เมื่อครั้งที่ คสช. เข้ายึดอำนาจใหม่ๆ ก็มีบางประเทศที่ใช้ท่าทีกดดัน กดขี่ข่มเหงประเทศไทย และแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย ที่สำคัญคือหยุดหรือลดการค้าขายระหว่างกัน หรือกีดกันทางการค้า สารพัดวิธีที่จะกดดันบังคับประเทศไทย
โชคดีที่ คสช. ขณะนั้นเป็นอิสระแก่ตัวยืนหยัดพิทักษ์รักษาเอกราชและอธิปไตย ตลอดจนศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของชาติ ไม่ยอมจำนนและก้มหัวให้กับการ
กระทำที่อธรรมทั้งหลาย
รัฐบาลไทยได้ดำเนินการวิเทโศบายปรับทุกข์ ผูกมิตร ขยายมิตร กับบรรดาประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช่พวกนักล่าอาณานิคม ที่กดขี่ข่มเหงประเทศไทยก่อมิตรไมตรี และยกระดับความสัมพันธ์กับหลายประเทศ ทั้งจากกลุ่มอาเซียน จีน รัสเซีย อินเดีย อิหร่าน และหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งแอฟริกา และอเมริกาใต้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้แถลงในลักษณะประกาศนโยบายการต่างประเทศ และการค้าที่โด่งดังไปทั่วโลก นั้นคือ การแถลงประกาศสำคัญใน 2 วาระ คือ
วาระแรก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศว่า ประเทศไทยจะไม่เป็นศัตรูกับประเทศใด เราจะเป็นมิตรกับทุกประเทศ ซึ่งเป็นการประกาศหลักการโดยอิงเอากฎบัตรสหประชาชาติเป็นหลัก ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธได้
วาระที่สอง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศอีกว่า ในเรื่องการค้าระหว่างประเทศนั้น ประเทศไทยมุ่งธำรงรักษาตลาดเก่า ซึ่งหมายถึงการคงหรือพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้า กับผู้ค้าเก่าไว้ให้มั่นคง แต่ในขณะเดียวกันประเทศไทยจะต้องขยายตลาดใหม่ เพื่อให้สินค้าไทยได้ขยายตัวไปโดยไม่มีขีดจำกัด
รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินวิเทโศบาย และนโยบายการค้าระหว่างประเทศตามคำประกาศนั้นอย่างเข้มงวดจริงจัง ซึ่งคนไทยทั้งประเทศจะต้องขอบใจอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และบรรดาทูตทหารไทยทั่วโลกที่ได้ช่วยกันฝ่าความยากลำบาก และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ไม่ว่าในทางด้านเศรษฐกิจการค้า ความมั่นคงทางการทหาร
ครั้นสถานการณ์ของประเทศไทยยืนขึ้นได้ ทำให้ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิยุทธศาสตร์ มีความอุดมสมบูรณ์ มีความเจริญรุ่งเรือง และมีความมั่นคง จึงเนื้อหอมอย่างยิ่งทุกสายทุกกระแสมุ่งหน้ามาที่ประเทศไทย
จึงทำให้นักล่าอาณานิคมทั้งหลาย ไม่สามารถกดขี่ข่มเหงกดดันประเทศไทยได้อีกต่อไป อะไรที่ไม่ยอมขายก็มีประเทศอื่นขายให้ อะไรที่ไม่ยอมซื้อก็มีประเทศอื่นรุมกันซื้อ มาตรการใดที่กีดกันข่มเหงก็มีประเทศอื่นเปิดกว้างต้อนรับและยกย่อง
ดังนั้นจึงเกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายหันมาประจบประแจงใช้ลูกล่อลูกชนเอาอกเอาใจ ประสานกับการเขกหัวลูบหลังตามประสานายทาสที่ถนัดใช้มาตรการเหล่านี้กับทาสทั้งหลาย ซึ่งทำให้เกิดความยินดีปรีดาแก่คนบางพวกที่มีจิตวิญญาณเป็นข้าทาสพากันดีใจได้ปลื้ม
แล้วบิดเบี้ยวทางไมตรีทั้งหลายที่ได้กระทำไว้ในช่วงยากลำบากเสียทั้งสิ้น ฟื้นฟูพฤติกรรมข้าทาสเก่าที่ต่อต้านมิตรประเทศ เยี่ยงเดียวกับยุคสงครามเย็น หรือสงครามเวียดนาม
มาถึงวันนี้ ตลาดเก่า ตลาดใหม่ ที่รัฐบาลได้ประกาศเป็นธงนำพาประเทศในสถานการณ์นี้ก็ถูกล้มครืนลง และต้องยินยอมน้อมหัวปฏิบัติตามที่เขาต้องการดุจดังเมื่อครั้งสงครามเย็น
ดังนั้นการสร้างสรรค์การค้ากับตลาดใหม่ จึงไม่ได้ไปไหนทั้งที่มีความต้องการอย่างล้นหลามถึงขนาดบางประเทศได้แจ้งอย่างหนักแน่นว่า สินค้าใดของประเทศไทยที่บางประเทศนักล่าอาณานิคมกีดกันหรือไม่ซื้อ ก็พร้อมจะรับซื้อทั้งหมดตามที่ประเทศไทยต้องการ
แต่เรากลับยอมให้ราคายางตกต่ำเป็น 5 กิโลกรัม 100 บาท และราคาสินค้าเกษตรอื่นก็ตกต่ำเพียงเพื่อเอาใจใครกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี