ต่อตระกูล : ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันและในการทำงานของแทบทุกคนอย่างมากตั้งแต่ตื่นนอนจนนอนหลับ และบางทีระหว่างนอนก็ยังมีเครื่องมือสมัยใหม่ที่ช่วยให้นอนหลับสบายอีกด้วย ผมเองเป็นคนที่ชื่นชอบและติดตามการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ มาตั้งแต่สมัยเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรก Apple II plus เข้ามาในประเทศไทยเมื่อ 30 กว่าปีก่อน และก็ได้พยายามนำเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในแต่ละสมัยมาใช้สนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้นเสมอตลอดเวลา ในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชันก็เช่นกัน ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรประชาสังคมได้อย่างมหาศาล
ต่อภัสสร์: ผมเห็นด้วยอย่างมากครับว่าเทคโนโลยีมีความสำคัญมากและสามารถช่วยพัฒนางานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันได้จริง ผมขอยกตัวอย่างสักสามตัวอย่างที่ประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีมาใช้จริงแล้วนะครับ โครงการแรกชื่อ สังคมดี๊ดี สองนาทีง่ายๆ หรือ Citizen Feedback โดยแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และแฮนด์ วิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ใช้เทคโนโลยีง่ายๆ อย่าง QR code ให้ประชาชนสามารถเข้ามาร่วมให้ความเห็นการรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน แทนการเขียนลงในกระดาษแล้วไปหยอดใส่กล่อง ความเห็นของประชาชนจะได้รับการวิเคราะห์และส่งให้กับหน่วยงานนั้นๆ เพื่อนำไปปรับปรุงต่อไปและเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย จากการทดลองขั้นต้นพบว่าสามารถเพิ่มจำนวนความเห็นจากประชาชนเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่าเมื่อเทียบกับวิธีเดิม ขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนาในระยะที่สอง ขอให้ทุกท่านโปรดติดตามกันด้วยนะครับ
โครงการที่สองคือเว็บไซต์ภาษีไปไหน www.govspending.data.go.th ที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เว็บไซต์นี้รวบรวมข้อมูลด้านงบประมาณและโครงการภาครัฐที่ใช้เงินภาษีของพวกเรามาเผยแพร่อย่างง่ายและชัดเจน เราสามารถเข้าไปดูได้เลยว่าในแต่ละปีรัฐบาลใช้เงินภาษีเราไปในการใช้จ่ายเรื่องอะไรบ้าง ในสัดส่วนเท่าใด แต่ละโครงการอยู่ที่ไหนในประเทศไทยโดยแสดงผลเป็นแผนที่อย่างชัดเจน สามารถเข้าไปดูได้ด้วยว่าบริษัทอะไรได้รับสัญญาโครงการนั้นๆ ไป และเป็นเงินจำนวนเท่าใด ที่สำคัญเราสามารถกดเข้าไปแจ้งเบาะแสทุจริตได้เลยด้วยผ่านลิ้งค์ไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โครงการที่สามนั้น แหวกแนวกว่าสองโครงการแรก เพราะไม่ใช่การป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชันโดยตรง แต่เป็นการส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกด้วยเทคโนโลยี ที่ผ่านมาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับคนไทย โดยเฉพาะเยาวชนนั้น มักเน้นการจัดค่ายอบรมหรือใส่เนื้อหาเข้าไปในการเรียนการสอน แต่ล่าสุดบริษัท Opendream ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสังคม ได้พัฒนาเกมชื่อ Corrupt เพื่อให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ที่จะมีจิตสำนึกที่ดีเองผ่านการเล่นเกม ไม่ใช่การนั่งฟังอบรมให้เป็นคนดีเหมือนแต่ก่อน และยังสามารถนำสถิติจากการเล่นเกมนี้มาให้นักวิจัยวิเคราะห์เพื่อนำไปพัฒนาเครื่องมืออื่นๆ ต่อไปได้อีกด้วย เกมนี้ได้รับความนิยมมากจนติดอันดับต้นๆ ของแอพพลิเคชั่นมือถือที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดเลยทีเดียว ท่านใดสนใจก็สามารถเข้าไปโหลดมาเล่นกันได้เลยนะครับ
ต่อตระกูล: ตัวอย่างทั้งสามโครงการที่นำมาเล่าให้ฟังนี้น่าสนใจทุกโครงการเลย แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาอย่างรวดเร็วมาก ถ้าไม่ใช่นักเทคโนโลยีที่ติดตามอย่างใกล้ชิดก็จะตามไม่ทัน เรามีวิธีการไหนที่จะดึงกลุ่มนักเทคโนโลยีเก่งๆ มาช่วยพัฒนางานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันได้บ้างไหม
ต่อภัสสร์: มีครับ กระบวนการหนึ่งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกคือ Hackathon หรือการระดมนักเขียนโปรแกรม นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักออกแบบกราฟิก และนักวิจัยด้านข้อมูลที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยและมาแข่งขันออกแบบเครื่องมือเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้คือการคอร์รัปชัน รูปแบบโดยทั่วไปคือการนำนักเทคโนโลยีเหล่านี้มารวมตัวกันหลายๆ ทีม แล้วจัด workshop ให้เข้าใจสภาพปัญหาทางสัมคม อะไรที่เป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา และองค์ความรู้ทางวิชาการในปัจจุบันมีอะไรอยู่บ้าง เมื่อปูพื้นฐานความเข้าใจแล้ว ก็จะเริ่มจัดงานพัฒนาเครื่องมือต่อกันประมาณ 3 วัน โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งด้านปัญหาคอร์รัปชัน และการเขียนโปรแกรม คอยเป็นโค้ชให้คำปรึกษาตลอดการแข่งขัน ผู้ชนะซึ่งอาจมีหลายทีม จะได้รับเงินรางวัลและการสนับสนุนด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาเครื่องมือต้นแบบนี้ให้สามารถใช้ได้จริงและขยายผลได้
งาน Hackathon เพื่อการต่อต้านคอร์รัปชันนี้จะมาถึงประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างหลากหลายองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ ผมจะนำรายละเอียดมานำเสนอต่อไปนะครับ
ต่อตระกูล: ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานด้านการต่อต้านคอร์รัปชันนั้นจะสามารถพลิกโฉมประเทศไทยได้ เพราะนอกจากจะทำให้กระบวนการต่างๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้ประชาชนจำนวนมากมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้กับคอร์รัปชันเลย จึงขอสนับสนุนกระบวนการ Hackathon นี้และจะขอติดตามต่อไปเพื่อมาเล่าให้ผู้อ่านได้รับทราบความคืบหน้าด้วยครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี