เหตุการณ์ลือลั่นสนั่นโลกในการช่วยชีวิตทีมฟุตบอลหมูป่า 13 คน ที่จังหวัดเชียงราย ได้ทำให้คนจำนวนมากได้รู้จักคนทำงานคนหนึ่งที่เรียกว่า ผู้บัญชาการสถานการณ์ หรือผู้อำนวยการสถานการณ์ หรือบ้างก็เรียกว่า ผู้ควบคุมสถานการณ์ หรือบางทีก็เรียกว่า ผู้ว่าฯเชียงราย
แต่จะเรียกว่าอะไรไม่สำคัญ เนื้องานจริงๆ ดังกล่าวนั้นก็คือการอำนวยการสถานการณ์ ซึ่งเป็นปกติที่จะต้องมีการมอบหมาย หรือแต่งตั้ง
ผู้อำนวยการสถานการณ์ เพื่อกำกับควบคุมดูแลสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและประสบความสำเร็จ
ในการยึดอำนาจในบางครั้ง ได้เรียกผู้ทำหน้าที่นี้ว่า ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย บางก็เรียกว่า ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาพระนคร ซึ่งจะเรียกว่าอะไรก็สุดแท้จะว่ากันไปในห้วงเวลาตามประสาไทยๆ ที่พยายามตั้งชื่อเรียกกันตามใจของตัว เพราะไม่อยากได้ชื่อว่า ไปทำซ้ำกับคนอื่น
และน่าแปลกใจก็ตรงที่ ไม่มีใครคิดอ่านบัญญัติศัพท์ของคนทำหน้าที่นี้ ให้เป็นที่เป็นทางเลย ดังนั้นการเรียกชื่อกันไปตามใจของ
ผู้มีอำนาจในแต่ละห้วงเวลา จึงต้องเป็นไปต่อไปเป็นธรรมดา นี้แหละเรียกว่าประสาไทยๆ
เหตุการณ์ช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าที่เชียงรายนั้น เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญหลายอย่าง และความบังเอิญที่สำคัญก็คือ มีคนดีมีฝีมือที่ได้ชื่อว่า ท่านผู้ว่าฯเชียงราย ดำรงอยู่ในตำแหน่งเวลาเดียวกันนั้น ในที่นี้ใช้คำว่าเป็นคนดีมีฝีมือ
เมื่อเป็นคนดีมีฝีมือก็เป็นธรรมดาที่จะทำงานเข้าขาเข้าแข้งกับพวกโกงบ้านโกงเมืองไม่ได้ เพราะคนดีมีฝีมือนั้นย่อมไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์โกงบ้านกินเมืองต่อหน้าตัวเอง ดังนั้นผู้ว่าฯเชียงรายจึงสั่งยกเลิกเพิกถอนโครงการจำนวนมากที่ตั้งเรื่องชงกันมาเป็นทิวแถว แม้กระทั่งเรื่องที่ผ่านไปก่อนหน้านี้ ก็ยังเอื้อมมือไปสั่งยกเลิกเพิกถอน จึงเป็นเหตุให้ถูกรุมกันกล่าวหาว่า เป็นผู้ว่าฯที่ทำงานร่วมกับคนไม่ได้ เป็นคนเรื่องมากเป็นคนที่เข้ากับคนไม่ได้
ในที่สุดผู้ว่าฯเชียงรายก็ถูกย้าย ไปอยู่จังหวัดเล็กๆ ที่รถวิ่งไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็สุดเขตแล้ว ซึ่งย่อมเป็นแบบอย่างในการปรามคนแบบผู้ว่าฯเชียงรายในพื้นที่อื่นๆ ด้วย แต่บังเอิญเกิดเหตุที่ทำให้ผู้ว่าฯเชียงรายกลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งประเทศและชาวโลกที่แม้แต่ผู้นำสำคัญๆ ของโลกก็ต้องออกปากชื่นชม
ถ้าหากว่ามีใครสักคนหนึ่งที่มีอำนาจ แล้วน้อมนำพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้ส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจ ให้กำจัดขัดขวางคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ซึ่งจะก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับบ้านเมืองได้ ความเป็นสิริมงคล และความร่มเย็นเป็นสุขก็ย่อมบังเกิดขึ้น ประเทศไทยเราย่อมดีกว่านี้แน่
เพราะมีผู้อำนวยการสถานการณ์ที่เป็นคนดีมีฝีมือ ทั้งทันท่วงทีต่อเหตุวิกฤติฉุกเฉิน จึงไม่เพียงแต่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สมใจกองเชียร์ทั้งหลายได้เท่านั้น แต่ได้สร้างความชื่นชมและเชื่อถือให้เกิดขึ้นแก่การบริหารราชการแผ่นดินเป็นส่วนรวม เป็นหน้าเป็นตาของประเทศชาติ ทั้งในและต่างประเทศ
ที่ใดก็ตามเกิดเหตุแล้ว ไม่มีผู้อำนวยการสถานการณ์ หรือมีแต่นอนหลับทับหน้าที่ปล่อยให้โกลาหล อลหม่านกันไป ความเสียหาย ความเสื่อม และความอัปยศ ก็ย่อมบังเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จะมาตั้งกันก็ล่าช้ากว่าสถานการณ์ไปนานแล้ว
ก็ไม่อยากออกว่าเป็นที่ไหน
แต่การมีหรือการไม่มีผู้อำนวยการสถานการณ์นั้น ควรจะเป็นบทเรียนอันล้ำค่าของประเทศชาติที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ หรือผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องสำเหนียกสังวรไว้ และต้องเข้าใจรู้เท่าทันวิกฤติหรือเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น
แล้วตั้งผู้อำนวยการสถานการณ์ หรือเข้าทำหน้าที่ผู้อำนวยการสถานการณ์เสียให้ทันท่วงที ก็จะเป็นผลดีแก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นส่วนรวม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี