แนวหน้าหนังสือพิมพ์คุณภาพ ทุกบรรทัดคือสาระและข้อเท็จจริง...ขึ้นชื่อว่า “การเมืองไทย” แล้วไม่ว่าอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น...
nn ยกตัวอย่างเช่น นักการเมือง“พูดก็บอกว่าไม่ได้พูด” สมัยยังเล่นกันอยู่ในระบบเลือกตั้ง มีสภาผู้แทนราษฎร มีการกล่าวหา จับโกหกกันกลางสภา แต่ท้ายสุดส่วนใหญ่ก็จะหยวนๆ กันไป อย่างดีก็แค่โดนฟ้องคดีหมิ่นประมาท...
nn นับประสาอะไรกับ “การถอนคำสัตย์สาบาน” เรื่องแค่นี้ “คชสีห์” ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยของนักการเมืองไทย....สดๆ ร้อนๆ ก็คือคนดัง 2 คน คนแรกคือ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตแกนนำกปปส. และอีกคนคือ “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” อดีตสส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย...
nn ดูกันที่คนแรกคือ “กำนันสุเทพ” ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย กล่าวเปิดใจทั้งน้ำตาในงานเปิดตัวพรรครวมพลังประชาชาติไทย...
nn “.....ผมระวังตัวมากตั้งแต่ตัดสินใจลาออกจากการเป็น สส.เพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชน และประกาศว่าจะไม่เป็น สส.ไม่อยากรับตำแหน่งทางการเมือง แต่เมื่อพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์อยากตั้งพรรคเพื่อประชาชน ผมรู้เลยว่าต้องเข้ามาร่วม แม้ผมรู้ว่าตัวเองจะเป็นจุดด้อยจุดอ่อนของพรรคนี้ ให้คนนำมาโจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ แต่ผมขอประกาศเลยว่าจะไม่อยู่เบื้องหลังแต่ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน และผมไม่สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น...
nn ผมจะเอาประสบการณ์นักการเมืองกว่า 40 ปี มาร่วมตั้งพรรคของประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้ ทันทีที่ได้รับอนุญาตจาก คสช.ให้รณรงค์ต่างๆ ได้ ผมจะเดินไปทุกจังหวัดทั้่วประเทศด้วยตนเอง ตนไม่มีต้นทุน จะลงทุน 5 หมื่นบาท แล้วจะใช้รองเท้าคู่เดิม เพราะตนยังเก็บรองเท้าคู่เดิมที่เคยเดินขบวน แล้วจะใช้รองเท้าคู่นี้เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนมาร่วมเป็นสมาชิกพรรค จะไม่ใช่พรรคที่เกิดขึ้นได้เพราะกำนันสุเทพ แต่กำนันสุเทพจะเป็นส่วนหนึ่งของพรรคที่รักชาติ รักแผ่นดินไทย”...
nn “คชสีห์” ขอให้สังเกตกันให้ดีว่า “กำนันสุเทพ” ใช้คำว่า “ยอมให้ถูกโจมตีว่าตระบัดสัตย์” แต่สำหรับคนที่สอง คืออดีตสส.เพื่อไทย “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” นั้นหนักหน่อย เพราะถึงขั้นประกาศขอถอนคำสาบานต่อหน้าย่าโม ซึ่งเจ้าตัวเคยประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมืองเด็ดขาด หลังจากรัฐประหารเมื่อปี 2557...
nn “ตลอด 4-5 ปี ผมลงพื้นที่มาตลอด ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน มาวันนี้ผมทนกระแสเรียกร้องให้กลับมาทำงานการเมืองจากประชาชนไม่ไหว ประกอบกับมีผู้ใหญ่เห็นคุณค่า และ อยากให้กลับมาช่วยกันทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ซึ่งผมพร้อมร่วมงานกับ กลุ่มสามมิตรเพราะ ณ วันนี้การเมืองนิ่งบ้านเมืองสงบสุขแล้ว...
nn ผมจะไปจุดธูปบอกกล่าวกับ ย่าโม เพื่อขออนุญาต ถอนคำสาบาน กลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้งเพื่อรับใช้ประชาชน เชื่อว่าย่าโมเข้าใจและไม่มีปัญหา เพราะผมคือลูกหลานย่าโม เป็นคนโคราชโดยกำเนิด ส่วนคนที่จะไม่เข้าใจและมีปัญหาคือคนที่ไม่อยากให้ผมเองกลับมาเล่นการเมืองและพยายามหาข้ออ้างมาโจมตีต่างๆ นานา”...
nn 2 คน ต่างลีลา ต่างคำพูด คนหนึ่งยอมถูกด่าว่าตระบัดสัตย์ ส่วนอีกคนยอมถอนคำสาบานที่ให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อกลับมาลงเล่นการเมืองอีกครั้ง...
nn รักใครชอบใครก็เชียร์คนนั้น เกลียดใครก็ด่าคนนั้น นี่คือการเมืองแบบไทยๆ ต่อให้มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ จะสิบปีหรือยี่สิบปี ก็ไม่มีทางแก้หาย!!...nn
คชสีห์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี