรค์อย่างนี้ชอบแถว่าตนเองบวชเรียนมานาน มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เมื่อลูกศิษย์มากก็จึงมีผู้ศรัทธามาก แต่ข้ออ้างดังกล่าวไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับการถือครองทรัพย์สินของสงฆ์แม้แต่น้อย แต่สงฆ์กำมะลอก็ยังคงอ้างความศรัทธาของผู้คนเป็นเครื่องหากิน และใช้เป็นข้ออ้างในการครอบครองโภคทรัพย์โดยมิชอบต่อไป
ถึงเวลาแล้วที่ชาวพุทธในประเทศไทยจำเป็นจะต้องร่วมกันตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและการถือครองโภคทรัพย์ของเหล่าสงฆ์ทุกรูป เพราะสังคมไทยปล่อยให้สงฆ์จำพวกอลัชชีหากินและฉ้อฉลกับพระพุทธศาสนามานานแสนนานแล้ว รวมถึงได้ปล่อยให้สงฆ์กำมะลอหากินกับความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนมาเป็นระยะเวลายาวนานเกินพอแล้ว
เราและท่านได้พบว่าสงฆ์กำมะลอจำนวนไม่น้อยบนแผ่นดินไทยต่างถือครองทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลไว้ในครอบครอง ซึ่งมีผู้ตั้งคำถามไว้มากมายว่า เหตุใดสงฆ์จำนวนไม่น้อยจึงสามารถครอบครองโภคทรัพย์และเงินทองได้ ทั้งนี้อาจจะมีสงฆ์บางรายโต้แย้งว่า แล้วพระสงฆ์ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทองในชีวิตประจำวัน หรือเวลาเจ็บป่วยพระสงฆ์ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ เวลาเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ พระสงฆ์ต้องจ่ายค่าโดยสารรถยนต์ รถไฟ เครื่องบินหรือเปล่า
ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องสงฆ์กับการใช้จ่ายเงินทองในการดำรงชีวิตประจำวัน แต่สงฆ์ต้องไม่ใช้ข้ออ้างนี้เพื่อถือครองโภคทรัพย์และเงินทองจำนวนมากมายมหาศาล สงฆ์จำเป็นจะต้องสำเหนียกไว้ว่าวัตรปฏิบัติของสงฆ์คืออะไร และต้องสำนึกไว้ด้วยว่าสงฆ์คือผู้สละแล้วซึ่งเรื่องทางโลก สงฆ์จะต้องไม่ใช่ผู้ครอบครองโภคทรัพย์และเงินทอง และจำต้องรู้ไว้ด้วยว่าการหากินด้วยการฉ้อฉลจากศรัทธาประชาชนเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจและน่าละอาย
สงฆ์ผู้มีศีลบริบูรณ์ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวการถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน แต่ควรจะเต็มใจให้สาธารณชนตรวจสอบด้วย เพราะนั่นคือการแสดงความบริสุทธิ์ของความเป็นสงฆ์ ส่วนสงฆ์รายใดที่พยายามต่อต้านและหลบเลี่ยงการตรวจสอบการถือครองทรัพย์สิน น่าจะเข้าข่ายสงฆ์กำมะลอที่อาศัยผ้าเหลืองและพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือหากินโดยฉ้อฉล
ขอถามย้ำว่าถ้าสงฆ์ได้ทรัพย์มาอย่างขาวสะอาดบริสุทธิ์แล้ว มีความจำเป็นอันใดที่ต้องเกรงกลัวการถูกตรวจสอบ และขอถามทิ้งท้ายว่า สงฆ์จำเป็นต้องเป็นผู้ครอบครองโภคทรัพย์และเงินทอง เช่นนั้นหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี