สาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีประชากร 1, 450 ล้านคนกลายเป็นมหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกไปแล้วด้วยรายได้ประชาชาติและรายได้จากอุตสาหกรรมหนักเบาที่มีมากกว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นรองก็แค่อานุภาพทางทหารเท่านั้นปัจจุบันจีนมีความผูกพันกับชาติในประชาคมอาเซียนมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะซีแอลเอ็มวีซึ่งได้แก่ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, ไทยและเวียดนาม ทางด้านพลังงานนั้นจีนเป็นชาติแรกที่จุดประกายการสร้างเขื่อนใหญ่เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในลุ่มแม่น้ำโขงเป็นตัวอย่างให้ 5 ชาติ ในประชาคมได้ปฏิบัติตามเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน
แม่น้ำโขงมีกำเนิดบนที่ราบสูงหิมะของทิเบตแล้วไหลผ่านเป็นระยะทางราว 4, 200 กิโลเมตร ผ่านประเทศจีน เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ก่อนจะไหลออกสู่ทะเลจีนใต้ นับเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดในเอเชียสายหนึ่งและยาวเป็นลำดับ 7 ในทวีปเอเชีย เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำสายนี้ แม่น้ำโขงถือเป็นแหล่งประมงน้ำจืดอันอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลก
เมื่อ 3 ทศวรรษก่อนในปี 2533 เป็นปีที่ระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลายในสหภาพโซเวียตจีนเริ่มร่ำรวยเป็นชาติแรกที่ก่อสร้างเขื่อนใหญ่บนลำน้ำหลักของแม่น้ำโขงในปี 2556 จีนสร้างเขื่อนเหมียวเหว่ยเป็นเขื่อนที่ 8 ในแม่น้ำหลานชางหรือแม่น้ำโขงที่มีความยาว 2,100 กิโลเมตร เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ทางด้านกัมพูชาและลาวต่างต้องการไฟฟ้าเพื่อนำไปขายให้แก่ผู้บริโภคเขื่อนที่ผลิตไฟฟ้าได้จึงเป็นคำตอบที่ดีและหาทุนที่สร้างจากมหาอำนาจอย่างจีน
การสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงตอนล่างอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หรือเอ็มอาร์ซี ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศหลายองค์กรรวมทั้งจากชาติสมาชิกได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ไทย และลาว โดย 2 ผู้นำจีนคือประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เคอ เฉียงเป็นหัวหอกเสนอความช่วยเหลือทางด้านเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่มิตรประเทศทั้ง 2 ชาติเหมือนเมียนมาซึ่งสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพอใจ
ลำน้ำคดเคี้ยวลดหลั่นสายนี้ทอดผ่านพม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม เป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นแหล่งอาหารสำหรับประชาชน 60 ล้านคน ที่ฝากชีวิตไว้กับลุ่มน้ำโขง เอ็นจีโอที่ประกอบมาจากนานาชาติมีทั้งฝรั่งผมแดงหลากชาติ ไทย เมียนมา กัมพูชาต่างให้แง่คิดผ่านสื่อมวลชนว่าเขื่อนต่างๆ ของจีนจะส่งผลให้ปริมาณปลาในแม่น้ำลดลงกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในอินโดจีนที่ยากจนอยู่แล้วให้ยากจนไปมากกว่าเดิม
ข้อมูลของแม่น้ำนานาชาติองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรอ้างว่าจีนสร้างเขื่อนขวางกั้นแม่น้ำโขงตอนบนไว้แล้ว 6 เขื่อน และจีนลงทุนในการก่อสร้างเขื่อนใต้ลงไปอีกมากกว่าครึ่งหนึ่งของเขื่อนทั้งหมด 11 เขื่อน แต่นั่นมันเป็นดินแดนจีนที่ใครไปขัดขวางการกระทำไม่ได้เลยในขณะที่รัฐบาลไทยไม่ได้แสดงการต่อต้านมากนักเพราะไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเมียนมาและสปป.ลาวในการซื้อกระแสไฟฟ้ามาใช้ในประเทศไทยโดยไทยไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใดขอซื้อไฟมาใช้ก็พอ
รัฐบาลไทยของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายให้เอกชนรายใหญ่ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ได้เองไม่ว่าจะเป็นจากพลังน้ำ พลังแสงอาทิตย์หรือว่าพลังลมโดยต้องขออนุญาตจากกระทรวงพลังงานของไทยเองถ้าหากนายทุนไทยและจีนร่วมมือกันก็จะทำให้อินโดจีนไม่ต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจากต่างประเทศที่ราคาแพงกว่า
เอ็นจีโอได้กล่าวว่าแม่น้ำโขงเป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญระหว่างประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ จีนในฐานะประเทศต้นน้ำสามารถควบคุมแม่น้ำสายนี้ได้การสร้างเขื่อนของจีนส่งผลกระทบต่อประเทศท้ายน้ำชุมชนที่อาศัยบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่างต่างรายงานว่าปริมาณปลาลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพร้อมโทษว่าเป็นเพราะการสร้างเขื่อนของจีน
ส่วน สปป.ลาวได้สร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า 42 แห่ง และเร่งสร้างเพิ่มเป็น 90 แห่งปัจจุบันลาวมีโครงการผลิตไฟฟ้าทั้งจากพลังน้ำและพลังความร้อนทั้งหมด 42 โครงการ มีกำลังผลิตรวมกัน
6,300 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 35 พันล้านกิโลวัตต์ ชั่วโมงต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 14, 000 เมกะวัตต์ ในอีก 3 ปีข้างหน้าลาวมีเป้าหมายผลิตไฟฟ้าให้ได้ 20,000 เมกะวัตต์ซึ่งมีไทยเป็นลูกค้ารายสำคัญที่สุดที่พร้อมจ่ายเงินให้ สปป.ลาวแบบเต็มอกเต็มใจ
เพราะการผลิตพลังงานนั้นเกินความต้องการของประชาชน สปป.ลาวที่มีประชากรเพียง 6.8 ล้านคน อาจต้องการใช้ไฟฟ้าเพียง 1,579 เมกะวัตต์เท่านั้นลูกค้ารายที่ 2 และ 3 คือเวียดนาม กับมาเลเซีย ไทยซื้อไฟฟ้าจากลาว 9,000 เมกะวัตต์ ในขณะที่จีนพร้อมให้ทุนเมียนมาสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลุ่มแม่น้ำสาละวินด้วยเงินก้อนโตซึ่งลูกค้าคือไทยเพื่อนบ้านที่กำลังก้าวไปสู่ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของอาเซียนและเป็นศูนย์กลางของซีแอลเอ็มวี
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี