จากการที่ชาวไร่ยาสูบในหลายจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสานได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมในหลายจังหวัดเนื่องจากการยาสูบแห่งประเทศไทย หรือโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลังในชื่อเดิมประกาศจะงดรับซื้อใบยาสูบในฤดูกาลที่จะมาถึงอย่างกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และอาจจะไม่รับซื้อใบยาสูบไปอีก 2-3 ปี เพราะยอดขายบุหรี่ลดลงและมีสต๊อกใบยาสูบเหลืออยู่จำนวนมาก ทำให้ชาวไร่ยาสูบกว่า 4 หมื่นครอบครัวในภาคเหนือและภาคอีสานอาจต้องสูญเสียรายได้สำคัญเพราะนอกเหนือไปจากการทำนาปลูกข้าวในแต่ละปีแล้ว ยาสูบยังคงเป็นพืชที่ทำรายได้ให้กับชาวไร่เป็นอย่างดีมาหลายชั่วอายุคน นับเป็นความทุกข์ของเกษตรกรที่ไม่มีโอกาสมากนักในสังคม รายได้ทุกบาททุกสตางค์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
แม้ว่ากระทรวงการคลัง จะออกมาระบุว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่รับซื้อและสั่งให้การยาสูบฯรับซื้อต่อไป แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ วันนี้ทุกข์ของชาวไร่ยาสูบจึงยังไม่คลี่คลาย หากไม่มีคำมั่นสัญญาและแผนที่เป็นรูปธรรมที่จะสามารถทำให้ชาวไร่ยาสูบเชื่อมั่นได้ว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขาโดยเฉพาะรัฐบาลที่มีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ลดช่องว่างระหว่างผู้มีรายได้น้อยกับเศรษฐีหรือผู้มีรายได้สูง
ขณะเดียวกันสิ่งที่ชาวไร่ยาสูบกังวลดูจะไม่ไกลเกินจริงนัก เพราะรัฐบาลได้ประกาศจะเดินหน้าขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่อีก 2 เท่า จากที่เคยเก็บร้อยละ 20 และ 40 ของราคาขายปลีก จะขึ้นเป็นอัตราร้อยละ 40 อัตราเดียวในเดือนตุลาคมปีหน้า เท่ากับว่าบุหรี่ที่เสียภาษีในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งมีถึงประมาณร้อยละ 80 ของบุหรี่ที่ขายในประเทศทั้งหมดจะต้องปรับราคาสูงขึ้นอีกระลอกจาก 60 บาท อาจขึ้นไปถึง 90 บาท ก็เป็นไปได้
ปรากฏการณ์ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่าการขึ้นภาษี ทุกครั้งทำให้ตลาดบุหรี่หดตัวลง แต่ไปทำให้ปัญหาบุหรี่เถื่อน บุหรี่ปลอมระบาดหนักทุกครั้ง โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศและบริเวณแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้านบุหรี่ถูกกฎหมายขายได้ยากลำบากยิ่งขึ้นเพราะบุหรี่เถื่อนขายเพียง 15 บาทต่อซอง ต่างกันถึง 45 บาท แต่การขึ้นภาษีในปีหน้านี้นอกจากจะทำให้บุหรี่เถื่อนแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้นแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อรายได้อาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่และผู้เกี่ยวข้องซึ่งมีนับแสนคนอีกด้วย พ่อค้าของเถื่อนยิ้ม แต่ชาวไร่ยาสูบและผู้ค้าขายแบบสุจริตต้องช้ำใจ
จึงเป็นเรื่องที่กระทรวงคลังต้องนำมาพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบอีกครั้งถึงผลกระทบที่อาจตามมาจากมาตรการภาษีนี้ เพราะหากการยาสูบฯ ไม่สามารถซื้อใบยาสูบจากชาวไร่ได้ในปีหน้าและปีต่อไปเพราะภาษีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า ทำให้ยอดขายของอุตสาหกรรมยาสูบลดลง แต่คนไม่ได้ลดการสูบบุหรี่อย่างแท้จริง และหันไปหาซื้อของเถื่อนของผิดกฎหมายรวมทั้งหันไปสูบยาเส้นมวนเอง ซึ่งราคาถูกกว่ารายได้ของรัฐบาลอาจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ชาวไร่ยาสูบต้องหมดอาชีพหมดโอกาส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี