เพื่อให้ทันเหตุการณ์ ขณะที่คนไทยแทบทั้งประเทศใจจดใจจ่ออยู่กับการค้นหา และกู้ภัย ทีมฟุตบอลหมูป่า แห่งจังหวัดเชียงราย รวม 13 คน
ผมเองก็ติดตามดูอย่างใจระทึก ในขณะเดียวกันก็ห่วงว่า ระบบราชการไทยจะมีความล่าช้าในการปูนบำเหน็จความชอบแก่ชาวต่างประเทศ ที่อุตส่าห์บินมาจากประเทศต่างๆ ด้วยใจอาสาสมัคร (Voluntary mind) เข้ามาช่วยค้นหา และกู้ภัย (Search and Rescue) เด็กของเราทั้ง 13 คน จนเป็นผลสำเร็จไปแล้วทั้ง 13 คน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม 2561 เราใช้นักดำน้ำ รวม 90 คน เป็นนักดำน้ำถ้ำระดับโลก 13 คน รวมทั้งแพทย์ และหน่วยซีล 5 นาย นำทีม และทีมร่วมปฏิบัติการเป็นนักดำน้ำชาวต่างชาติ 50 คน และนักดำน้ำไทย 40 คน ประสบความสำเร็จในการช่วยนำเด็กออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ 4 คน
และเมื่อวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม 2561 เราใช้นักดำน้ำระดับโลก 16 คน หน่วยซีล 63 คน บัดดี้ซีล 23 คน แพทย์ทหารบก SMOT 4 คน ทหารบก 35 คน รวม 141 คน ประสบความสำเร็จนำเด็กออกมาจากถ้ำสำเร็จอีก 4 คน
วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม ก็เป็นวันสุดท้าย ที่นำเด็ก และโค้ช รวม 5 คน ออกมาจากถ้ำได้เป็นงวดสุดท้าย
จากนั้น ชาวต่างประเทศที่เป็นทั้งนักดำน้ำระดับโลก และนักดำน้ำอื่นๆ ก็จะต้องรีบบินกลับบ้านเมืองของเขา เพราะทุกคนก็ย่อมมีภารกิจ และงานประจำรออยู่
เราจะให้เขาบินกลับไปมือเปล่า หรืออย่างไร
เขามิได้ต้องการเงินทอง มิได้ต้องการชื่อเสียง หรือความเด่นดังใดๆ แต่มาด้วยจิตอาสาอย่างแท้จริง
แต่เขาก็ควรได้รับการปูนบำเหน็จความชอบ จากทางราชการของไทยบ้าง
ระบบการปูนบำเหน็จ ซึ่งผู้ได้รับจะภูมิใจไปจนถึงลูกหลานของเขา ได้แก่การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้แก่นักดำน้ำเหล่านี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่เหมาะสม ก็มีทั้งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่กล่าวสกุลสุดท้ายนี้ สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เพื่อพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบเฉพาะผู้ทำคุณประโยชน์ พ่อค้า ประชาชน ที่มีส่วนร่วมช่วยเหลือราชการแผ่นดิน โดยไม่เลือกชาติ ชั้น และเพศ หรือผู้ที่บำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างมหาศาล ช่วยเหลือกิจการสาธารณกุศลด้านสังคม เป็นต้น
ในปี พ.ศ.2538 หลังจากได้มีประกาศใช้ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9ได้พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ผู้ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงแก่ชาติบ้านเมือง และพสกนิกรตลอดพระชนมชีพ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2538 และต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ในโอกาส พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2538 แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งทรงพระคุณอันยิ่งใหญ่รวม 7 พระองค์ อันนับว่าเป็นเกียรติแก่เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ และเป็นสิริมงคลแก่ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ ตลอดไป
โดยที่ทางราชการไทย ควรจะต้องพิจารณาด้วยความรวดเร็วก่อนที่คณะจิตอาสานักดำน้ำจากต่างประเทศจะบินกลับ จึงเห็นควรที่จะต้องพิจารณาปูนบำเหน็จนี้โดยความรีบด่วน
เชื่อว่า นักดำน้ำชาวต่างประเทศ จะมีความภาคภูมิใจในเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะสร้างขึ้นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร
รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็นที่เคารพของปวงชนทั่วโลกแล้ว ยังประกอบด้วยเหรียญตรา แพรแถบ และเครื่องหมายที่เป็นดุมเสื้อ และยังมีประกาศนียบัตร ที่มีตราประทับพระราชลัญจกร ไว้เป็นที่ระลึกตลอดชั่วกัลปาวสาน
ส่วนการปูนบำเหน็จแก่ หน่วยซีล ข้าราชการ ทหาร และผู้มีบทบาทในการค้นหา และกู้ภัยครั้งนี้ ก็ควรจะได้กระทำในโอกาสถัดไป
ศิริภูมิ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี