เมื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ได้นำคณะนายทหารเรียกตัวเองว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพ ได้แก่ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาทำการห้ามทัพ ซึ่งในขณะนั้นประชาชนจำนวนมหาศาล ภายใต้การนำของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังออกมาทำการต่อต้านรัฐบาล ซึ่งมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จนทำให้ประเทศไทยเกือบเป็นรัฐที่ล้มเหลว คือ รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำการรัฐประหารขับไล่รัฐบาลในขณะนั้นออกไป และสถาปนาตนเองเป็น องค์อธิปัตย์ปกครองประเทศมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 4 ปี ทำให้ความสงบเรียบร้อยกลับสู่สังคมไทยและกำลังจะผ่อนคลายอำนาจ โดยประกาศใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เมื่อ พ.ศ. 2560 เนื้อหาในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปลี่ยนอำนาจที่อยู่ในมือคณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่ผู้เดียว โดยยินยอมให้ประชาชนมีส่วนในการปกครองผ่านตัวแทนประชาชน ได้แก่ การจะให้มีการเลือกตั้งผู้แทนเข้าไปร่วมบริหารประเทศ โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอำนาจผ่านการแต่งตั้งตัวแทนของตนที่เรียกว่าวุฒิสภามีส่วนร่วมในการปกครองอยู่
ปัจจุบันอยู่ในระยะเวลาเปลี่ยนผ่านจากอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติสู่การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครอง ในส่วนนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ยินยอมให้ประชาชนรวมตัวกันตั้งพรรคการเมืองได้ ซึ่งมีผู้ไปจดตั้งพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก และในจำนวนพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่อาจกล่าวได้ว่ามีพรรคที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งกำลังแปรเปลี่ยนจากเป็นกรรมการเป็นผู้เล่นเสียเองในที่สุด มีข้อที่น่าสังเกตสองประการ คือ เดิม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยแสดงท่าทีไม่สนใจในการทำงานการเมือง แต่ในระยะหลังเมื่อเสียงปี่เสียงกลองดังขึ้น พลเอกประยุทธ์ ได้แสดงออกถึงความเป็นนักการเมืองจนเห็นได้ชัดแม้จะแสดงท่าทีว่าไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็ตาม นอกจากนี้ยังไม่ให้พรรคการเมืองเก่าทำการเคลื่อนไหวจนกระทั่งปัจจุบัน
ฉะนั้นพอจะสรุปได้ว่า การเมืองอาจแปลความหมายถึงอำนาจนั้นมันหอมหวน และเป็นสิ่งเสพติด ผู้ใดที่ได้เข้าสู่วังวนดังกล่าวแล้วยากที่จะถอนตัวออกได้ อย่างไรก็ดี ในกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านได้มีบุญคุณต่อประเทศในการที่ออกมายุติเหตุการณ์ที่ทำให้ประเทศไทยกำลังเดินไปสู่รัฐที่ล้มเหลวและรักษาความสงบตลอดมาในฐานะองค์อธิปัตย์ แต่เมื่อสังคมไทยจะเดินไปสู่สังคมประชาธิปไตยแม้ครึ่งใบก็ตาม สภาพการเมืองไทยจะเปลี่ยนไป ถ้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกภายใต้สถานการณ์ใหม่ ต้องเตรียมตัวเตรียมใจว่าการบริหารประเทศบริบทใหม่คงจะไม่เหมือนในระยะ 4 ปี ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ผู้ที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้ดีที่สุด คือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี