สาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นชาติแรกๆ ในโลกที่หารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะชายหาดชื่อดังทางภาคใต้ที่เรียกในภาษาอังกฤษว่าหาดเฟรนช์ริวีเอร่าหรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “โกตดาซูร์” เป็นชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ของรวมไปถึงโมนาโกไม่มีขอบเขตแน่ชัดแต่มักจะกล่าวถึงว่ามีขอบเขตตั้งแต่ม็องตง, นีซ ไปจนถึงชายแดนอิตาลีทางตะวันออกของแซ็ง-ทรอเป, อีแยร์, กาซี และกานส์
ริวีเอร่าเริ่มมีรายได้ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงกลางศตวรรษที่ 19 เป็นจุดพักผ่อนของชนชั้นสูงชาวรัสเซียและชาวอังกฤษรวมทั้งสมาชิกแห่งพระราชวงศ์ครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เป็นจุดหมายปลายทางของมหาเศรษฐีนานาชาติสร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล
ในขณะที่รัฐบาลคสช.เองมีแผนที่จะตั้งชายหาดไทยแลนด์ริวีเอร่าหรือริเวียร่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากหมู่เกาะอ่างทอง, พงัน, สมุย, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต, สตูล, ตรังเป้าหมายแรกคือการขยายท่าอากาศยานหัวหินตั้งแต่ปี 2563 ใช้งบลงทุน 3,500 ล้านบาท ให้รับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปีผสานกับรถไฟไฮสปีดเทรน กรุงเทพฯมาหัวหิน
รัฐบาลมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยานระนองให้เป็นท่าอากาศยานเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อให้สอดรับกับนโยบายท่องเที่ยวเมืองรองควบคู่ไปกับการส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถนำสินค้าท้องถิ่นมาขายภายในท่าอากาศยานได้ มีแผนในการพัฒนาอาคารผู้โดยสารทั้งการตกแต่งปรับปรุงภายในรวมถึงการขยายอาคารผู้โดยสารและรันเวย์เพื่อรองรับเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ส่วนท่าอากาศยานชุมพรจะโอนให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รับไปดำเนินการพัฒนาเพื่อรองรับไทยแลนด์ริเวียร่าต่อไปโดยเส้นทางน่าจะเริ่มจากหาดชะอำเพชรบุรีผ่านมาหัวหินปราณบุรีประจวบคีรีขันธ์บางสะพานใหญ่และชุมพรไปจนถึงหลังสวนนอกจากนี้จะสร้างทางรถไฟไฮสปีดเทรนต่อจากหัวหินไปจนถึงสุราษฎร์ธานี
ครม.สัญจรประจำเดือนสิงหาคม 2561 ในระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคมนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่ระนอง และชุมพร จะมีแผนพัฒนาโครงการ SEC เซาเทิร์นอีโคโนมิกคอร์ริดอร์
โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติเป็นผู้จัดทำแผนมีแผนพัฒนาโครงการ SEC ให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนและการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานควบคู่ไปกับโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า
ว่ากันว่าโครงการชายหาดไทยแลนด์ริเวียร่าครั้งนี้จะมีพื้นที่เรียงรายลงไป 4 จังหวัดจากเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี มีการเชื่อมการคมนาคมระหว่างทางบกทางรถไฟทางน้ำทางอากาศให้รองรับนักท่องเที่ยวนานาชาติจากปีละ 36 ล้านคนในปี 2561 เป็นปีละ 60 ล้านคนในปี 2570 ซึ่งจะทำให้ได้รับเม็ดเงินเพิ่มขึ้นจากปีละ 50 พันล้านเหรียญสหรัฐจนเพิ่มเป็นปีละ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่าไทยน่าจะทำได้แบบไม่ยากนักอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี