สิ้นเสียงระฆังหมดยกสุดท้าย เป็นสัญญาณสิ้นสุดการทำงาน ให้ก้าวสู่ชีวิตวัยหลังเกษียณ ช่วงเวลาก่อนอายุ 60 ปี อาชีพข้าราชการตำรวจนั้น ได้มีการวางรากฐาน แบบอย่าง แนวทางการปฏิบัติ ถ่ายทอดประสบการณ์ ให้ตำรวจรุ่นหลังนำไปปฏิบัติ เพื่อพิทักษ์รับใช้ประชาชน ที่สำคัญคือการได้ถวายงาน พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ นับเป็นเกียรติ และภาคภูมิใจมากที่สุด สำหรับอาชีพตำรวจทุกคน
พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผบก.จร. หรือ รองฯภู วัย 59 ปี เขาคือส่วนหนึ่งผู้อยู่เบื้องหลัง กิจกรรมสำคัญต่างๆ อาทิ Bike for Mom “ปั่นเพื่อแม่”, Bike for Dad “ปั่นเพื่อพ่อ”, พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช, พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ร.9, งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว และงานสวดมนต์ในพิธีมหามงคล บำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยดูแลงานด้านกิจการพิเศษ มีหน้าที่ออกแบบแผนโครงการ เพื่อจัดการระบบการจราจร ให้สามารถเคลื่อนตัวได้สะดวก ภายหลัง พ.ต.อ.ภูษิต มีโอกาส เข้าเฝ้าฯ ในหลวง ร.10 รับพระราชทานเข็มที่ระลึก 60 พรรษาเนื่องจากได้ถวายงาน Bike for Mom และ Bike for Dad จนผลออกมาบรรลุไปด้วยดี ซึ่งเป็นการจัดการจราจร ที่มีขนาดใหญ่สุดในกรุงเทพฯ ประชาชนร่วมกิจกรรมกว่า 1 แสนคน
รอง ผบก.จร. บอกว่า นอกจากงานด้านกิจการพิเศษ ในส่วนของงานจราจรทั่วไป ตนอยู่ช่วงระหว่างรอยต่อ ระบบอนาล็อกกับเทคโนโลยี สมัยก่อนเมื่อครั้งตนเป็น รอง ผกก.จร.สน.พญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิรถติดมาก จึงเริ่มนำกล้องวงจรปิดมาติด ใช้โครงการว่า Police eyesและเป็นวงเวียนแห่งแรก ที่ใช้สัญญาณไฟจราจร ต่อมามีการนำมาใช้ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และวงเวียนบางเขน
“ติดสัญญาณไฟช่วงแรกๆ ผมไปกินไปนอน อยู่ที่อนุสาวรีย์ชัย ดูว่าจะต้องระบายรถอย่างไร แต่ละด้านควรปล่อยกี่นาที เพราะเป็นศูนย์รวมการจราจรก็สามารถระบายรถได้ดีขึ้น”
สิ่งที่อยากพัฒนาในอนาคต คือระบบสัญญาณไฟจราจร ให้มีความสัมพันธ์กันทั้งหมด หรือเรียกว่า AreaTraffic Control (ATC) เพื่อให้รถที่เข้ามาในระบบ ได้รับสัญญาณไฟเขียวต่อเนื่อง เมื่อก่อนกรุงเทพฯเคยนำมาใช้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่เป็นรูปแบบ Two-way Communication ในการประมวลผลท้ายแถว ตอนนี้ยังเป็นระบบกึ่งอนาล็อก โดยใช้ตำรวจควบคุม ซึ่งรัฐบาลควรลงทุนในส่วนนี้
และระบบผังเมืองพื้นที่ไหน เป็นพื้นที่การศึกษา หรือบริษัทขนาดใหญ่ อย่างบางประเทศมีการติดตั้ง สัญญาณไฟบริเวณทางออก รถในอาคารจะออกได้ก็ต่อเมื่อทางหลักได้รับสัญญาณไฟเขียว ฉะนั้นการเพิ่มตำรวจจราจร ก็ไม่พอกับการขยายของเมือง แม้เราจะมีเทคโนโลยีเข้ามา ตนได้สอนตำรวจรุ่นหลังว่า การอำนวยความสะดวกจราจร ที่เป็นระบบอนาล็อกอยู่นั้น ก็ควรควบคู่ไปกับเทคโนโลยี
“ผมสอนเรื่องการโบกรถ การปรากฏตัว การพูดจากับประชาชน การอำนวยความสะดวกจราจร การช่วยเหลือประชาชน หรือที่เป็นระบบอนาล็อกทั้งหมด ที่เทคโนโลยีไม่สามารถทำได้”
รองฯภู เล่าย้อนเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืมว่า เมื่อครั้งรับราชการอยู่ สน.พญาไท ขณะได้ถวายงานให้ พระองค์โสมฯกับ พระองค์ภาฯ ปรากฏว่ามีรถ จยย. วิ่งตามขบวนเสด็จมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสกัด และขวางทางไว้เด็กทั้งสองที่ขับและซ้อนรถ จยย. ใช้อาวุธปืนที่พกมายิงใส่ตน จนได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่า 1 เดือน ทั้งสองพระองค์ได้ให้การช่วยเหลือ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง
“หลังจากปลอดภัยแล้ว ผมตั้งปฏิภาณไว้ว่านับเวลาที่เหลือต่อจากนี้ จะขอถวายงานให้ทุกพระองค์ จึงได้อาสารับผิดชอบ งานด้านกิจการพิเศษ เพราะว่ารอดตายจาก พระบารมีปกเกล้า”
ตนรับราชการตั้งแต่ ปี 2522 และเกษียณภายในปีนี้ ที่ผ่านมาตนรู้สึกภาคภูมิใจ และประสบความสำเร็จ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ อย่างมากคงเป็นได้แค่ สว. ไม่คาดหวังว่าจะไปไกล เพราะเป็นลูกนายดาบตำรวจ แต่เมื่อขึ้นมาถึงตรงนี้ถือว่า ได้ทำงานในสิ่งที่เราอยากทำตนถือคติให้สนุกกับการทำงาน จะทำให้เราตื่นตัวตลอดเวลา ใกล้เกษียณจึงไม่รู้สึกอะไร เพราะระฆังยังไม่เคาะหมดเวลา
หลังจากนี้คงเฝ้ามอง และฝึกฝนตำรวจรุ่นหลังๆ สิ่งสำคัญงานจราจรคือ 1.เรื่องของการถวายเส้นทางในการดูแลทุกพระองค์ 2.เรื่องการจัดการจราจร ให้สัญจรไปมาได้สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โดยส่วนตัวชีวิตหลังเกษียณ อยากเรียนต่อ ป.เอก ถ้าเรียนระหว่างรับราชการ จะทำงานได้ไม่เต็มที่ การเรียนต้องใช้เวลา และสมองเยอะช่วงเวลาที่เหลือจะขอถวายงาน อย่างเต็มที่จนสิ้นเสียงระฆังหมด
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี