ทันทีที่ทราบข่าวว่า น้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่ “จ่าแซม” ก็รู้สึกดีใจ ปลื้มใจ ชื่นใจ และขออนุโมทนาด้วย
1. คุณวลีพร กุนัน ภรรยาจ่าแซม เปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจที่น้องๆจะบวชให้พี่แซม
“..ส่วนงานบวชของน้องๆ หากพี่จัดการเคลียร์งานต่างๆ ได้แล้ว อาจจะไป เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ ของพี่แซม อาจจะไปพบกันแบบส่วนตัวมากกว่า เพราะยังมีกำหนดการที่จะนำอัฐิของพี่แซมไปลอยอังคารที่แม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม ในวันที่ 29 ก.ค.นี้ด้วย”
2. โฆษกประจำวัดพระธาตุดอยเวา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายเภาทัณฑ์ ประดิษฐ์ เปิดเผยว่า มีกำหนดการพิธีบวชให้กับทีมหมู่ป่าอะคาเดมีชัดเจนแล้ว ดังนี้
พิธีฮ่องขวัญ หรือ พิธีเรียกขวัญ จัดพิธีแบบล้านนา มีขันตั้งและมีหมอขวัญชาวบ้านมาทำพิธีเรียกขวัญที่กระเจิงไปให้กลับมาอยู่กับตัว และร่วมกันปลงผมนาค โดยมีหลวงปู่ครูบาแสงหล้า ธรรมศิริ วัดพระธาตุสายเมือง เป็นประธานปลงผม ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ เวลา 08.09 น. จากนั้นจะนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติธรรมจำอยู่ที่วัดพระธาตุดอยเวา
พิธีบวชเณร จะมีในวันที่ 25 กรกฎาคม เวลา 07.00 น. โดยจะตั้งขบวนแห่นาคไปประกอบพิธีบวชเณรที่วัดพระธาตุดอยตุง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพื่อประกอบพิธีบวชอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับจ่าแซม น.ต.สมาน กุนัน เจ้าแม่นางนอน เจ้ากรรมนายเวร และแทนคุณพ่อแม่ โดยมีพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์” หรือ “หลวงพ่อดอยตุง” เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง เจ้าคณะอำเภอแม่สาย เป็นพระอุปัชฌาย์
ภายหลังพิธีบวชเณรเสร็จสิ้นลง ก็จะประกอบพิธีเพิ่มเติม คือ การบวชจากเณรให้เป็นพระ
ผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีบวชพระ คือ โค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ เพราะอายุสามารถบวชเป็นพระได้ โดยที่โค้ชเอกจะขอบวช 1 พรรษา ตามความเชื่อล้านนาว่าบวชเป็นพระอย่างน้อยต้อง 1 พรรษาขึ้นไป
หลังจากนั้น ทุกคนก็จะลงมาจำวัดที่วัดพระธาตุดอยเวา เป็นเวลา 9 วัน (สำหรับเด็กๆ 10 คน) เนื่องจากเด็กต้องกลับไปเรียนหนังสือต่อ
เหตุที่บวชแค่ 11 คน เพราะมีน้อง 2 คน ไม่สามารถบวชได้ เนื่องจากนับถือคริสต์และอิสลาม
3. หลังข่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า มีคนจัดส่งพัสดุจำนวนนับร้อยกล่องไปที่บ้านพักของหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมทีนทอล์ค (หมูป่า) อะคาเดมีแม่สาย นายนพรัตน์ กันทะวงค์
บางส่วน เป็นห่อเหรียญโปรยทานงานบวช และของที่ระลึกต่างๆ
โค้ชนพเปิดเผยว่า ตอนนี้มีพัสดุจากทั่วสารทิศที่ส่งมาให้กับสมาชิกทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ได้ส่งมาถึงมือเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงห่อเหรียญโปรยทานที่ผู้มีจิตกุศลได้ทำมาร่วมในพิธีบวช โดยทำเป็นรูปหมูป่า และหน่วยซีล ก็ส่งมาถึงแล้ว ตอนนี้ขอหยุดรับพัสดุต่างๆ ที่จะส่งห่อเหรียญหรือของที่ระลึกมาให้กับทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้ว เพราะมีพัสดุมาเยอะมากจนไม่มีที่เก็บ หากใครที่มีจิตกุศลอยากจะนำห่อเหรียญมาช่วยงานบวช ก็ขอให้นำมาในวันที่เด็กๆ จะบวชเลย
4. เห็นได้ว่า การบวชหมูป่าครั้งนี้ สร้างความปลื้มปีติ และมีแรงสนับสนุนจากทุกสารทิศ
น่าคิดว่า การบวชครั้งนี้ เป็นผลดีต่อทุกๆ ฝ่าย ทั้งต่อตัวน้องๆ ในฐานะผู้ประสบภัยที่เพิ่งผ่านวิกฤติของชีวิต และกำลังถูกกระแสชื่อเสียงตามรุมอยู่หลังจากนี้
โดยเฉพาะยิ่งถ้าการบวชหมูป่า ได้ทำอย่างถูกต้อง ความหมายคือ บวชจริงๆ ศึกษาและปฏิบัติธรรมจริงๆ โดยคณะสงฆ์ควรจะดำเนินการให้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การบวชตามประเพณีที่ถูกต้องนั้น ควรทำอย่างไร? บวชนานแค่ไหน? บวชแล้วจะต้องมีวัตรปฏิบัติอย่างไร?
ล้างภาพความเชื่อผิวเผินในสังคมปัจจุบันว่า การบวชก็ง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย แล้ว
ชาวบ้านก็เข้าไปกราบแล้ว โดยดำเนินการอย่างเคร่งครัด วัตรปฏิบัติหลังพิธีบวชควรดำเนินการอย่างครบถ้วน จริงจัง
พระอุปัชฌาย์ และพระพี่เลี้ยง ทำหน้าที่กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้บวชได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างถูกต้อง จริงจัง
ไม่ควรให้สื่อมวลชนเข้าไปรบกวนการศึกษาและปฏิบัติธรรมเลย
เชื่อว่าผลดีจะเกิดแก่น้องๆ เอง เพราะจะได้โอกาสฝึกฝนการเจริญสติ สมาธิ รู้เท่าทันวิกฤติของชีวิต อย่างน้อยก็ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหลังออกจากถ้ำหลวงมาใหม่ๆ นี่เอง
5. การบวชในพระพุทธศาสนา คือ การออกจากเรือน การสละซึ่งทางโลก การขัดเกลาตนให้หลุดพ้นจากการถูกกักขังโดยกิเลส
หัวใจสำคัญของการบวช คือ การประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ชุมชนต่างจังหวัดในอดีต พิธีบวชนาค มักห้ามเลี้ยงสุรา-เมรัย และการฆ่าสัตว์ที่มีคุณ (ใช้แรงงานไถนาและลากจูง) ไม่ว่าจะเป็นโค-กระบือ
แต่ปัจจุบัน การบวชมักมีภาพของงานรื่นเริง กินเหล้า รำฟ้อน สนุกสุดเหวี่ยง ตีกันก็มี
6. ความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อการบวช มีหลายแบบ เช่น
เชื่อว่า ได้บุญ ได้กุศลแรง ยิ่งถ้าบวชเต็มพรรษา ได้บุญกุศลมากกว่า
เชื่อว่า ลูกชายบวช จะทำให้ตนเองได้เกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ และการบวชเป็นการทดแทนพระคุณบุพการี ทั้งผู้บวชและบุพการีจะได้บุญจากการบวช (ซึ่งถ้าผู้บวชและบุพการีได้ใช้ช่วงเวลาที่ลูกบวชศึกษาและปฏิบัติธรรมก็จะได้เห็นผลบุญตั้งแต่ชาตินี้เลยทีเดียว)
เชื่อว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ เมื่อชีวิตสะดุดกับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ หลายคนเชื่อว่าการบวชจะต่อชะตาชีวิตได้ หรือช่วยลบล้างเคราะห์ร้ายได้
เชื่อว่า คนที่บวชแล้วจะมีระดับความเป็นมนุษย์สมบูรณ์กว่าคนที่ยังไม่ได้บวช เพราะชายที่เคยบวช จะได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนและแนวทางปฏิบัติตนของพระพุทธเจ้า และช่วงบวชจะได้ฝึกฝนวินัย ตื่นเช้าออกบิณฑบาต บำเพ็ญศีล มีสติในการครองไตรจีวร เป็นต้น
ความเชื่อทั้งหมดนี้ ไม่เกินจริงเลย หากผู้บวชได้ใช้โอกาสนั้น ในการศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ภายใต้การดูแลของพระอุปัชฌาย์ และพระพี่เลี้ยง
7. ใครจะไปรู้... ในอดีตเคยมีคนวางแผนจะบวชแค่ไม่กี่วัน แต่สุดท้าย เมื่อบวชแล้วก็ซาบซึ้งในรสพระธรรม อยู่เย็น สุขใจ ไม่ลาสิกขาเลย ก็มีหลายกรณี
8. หากรัฐบาลและสื่อมวลชนใช้โอกาสนี้ นำเสนอคุณค่าและความหมายที่แท้จริงของการบวช
ประโยชน์ของการบวช การศึกษาและปฏิบัติธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจริญสติ การฝึกสมาธิ ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจในสังคมยุคใหม่ทั่วโลก
เชื่อว่า จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ และสร้างภาพลักษณ์อันดีแก่ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นเมืองพุทธศาสนา พร้อมๆ ไปกับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา “พระต้องเป็นพระ วัดต้องเป็นวัด” ในโอกาสที่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่เริ่มใช้บังคับ ก็จะเป็นโอกาสอันดีงามอย่างยิ่ง
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี