l การดิ้นรนของระบอบทุนสามานย์จะหนักและถี่มากขึ้น เพราะเริ่มขาดความมั่นใจ ในสส.และการสนับสนุนฯภาพของอดีตนายกฯทักษิณที่สิงคโปร์ และการโพสต์ภาพสัมภาษณ์สื่อ ที่ลอนดอนตีความได้ 2 ทาง
1.มีความเชื่อมั่นและมั่นใจ ในความจงรักภักดีของสส.และชาวบ้าน โดยเฉพาะภาคอีสานและเหนือ
2.เริ่มมีความไม่มั่นใจ และหวาดระแวงจากการรุกและตอบโต้ของรัฐบาลคสช.ที่ดำเนินการอย่างเป็นระบบ
l ลองฟังคำพูด หรืออาการที่หลุดออกมาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตนได้
-อีสานเขียวเนี่ย พรรคเพื่อไทยมีโอกาสเขียวทั้งอีสาน-เพื่อไทยจะชนะที่หนึ่งแน่นอน
-คือว่าชนะทุกเขต ทั้งอีสานเลยเนี่ย ไอ้พวกที่ไปเนี่ย ผมกำลังจะบอกว่า ทวิตเตอร์ขอบคุณพวกที่ออกจากพรรคไป เพราะว่าได้เป็นคนที่เสียสละอย่างยิ่ง ที่ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นผู้แทนช่าย..ช่าย เสียสละ ผมเลยบอกว่า คนที่ออกจากไปเนี่ย มี 2 ประการ ประการที่ 1 ไปเก็บสตางค์ แล้วเลิกเล่นการเมือง เพราะว่าหน้าโง่จ่ายแทน ก็เก็บตังค์ไป ไปพักผ่อนซะแล้วอีกประเภทหนึ่ง ก็คือว่า มั่นใจในตัวเอง ลืมไปว่าคะแนนตัวเอง สู้คะแนนพรรคไม่ได้มาตลอดมาเที่ยวนี้ก็คงได้เอาเด็กใหม่ๆ ขึ้นมาแทนมั่ง จังหวัดเลย...จังหวัดนครราชสีมา โคราช ต้องมีคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน มีมากเลย....เอ้อ...นี่...ผมเป็นพวกไมค์ ภิรมย์พร (ร้องเพลง) “ไปดีเถอะนะ พี่ขออวยพร” (ตบมือกันเกรียว)
-ผมยังติดต่อกับประชาชนเป็นระยะๆ โทร.หากำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเป็นระยะๆ ทำให้รู้ว่า พวกเขาคิดอะไรอยู่สังเกตดู สส.ที่ออกจากเพื่อไทยมีน้อย ส่วนใหญ่ก็มีคดี จะได้หลุดคดีซะที ไปเหอะ ไปเข้าข้างนั้นเหอะ เพราะเขาเอาคดีมาขู่แล้ว กับอีกประเภทคือ เป็นหนี้-เป็นสินอยู่ๆ เอาเงินก้อนใหญ่มาให้ ก็น่าสนใจอยู่ .............
l จากการประเมินของผู้สันทัดกรณี ซึ่งเคยเห็นอาการ “หลุด” ของอดีตนายกฯทักษิณมาหลายครั้ง ซึ่งเกิดจากความมั่นใจสุดๆ แต่บางครั้ง ก็เกิดจากการ “ปิดบังซ่อนเร้น ความรู้สึกภายใน ที่ผิดหวังลึกๆ” ซึ่งเราๆ ท่านๆ จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนของเจ้าของพรรคที่จะมีอะไรออกมาอีก ในเวลาที่จะถี่ขึ้น เพราะเวลาแห่งการเลือกตั้งใกล้เข้ามาและในส่วนของรัฐบาลประยุทธ์ และพรรคการเมืองปีกรัฐบาล รวมทั้งพรรคการเมืองรวมพลังประชาชาติไทยที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน (Mass Party) พรรคแรกของการเมืองไทย ที่เคยมีมวลชนเรือนสิบล้านเราจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และเราจะประเมินอย่างใกล้เคียงได้มากขึ้น
l สิ่งสำคัญที่ทำให้ “หัวหน้าทัก” หวั่นไหว อย่างน้อยมี 6 ประการ คือ
1.รัฐธรรมนูญฉบับประชามติ และกฎหมายเลือกตั้ง จะลดบทบาทพรรคการเมืองเก่า เพิ่มโอกาสพรรคใหม่โดยจะลดลงไป ประมาณ 30% จากยอดที่เคยได้กัน (จากผู้สังเกตการณ์ และกกต.)
2.การอยู่เป็นรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ประมาณ 4 ปี 10 เดือน ที่มีผลงานที่ชาวบ้านรับได้พอควร
3.การตีออกห่างของพรรคการเมืองขนาดกลางเล็ก ที่เคยร่วมเป็นรัฐบาลกับระบอบทักษิณ ซึ่งได้ปรับแก้ความผิดพลาดจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ที่แพ้พรรคทักษิณ, ซึ่งทักษิณจะเอาชนะไม่ได้ง่ายอีกแล้ว
4.คดีเก่าของสส.ของพรรคที่ลักหลับ กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ และคดีต่างๆ ของแกนนำสำคัญของพรรครวมทั้งคดีที่หมิ่นเหม่ ที่เกิดจาก “พฤติกรรมหลุดของหัวหน้าทัก ที่ลอนดอน” อาจมีผลถึงขั้น “ยุบพรรค”
5.การมีพรรคการเมืองของประชาชน คือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีพลังเข้มแข็งไม่น้อย
6.พลังของประชาชนจิตอาสาฯ ที่จงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์กษัตริย์ ที่จักไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนกลุ่มล้มเจ้า และมีพฤติกรรมจาบจ้วงฯมาตลอด ได้มาเป็นรัฐบาลรวมกับความไม่เข้มแข็งของพรรค การขาดความเชื่อมั่นต่อพี่ทักและน้องปู ที่เอาตัวรอด “ทิ้งลูกน้องรับกรรม” ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของระบอบทุนสามานย์
l ความเห็น “ระบอบสนตะพายธิปไตย” จาก “คอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่ง...วันนี้ ทักษิณคนโกง ศาลลงโทษจำคุก ยังชี้นิ้วสั่งคนในพรรคเพื่อไทยอยู่ บรรดาลิ่วล้อก็เออออตามนั้น ถ้าคนพวกนี้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง คิดหรือว่าจะไม่ทำแบบเก่า ก็เลือกเอาระหว่าง
1.คนที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง กับ
2.คนที่ถูกด่าเป็นเผด็จการแต่ทำเพื่อชาติประชาชน เช็คแถวเพื่อไทย ย้ายชัวร์หรือมั่วนิ่ม
l มาดูทางออก ซึ่งจะเป็นพลังลูกใหม่ของประชามหาชน ที่มีประสบการณ์ และผู้นำที่มีพลังฯ รศ.ดร.ณรงค์ เพชรประเสริฐ กล่าวสรุปในงาน เสวนาเศรษฐกิจการเมืองไทย (๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๑) ขณะนี้ ทางออกจากวิกฤติของสังคมไทย คือ การจัดตั้ง “พรรคการเมืองของประชาชน” ขึ้น 1.ปัจจุบันมีแต่พรรคการเมืองของชนชั้นนำ ที่เป็นของกลุ่มการเมืองกลุ่มทุนฯ ที่เป็นของคนส่วนน้อยในสังคมที่ผ่านมา ยังไม่มีพรรคการเมืองของประชาชน (Mass Party) มีความขัดแย้งทางการเมือง ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ จนมาถึงเหลืองแดงในปัจจุบันมีคนหนุน คสช. และต้านคสช.พรรคการเมืองแบ่งเป็น ๒ ขั้วใหญ่ ที่ช่วงชิงเพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้องประชาชน เป็นเพียงอิฐ ปูทางให้พวกเขา เดินข้ามไป
ทางออก
1.สร้างกระบวนการของมวลชน ที่เป็นจริง มีจุดยึดโยงกับ ปากท้อง อาหาร ….ผลประโยชน์ของประชาชน
2.สร้างอำนาจต่อรองกับกลุ่มทุน และข้าราชการชั้นสูงที่ร่วมมือกับกลุ่มทุนและการเมือง
3.ทำหน้าที่ ตรวจสอบ ทัดทาน “อำนาจรัฐ อำนาจทุนฯ” ซึ่งจะทำได้ ต้องเข้มแข็งมีพลังจริง
4.ต้องมีเครือข่าย “แรงงาน เกษตร ประชาชน การค้า การเงิน...” ที่ให้ประชาชนพึ่งพิง และเป็นความหวังการปรับใช้ เทคโนโลยี มาสู่การสร้างสรรค์ ฯลฯ
5.จัดตั้ง พรรคการเมืองของประชาชน ขึ้นดำเนินปฏิรูปสังคม การเมืองอย่างจริงจัง ได้ผล... รายได้ภาษี กระจายอำนาจ ราชการ ตำรวจ กระบวนการยุติธรรมฯ
l ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองและความคิดของผู้นำมวลชนแต่จุดเปลี่ยนที่จะเป็นพลังชี้ขาด
สำคัญประการหนึ่ง คือ “พลังของประชาชนไทย” ที่เป็น “พลังดิน” มีจุดพลังที่มีความหมาย 3 ส่วน ผู้วัยเกษียณ ผู้กำลังทำงาน และเยาวชน ร่วม 6 ล้าน ที่มีโอกาสครั้งแรก และพลังฟ้า ที่จะติดตามเฝ้าดู มีเจตนายิ่งใหญ่ ที่จะปกป้องแผ่นดินไทย ให้มีความสุข เจริญรุ่งเรืองต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี