ข่าวล่าเผยว่ากลุ่มสามมิตรหรือว่ากลุ่มสาม ส.ผนึกกำลังหลายสายของนักการเมืองทำลายป้อมค่ายพรรคเพื่อทักษิณหรือเพื่อไทยหนุน “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ให้คัมแบ๊กกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัยเพื่อเผด็จศึกทักษิณและมิตรสหายบริษัทบริวารให้ราบคาบตั้งเป้ากวาด สส.ในสภาให้ได้ 200 เสียงเพื่อตั้งรัฐบาลโดยมีเซนต์คาเบรียลคอนเนคชั่นร่วมด้วยช่วยดันอีกแรงแถมฐานทุนหนุนหลังจากกลุ่มคณะศิษย์เก่าซาเลเซียนอีกแรงด้วย
ก็ต้องย้อนกลับไปว่าถึงกลุ่มโรงเรียนฝรั่งที่มาจากโรงเรียนสายคณะภราดาซาเลเซียนทั่วไทยที่มีโรงเรียนดังๆ ในจังหวัดใหญ่ๆ เครืออัสสัมชัญหรืออัสสัมชนิกที่เปิดโรงเรียนเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีฐานพระนักบวชที่เรียกกันว่าพระคาร์ดินัลและอาร์คบิชอปมีสมเด็จพระสันตปาปาแห่งสำนักวาติกันในกรุงโรมอิตาลี เป็นพระประมุขสูงสุด
คริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกนั้นมีผู้ที่นับถือในประเทศไทยมากที่สุดในบรรดานิกายของคริสต์ศาสนาทั้งหมดมากกว่า 10 นิกายนั่นคือประมาณ 1 ล้านคนคณะภราดาซาเลเซียนหรือภราดาเซนต์คาเบรียลมีโรงเรียนทั้งชายหญิงทั่วไทยมากกว่า 40 โรงเรียนมีศิษย์เก่าทั่วประเทศทั้งชายและหญิงมากกว่า 2 ล้านคน ขึ้นไป
โรงเรียนเหล่านี้เช่นอัสสัมชัญพระนครหรือบางรัก อัสสัมชัญศึกษา อัสสัมชัญคอนแวนต์ เซนต์คาเบรียล ซังตาครูซคอนแวนต์ เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ เซนต์หลุยส์ เซนต์หลุยส์ฉะเชิงเทรา เซนต์โดมินิก เซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์มหาวิทยาลัยเอแบคหรือมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สารสิทธิ์พิริยาลัยบ้านโป่งราชบุรี อัสสัมชัญนครราชสีมา เรจินาเชลีวิทยาลัย มงต์ฟอร์ต ฯลฯ
สำหรับโรงเรียนเซนต์คาเบรียลถนนสามเสนเขตดุสิตกรุงเทพมหานครนั้นก่อตั้งหลังมหาสงครามโลกครั้งที่1ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี 2463 มีอายุของโรงเรียนจะครบ 1 ศตวรรษในปี 2563 โรงเรียนแห่งนี้มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงในวงการทหารบกเรืออากาศมากกล่าวกันว่านักเรียนเตรียมทหารส่วนใหญ่จะจบมัธยมศึกษาตอนต้นมาจากเซนต์คาเบรียลมากกว่าโรงเรียนอื่นๆ
ศิษย์เก่าที่เป็นนักการเมืองที่คนไทยรู้จักดีมีมากมาย เช่น นายสมัคร สุนทรเวช นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ นายกร ทัพพะรังสี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล ดร.นพ.พฤฒิชัยดำรงรัตน์ นายจุติ ไกรฤกษ์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ศ.ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ฯลฯ
ที่เป็นข้าราชการทหารบก เรือ อากาศ ตำรวจเช่น “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แกนนำรัฐบาลคสช., พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ, พลเรือเอกพะจุณ ตามประทีป, พลเอกรัชกฤต
กาญจนวัฒน์, พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์, พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์, พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์, พลอากาศเอกอิทธพร ศุภวงศ์, พลเรือเอกธีระ ห้าวเจริญ, พลเอกวัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์, พลเอกวินัย ภัททิยกุล, พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี, พลเอกปรีชา เปรมาสวัสดิ์ ฯลฯ
สำหรับกลุ่มสามมิตรนั้นมีการระบุว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เผยตัวออกมาให้สังคมเห็นในแวดวงการเมืองว่าเขาเป็นผู้ประสานในกลุ่มสามมิตรซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแกนสมทบด้วยบรรดานักการเมืองในสายกลุ่มวังน้ำยม, กลุ่มมัชฌิมาธิปไตย, กลุ่มพลังชล, พรรคภูมิใจไทยเสริมด้วยเซนต์คาเบรียลคอนเนคชั่นที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นแกนนำอีกสายหนึ่ง
สำหรับพรรคภูมิใจไทยนั้นนอกจากนายชวรัตน์ ชาญวีรกูลหรือ “ปู่จิ้น” กับ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้วก็มีนายเนวิน ชิดชอบ กับ “ปู่ชัย” นายชัย ชิดชอบที่จะคอยช่วยเหลือเบื้องหลังแกนนำคนอื่นๆ ก็มีนายอนุชา นาคาศัย กับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม และอดีตสส.ของพรรคอีกประมาณ 10 คน ถือได้ว่าเป็นการผนึกกำลังจากกลุ่มนักการเมืองที่เคยอยู่กับระบอบทักษิณมาก่อนนับร้อยคนก็ว่าได้
กลุ่มสามมิตรหรือว่าสาม ส. ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผนึกกำลังกับดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ศิษย์เก่าอัสสัมชัญบางรักรุ่นน้อง “ปู่จิ้น” และมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นักการเมืองผู้สนิทสนมกับเอกอัครมหาเศรษฐีหลายตระกูลที่จะเป็นฐานทุนให้พรรคประชารัฐนั้นเรื่องเงินไม่แพ้ระบอบทักษิณแน่เพราะมีมหาเศรษฐีหนุนคับคั่งโดยมีเป้าหมายล้มระบอบทุกษิณให้จมธรณีจึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าจะหนุนพลเอกประยุทธ์ไปสู่ดวงดาวได้หรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี