ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 กาลเวลาผ่านมาไป 85 ปีประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเรามีนายกรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ 29 คน ข้อน่าสังเกตจะพบว่าในจำนวนผู้นำรัฐบาลทั้ง 29 คนนั้น เป็นข้าราชการทหารมียศนำหน้าทั้งหมดถึง 13 คนเริ่มจากรายแรกพลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน), จอมพลหลวงพิบูลสงคราม (แปลก ขีตะสังคะ) พลเรือตรีหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ (ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์) จอมพลถนอม กิตติขจร จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ พลตรีหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ พลเอกสุจินดาคราประยูร พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ พลเอกสุรยุทธ์จุลลานนท์ และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนที่ 29 หลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เหตุผลของการรัฐประหารประชาชนชาวไทยทั้ง 67 ล้านคนคงทราบดีแล้วว่าเพราะอะไรและทำไมจะต้องก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลจอมโกงของระบอบทักษิณ
รัฐธรรมนูญไทยฉบับปี 2560 จำต้องกลับมามีมาตราป้องกันนักการเมืองจอมขี้โกงกลับมามีอำนาจอีกครั้งซึ่งหลักการนี้รัฐธรรมนูญได้มีเจตนาป้องกันไม่ให้ประชาชนคนไทยแตกแยกกันหนักจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองคนไทยต้องจับอาวุธเข้ามาเข่นฆ่ากันเหมือนในอดีตและเหมือนอีกหลายๆ ประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร,สาธารณรัฐฝรั่งเศส, ราชอาณาจักรสเปน, สหพันธ์สาธารณรัฐเม็กซิโกหรือว่าสหภาพโซเวียตรัสเซียหรือว่าจีน
ก่อนรัฐประหารวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีโหราจารย์และหมอดูที่มีชื่อเสียงหลายๆ คน ทั้งชายและหญิงได้ทำนายดวงเมืองที่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2325 ว่าประเทศต้องการผู้นำเป็นทหารมากกว่า พลเรือนจะเห็นว่านักการเมืองที่มาจากทหารได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานมากกว่านักการเมืองพลเรือนหลายเท่าและก่อนที่พลเอกประยุทธ์จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นมีโหรหลายท่านทำนายไว้ว่าพลเอกประยุทธ์มีพื้นดวงเหมือนพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ซึ่งมันก็เป็นความจริงจนได้และหลังจากมีการเลือกตั้งในปีหน้า 2562 พลเอกประยุทธ์คงจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่งอย่างน้อยจนถึงปี 2565 โดยจะเป็นจริงตามคำทำนายหรือไม่เราคงจะทราบกันในเวลาที่ไม่นานนัก สำหรับพลเอกประยุทธ์สามารถเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หลังเลือกตั้งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยที่ไม่จำต้องเป็น สส. แต่ขอให้ สส. และสว. มากกว่ากึ่งหนึ่งในรัฐสภาที่มีรวม 750 คนรับรองและลงมติให้เป็นด้วยเสียงข้างมาก
ล่าสุดนั้นมีรายงานข่าวว่ามีอดีต สส.เป็นจำนวนมาก ได้แสดงเจตนาเสนอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอีกสมัยหนึ่งอย่างเช่นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และอดีต สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ซึ่งหวนกลับมาเล่นการเมืองสังกัดกลุ่มสามมิตรเผยว่า
หลังตนได้ไปขอถอนคำสาบานขออนุญาตย่าโมกลับมาทำงานทางการเมืองแล้ว ก็รู้สึกสบายใจ และสิ่งที่ตนเองมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งแรกคือ เรื่องการสลายสีเสื้อ สลายความขัดแย้งในระดับจังหวัด ที่ จ.นครราชสีมา ตนได้คุยกับ นายจักริน เฉิดฉาย ประธาน กปปส.นครราชสีมา แล้วก็มีความเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาที่โคราชจะต้องมีความเป็นเอกภาพ โดยทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และฝ่ายการเมือง จะมาร่วมมือกันวางแผนในการพัฒนาเมืองเพื่อรอรับการเจริญเติบโตในทุกด้าน เพื่อพัฒนาเมืองโคราชให้น่าอยู่น่าอาศัย
นายสุภรณ์กล่าวว่า ตนจะอาสาเป็นผู้ประสานงานกับทุกกลุ่มเพื่อผลักดันแผนการพัฒนาเมือง ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และแผนเร่งด่วนให้เกิดขึ้นให้ได้แล้วนำเสนอต่อรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะเป็นชาวโคราชด้วยกัน เพื่อผลักดันให้มีการสนับสนุนงบประมาณลงมาสู่จังหวัดของเราต่อไป
สำหรับกลุ่มสามมิตรนั้นเป็นที่ทราบกันว่ารวมเอาอดีตนักการเมืองที่มีประสบการณ์จากหลายพรรคเข้ามารวมตัวกันมีแกนนำ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ,นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ฯลฯ โดยมารวมตัวกันเปิดเกมรุกใหญ่ทางด้านการเมืองเพื่อเป้าหมายดันให้ “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก้าวไปสู่ “ดวงดาว” เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้งในปีหน้า 2562
ส่วนจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้นอยู่ที่การวางแผนที่แยบยลให้ดีที่สุดเพื่อให้ได้เป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งความเป็นไปได้อยู่ที่จำนวนเสียงในรัฐสภาแน่นอนในครั้งนี้วุฒิสภา 250 เสียงน่าจะเทคะแนนมาให้พลเอกประยุทธ์ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ต้องการเสียง สส.อีกระหว่าง 150 ถึง 200 เสียงจากหลายๆ พรรคมารวมกันเพื่อชูพลเอกประยุทธ์ ซึ่งนี่แหละคือหน้าที่ของกลุ่มสามมิตรที่ได้รับมอบหมายมาที่จะต้องทำให้มันมีความเป็นไปได้
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี