ปัญหาทรัพยากรน้ำ หรืออุทกวิทยา ที่เกิดขึ้นมาตลอด 10 ปี ที่ผ่านมาหลังจากเกิดจากปัญหาฝนตกชุกและฝนทิ้งช่วงแล้งอย่างรุนแรงบางปีเช่นปี 2554 เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางจนเป็นมหาอุทกภัยหลายเดือนเพราะการแก้ไขปัญหาไม่มีน้ำยาเพราะนักการเมืองในระบอบทักษิณทำงานไม่เป็นเลยบอกตรงๆ ว่าส่วนหนึ่งที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในปีนั้นเพราะข้าราชการระอาบทบาทของนักการเมืองที่หาเสียงอยากจะให้ชาวนาทำนาได้ปลูกข้าวมากๆ เลยให้มีการกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนให้ชาวนาปลูกข้าวผลที่ตามมาก็คือน้ำท่วมนั่นเองเพราะระบายน้ำไม่ทัน
ต่อมาในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเกิดภาวะฟ้าฝนแล้งในปี 2558-2559 ปี 2560 ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี “ลุงตู่” จึงตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นปีงบประมาณ 2561 มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Office of the National Water Resource มีที่ทำการชั่วคราวเลขที่ 59 ถนนพิษณุโลก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 ผู้บริหารสูงสุดคือ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการและมีนายสำเริง แสงภู่วงค์ เป็นรองเลขาธิการส่วนสำนักงาน จะตั้งในพื้นที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน
สำหรับปี 2561 นี้กำลังมีปัญหาน้ำหลากฝนตกชุกผิดปกติในเดือนกรกฎาคม ถึงสิงหาคมมีสถิติน้ำที่กักเก็บไว้ตามเขื่อนทั่วประเทศทุกภาคดังนี้คือ ภาคเหนือ 8 เขื่อน มีปริมาณน้ำเป็นร้อยละดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตากความจุของน้ำมีร้อยละ 57 เขื่อนสิริกิติ์ อุตรดิตถ์ความจุของน้ำร้อยละ 67 เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เชียงใหม่ มีน้ำร้อยละ 44 เขื่อนกิ่วลม ลำปาง ร้อยละ 28 เขื่อนแม่กวง เชียงใหม่ ร้อยละ 31 เขื่อนกิ่วคอหมา แจ้ห่ม ลำปาง ร้อยละ 60 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน พิษณุโลก ร้อยละ 30 และเขื่อนแม่มอก ลำปาง ร้อยละ30 รวมภาคเหนือมีน้ำ 14,665 ล้านลูกบาศก์เมตรถือว่ามีน้ำน้อยไม่น่าห่วง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 12 เขื่อน เขื่อนที่เก็บน้ำล้นที่สุดคือเขื่อนน้ำอูน ที่สกลนครมีปริมาณน้ำ ร้อยละ102 ต้องระบายน้ำออกที่เหลืออีก11 เขื่อน ปริมาณน้ำมีน้อย ได้แก่ ลำปาว กาฬสินธุ์มี ร้อยละ 63 ลำตะคองนครราชสีมา ร้อยละ 60 ลำพระเพลิง นครราชสีมา ร้อยละ51 อุบลรัตน์ ขอนแก่น ร้อยละ 30 สิรินธร อุบลราชธานีร้อยละ 55 จุฬาภรณ์ ชัยภูมิ ร้อยละ 65 เขื่อนห้วยหลวงอุดรธานี ร้อยละ 45 เขื่อนลำนางรอง บุรีรัมย์ ร้อยละ 39 เขื่อนมูลบนครบุรี นครราชสีมา ร้อยละ 51 เขื่อนน้ำพุง
ภูพานสกลนคร ร้อยละ 63 เขื่อนลำแซะ ครบุรีร้อยละ 43 รวมทั้ง 12 เขื่อนมีน้ำ 4,456 ล้านลูกบาศก์เมตร
ภาคกลาง 3 เขื่อนได้แก่เขื่อนทับเสลากับเขื่อนระบำอุทัยธานีมีร้อยละ 46 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี ร้อยละ 22 เท่านั้นเขื่อนกระเสียว ด่านช้าง สุพรรณบุรี ร้อยละ 57 รวมน้ำในเขื่อนภาคกลาง 455 ล้านลูกบาศก์เมตร ภาคตะวันตกศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ร้อยละ 87 เขื่อนวชิราลงกรณ กาญจนบุรี ร้อยละ 84 รวมมีน้ำในเขื่อน 22,807 ล้านลูกบาศก์เมตร
ภาคตะวันออก มี 6 เขื่อน เขื่อนบางพระ ศรีราชาชลบุรี ร้อยละ 53 เขื่อนขุนด่านปราการชล นครนายก ร้อยละ 68
เขื่อนคลองสียัด ท่าตะเกียบ ฉะเชิงเทรา มีร้อยละ 48 เขื่อนหนองปลาไหล ระยอง ร้อยละ 68 เขื่อนประแสร์ ระยอง ร้อยละ 63 เขื่อนนฤบดินทรจินดา ปราจีนบุรี ร้อยละ 40
รวมทั้งหมดร้อยละ 55 ปริมาณน้ำในเขื่อน 735.30 ล้านลูกบาศก์เมตร
ภาคใต้มีทั้งหมด 4 เขื่อน เขื่อนแรก คือแก่งกระจาน เพชรบุรี มีน้ำในเขื่อนร้อยละ 99 ซึ่งล้นเขื่อนมีข่าวว่าวันที่ 6 ส.ค.น้ำจากที่นี่จะไปท่วมจังหวัดเพชรบุรีก่อนไหลลงทะเล เขื่อนปราณบุรีประจวบคีรีขันธ์ ร้อยละ 78 เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี ร้อยละ 78 เขื่อนบางลาง ยะลา มีน้ำในเขื่อนร้อยละ 56 รวมภาคใต้ร้อยละ 76 ปริมาณน้ำ 4,514.98 ล้านลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำทุกเขื่อนรวม 25,901.29 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น ร้อยละ 70
เมื่อมองภาพรวมทั้งประเทศในขณะนี้วันที่ 4 ส.ค.ปรากฏว่าจุดอันตรายจริงๆ มี 3 เขื่อนที่มีน้ำมากอยู่ในพื้นที่
ภาคตะวันตกของประเทศที่กาญจนบุรี และเพชรบุรี ซึ่งกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ค่อยๆระบายน้ำป้องกันเขื่อนแตกเหมือนในสปป.ลาวแล้ว ที่จะเกิดอุทกภัยจริงๆ มีที่เดียวคือเพชรบุรีเท่านั้น
เอาเป็นว่ารัฐบาลลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้มีการป้องกันปัญหาไว้แล้วที่หนักคือเพชรบุรี และบริเวณจังหวัดที่อยู่ใกล้แม่น้ำโขงที่เชียงของ เชียงราย, บึงกาฬ, หนองคาย, เชียงคาน เลย, นครพนม, มุกดาหาร, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ ที่ปริมาณน้ำไหลจากต้นน้ำที่มณฑลเสฉวนและยูนนานในจีนที่ปีนี้ปล่อยน้ำเหนือเขื่อนลงมามาก
เชื่อว่าในท้ายที่สุดคงไม่มีปัญหาใหญ่อะไรมากพลเอกประยุทธ์กับครม.ที่ทำงานเช่น นายกฤษฎา บุญราช,พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา,นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ และนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน คงแก้ปัญหาต่างๆให้จบลงไปได้ด้วยดี
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี