เมื่อต้นสัปดาห์นี้ มีข่าวอดีตข้าราชการประจำ ระดับสูงสุดในกระทรวงหนึ่ง กินยาฆ่าตัวตายในห้องพัก พร้อมกับสุภาพสตรีอีก 1 คน
ข้าราชการผู้นี้ ตามข่าวว่าถูกสั่งออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอผลการสอบสวนที่กำลังดำเนินการอยู่
ทำให้นึกถึงวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นซึ่งมีมานานแล้ว โดยจะทำการฆ่าตัวตายโดยคว้านท้อง (ฮาราคีรี) ตนเองจนเสียชีวิต เมื่อมีเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ เช่น
ผิดหวังอย่างสุดที่จะทนได้
รักษาเกียรติยศ หรือคำพูดของตน
เสียใจอย่างสุดซึ้ง
สำนึกในความรับผิดชอบในกิจการที่ตนดูแลอยู่
สำนึกในความผิดที่ตนทำไป
ในปัจจุบันการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นก็ยังมีอยู่มาก มักจะมีสาเหตุมาจาก
1.สำนึกในความรับผิดชอบ, ในกิจการที่ตนจัดการดูแลอยู่ เช่น รวบรวมเงินเพื่อนๆ ลงทุนในประเทศไทยแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็จำต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยการฆ่าตัวตาย มีนักธุรกิจญี่ปุ่นในไทยบางคนได้ทำมาแล้ว
2.ผิดหวังในชีวิตอย่างสุดที่จะทนได้ เช่น กรณีโจโจ้ซัง ซึ่งมีบุตรกับ พิงเคอร์ตัน นายทหารเรืออเมริกัน แล้วสัญญาว่าจะมารับภายใน 3 ปี เมื่อมาเข้าจริงๆ กลับพาภรรยาใหม่ชาวอเมริกันมาด้วย และยังจะขอลูกโจโจ้ซัง ไปด้วย โจโจ้ซังจึงหยิบมีดที่บิดา ซึ่งเป็นซามูไรเก่า ผู้ได้ทำฮาราคีรีตนเองอย่างสมศักดิ์ศรี มาทำอัตวินิบาตกรรม ซึ่งในใบมีดจารึกไว้ว่า “พึงตายไว้เกียรติยศตน อย่ามีชนม์เมื่อเกียรติมลาย”
3.สำนึกในความรับผิดชอบในภารกิจของตน ที่มิได้ดูแล กิจการที่ตนรับผิดชอบ ให้รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ หรือเกิดการคอร์รัปชั่น จนเสียหายอย่างรุนแรงในองค์กร ไม่ว่าองค์กรนั้น จะเป็น การธนาคาร การอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานของรัฐ จึงต้องแสดงความรับผิดชอบโดยการฆ่าตัวตาย
4.สำนึกในความผิดที่ตนกระทำขึ้นภายในองค์กรนั้นๆ เช่นเป็น CEO ของบริษัทใหญ่ๆ หรือเป็นนายกเทศมนตรีของเทศบาลขนาดใหญ่ แล้วตนหรือครอบครัวไปหาประโยชน์โดยมิชอบ หรือที่เรียกว่า คอร์รัปชั่น จึงฆ่าตัวตายด้วยวิธีการต่างๆ ด้วยความสำนึกผิด
5.รักษาเกียรติยศของตนเอง และของสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นกรณีของพลเอกโตโจ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นนำประเทศญี่ปุ่นเข้าสงครามโลก สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1939-1945) จนกระทั่ง ญี่ปุ่นเสียทหารไปอย่างมากมาย และประเทศญี่ปุ่นถูกอเมริกันทิ้งระเบิดปรมาณู ในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ.1945 คนบาดเจ็บล้มตายหลายแสนคน พลเอกโตโจ พยายามฆ่าตัวตายก่อน แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกจับกุมตัวขึ้นศาลอาชญากรสงครามฝ่ายพันธมิตร เขาได้ยืนยันความรับผิดชอบแต่ผู้เดียวในการเกิดสงคราม และให้การว่าสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ มิได้ทรงเกี่ยวข้องกับการเริ่มสงครามเลย เขาจึงถูกศาลลงโทษ ให้ประหารชีวิตในข้อหาอาชญากรสงคราม ในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2491 (ค.ศ.1948)
เหตุการณ์ในเมืองไทย ที่ข้าราชการประจำระดับ ซี 11 ได้กระทำอัตวินิบาตกรรม จะด้วยเหตุผลประการใดประการหนึ่งของ 5 ข้อข้างต้น หรือด้วยเหตุผลข้ออื่น ก็ยากที่จะเดาได้ เพราะเขายังมิได้ถูกตัดสิน และยังมิได้ถูกตั้งข้อหาด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี นับเป็นตัวอย่างที่ดีของข้าราชการประจำ ว่าเมื่อมีการเสียหายขึ้นในหน่วยงาน ตนก็จะมีความสำนึกรับผิดชอบ และถ้ามีความรู้สึกรุนแรง หรือมีความกดดันอย่างอื่นด้วย การฆ่าตัวตายแสดงความรับผิดชอบ ก็เป็นการแสดงออกซึ่งสปิริต ซึ่งไม่ควรแก่การถูกประณาม
ในฐานะที่ผู้เขียน ได้เคยเขียนไว้ใน “แนวหน้า” หลายครั้งหลายหนว่า นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมาเมื่อปี พ.ศ.2475 ศีลธรรมของคนไทยได้เสี่ยมโทรมลงอย่างมาก จรรยาบรรณของผู้นำของฝ่ายรัฐกิจ อันได้แก่นักการเมืองน้ำเน่า ที่มักทำธุรกิจการเมือง นำการคอร์รัปชั่นเข้ามาสู่สายเลือดของรัฐกิจ มาสู่ข้าราชการประจำ สู่องค์การรัฐวิสาหกิจ สู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อันได้แก่ อบจ., อบต., เทศบาล ฯลฯ เป็นต้น
จึงอยากจะให้ประชาชนช่วยกันพิจารณาดูว่า นักการเมืองน้ำเน่าของประชาธิปไตยระบบรัฐสภา (Parliamentarian Democracy) ใครบ้างที่ร่ำรวยมหาศาลขึ้นจากธุรกิจการเมือง ใครบ้างที่ทำให้ประเทศเสียหาย จากกรณีต่างๆ หลายหมื่น หลายแสนล้านและใคร่ให้นักการเมืองเหล่านั้น ได้พิจารณาว่า ตนได้ทำความสูญเสีย ต่อประเทศชาติอย่างไร เท่าใด
ใครจะเป็นคนทำการ “ฮาราคีรี” ตนเอง ให้เป็นตัวอย่างของข้าราชการการเมือง เป็นคนแรก
ศิริภูมิ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี