สิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะ คนและสัตว์ ย่อมต้องเกิดมาจากผู้ให้กำเนิด และผู้ให้กำเนิดส่วนใหญ่ก็มักเป็นเพศหญิง หรือเพศแม่
สำหรับคนแล้ว คนทุกคนต้องมีแม่ แต่คนทุกคนจะคิดถึงแม่ และจะรักแม่หรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่แต่ละคนย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจของตนเอง
ลูกบางคนอาจจะรักแม่อย่างมากมายเหลือล้นจนเกินจะพรรณนาได้หมดได้สิ้น แต่ลูกบางคนก็ไม่รักแม่ เพราะคิดว่าแม่ไม่รักตนเอง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฐานคิดของลูกแต่ละคน
สำหรับลูกที่รักแม่อย่างสุดหัวจิตหัวใจแล้ว แม่คือทุกสิ่งทุกอย่างของลูก แม่คือผู้ให้ความรัก ความอบอุ่น ความหวังดี และความเมตตากรุณาต่อลูก เพราะฉะนั้นแม่ในสายตาของลูกที่รักแม่แล้ว แม่จึงเป็นคนที่ดีที่สุด วิเศษที่สุด สวยงามและน่ารักเป็นที่สุด
ผู้เขียนขออนุญาตยกบางบทบางตอนจากวรรณกรรมระดับโลก ชื่อ “แม่” (MOTHER) ของแม็กซิม กอร์กี(หรือ Aleksei Maksimovich Peshkov)นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นอมตะของรัสเซีย และของโลก โดยเนื้อหาที่ยกมา ณ ที่นี้ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยโดย จิตร ภูมิศักดิ์
…..แม่เป็นคนร่างสูง หลังงอนิดหน่อย เรือนร่างของแม่ถูกทำลายยับเยินด้วยงานหนัก และการทุบตีของพ่อนั้น เคลื่อนไหวไปมาอย่างเงียบเชียบไม่มีเสียง และค้อมเอียงน้อยๆ เหมือนกับกลัวว่าจะไปชนอะไรเข้า ใบหน้ารูปไข่ ใหญ่ฉุ เป็นริ้วย่นของแม่ มีประกายอยู่ก็แต่ที่ดวงตาทั้งสองซึ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความรันทดระทม เหมือนกับดวงตาของหญิงส่วนมากในย่านนั้น เหนือคิ้วขวามีรอบแผลเป็นรอยใหญ่ รั้งเอาคิ้วกระเดิดสูงขึ้นไปเล็กน้อย เลยทำให้ดูคล้ายกับว่า หูข้างขวาของนางสูงกว่าหูข้างซ้าย สภาพดังกล่าวทำให้ใบหน้าของแม่มีท่าทีเหมือนกับคนที่ต้องหวาดผวา ระวังตัวอยู่เสมอ ผมที่ดกดำของนางเริ่มมีเส้นสีขาวแซมประปราย แม่ช่างดูอ่อนโยนก็ปานนั้น เศร้าก็ปานนั้น และยอมเป็นทาสก็ปานนั้น…..
อันที่จริง ยังมีวรรณกรรม และบทกวีต่าง ๆ ที่กล่าวถึง “แม่” อีกมากมายจนเกินจะนำมากล่าวถึงในที่นี้ได้หมด
แต่มีวรรณคดีไทยเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบมากเป็นพิเศษ นั่นคือเรื่องพระลอ หรือลิลิตพระลอ ที่ทำให้ผู้อ่านทุกคนซาบซึ้งจนเกินจะบรรยายได้กับความรักของแม่ (นางบุญเหลือ)
ที่มีต่อลูก (พระลอ)
สุดใจสุดแม่ห้าม ภูธร สอนบ่ฟังแม่สอน จักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์ ทุกข์ใหญ่ หลวงนา แม่อยู่ตั้งแต่เศร้า โศกร้อนฤาเสบยฯ
ลูกเอยจากแม่โอ้ กรรมใด นาพ่อ ตั้งแต่คิดเด็ดไป สู่สร้อย
แม่เดียวอยู่อาไลย ทนเทวษ แลนา มาแม่จะชมน้อย หนึ่งให้คลายใจฯ
ชมปรางชมผากเผ้า ริมไร เกศนา เชยปากตาตรูไตร เพริศพริ้ง
ชมพักตร์ดั่งแขไข ขวัญเนต บพิตรพ่องามสิงคลิ้ง
จูบแก้มเชยกรรณฯ
ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าสำหรับคุณที่อ่านลิลิตพระลอ ตอนที่พระลอ แห่งเมืองแมนสรวงกราบลาแม่ เพื่อออกเดินทางไปหาพระเพื่อน พระแพง ที่เมืองสรอง คงจะต้องซาบซึ้งใน
บทกวีที่แสดงความรักที่แม่มีต่อลูกอย่างมากมายเกินบรรยายได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนมั่นใจว่า คุณทุกคนมีแม่ แต่คำถามที่อยากจะถามคุณคือ คุณรักแม่ของคุณมากเพียงใด คุณรักแม่แค่เพียงวาจา หรือคุณรักแม่แล้วคุณแสดงออกให้แม่ได้ประจักษ์แจ้งถึงความรักที่คุณมีต่อแม่ของคุณ
น่าประหลาดใจมากกับการที่ลูกบางคนอายกับการหอมแก้มแม่ และอายกับการกอดแม่ คำถามคือทำไมต้องอายด้วย ขอถามสำหรับคนที่อ้างว่าอายเมื่อต้องหอมหรือกอดแม่
ลูกหลายคนมีเวลามากมายให้กับการทำงาน การเที่ยวเตร่ การพูดคุยกับเพื่อน แต่กลับไม่มีเวลาให้กับแม่ ไม่มีเวลากินข้าวกับแม่ ไม่มีเวลาไปหาแม่ ไม่มีเวลานอนกอดแม่ ไม่มีเวลาพาแม่ไปเที่ยว ไม่มีเวลาคุยกับแม่ เวลาแม่ขอร้องให้ทำอะไรให้แต่ละอย่าง ลูกบางคนก็กลับผัดผ่อน ประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ โดยอ้างสารพัดสารพันว่าไม่ว่าง ไม่มีเวลา ยังยุ่งอยู่ แต่ลูกที่มีพฤติกรรมเช่นนั้นคงลืมนึกไปว่า แม่ของเขาจะมีเวลาอยู่กับเขาอีกไม่นานแล้ว
ลูกบางคนไม่เคยให้เวลากับแม่เลย แต่เมื่อรู้ว่าแม่ป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล ก็ร้องไห้ฟูมฟาย และแสดงความกดดันต่อแพทย์ผู้รักษาแม่ว่าต้องรักษาแม่ให้หายป่วยให้ได้ จะเสียเงินเสียทองเท่าไรก็ยินดีเสีย ลูกบางคนขอให้หมอช่วยยื้อชีวิตของแม่ที่ป่วยหนักไว้ให้นานที่สุด เพราะต้องการจะแสดงความรักแม่ ในขณะที่แม่ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกต่อไปแล้ว
ขอถามว่า นี่คือการแสดงความรักที่ลูกมีต่อแม่ จริงหรือ และขอถามต่อไปว่า ทำไมเมื่อแม่ยังมีสุขภาพแข็งแรง พูดคุยตอบโต้กับลูกได้ ทำไมลูกจึงไม่ไปหาแม่ ไม่ไปอยู่กับแม่ แต่ครั้นเมื่อแม่ป่วยหนัก กลับพยายามยื้อชีวิตแม่ให้ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป เพื่อเหตุใดกัน หรือเพื่อชดเชยที่ตนเองละเลยไม่เอาใจใส่ต่อแม่ในยามที่แม่ยังมีชีวิตปกติ
มีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งเขียนไว้ว่า
ชายคนหนึ่ง ซึ่งมีฐานะการงานดีมาก เข้าไปสั่งทำดอกไม้ช่อใหญ่ แล้วบอกให้เจ้าของร้านดอกไม้ส่งช่อดอกไม้นั้นไปให้แม่ของเขาที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง หลังจากสั่งเสร็จ เขาก็เดินออกจากร้านเพื่อจะกลับไปยังรถยนต์คันโตหรูหราที่จอดรอเขาอยู่ แต่เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนหน้าละห้อยอยู่หน้าร้านดอกไม้ แล้วจองมองแจกกันดอกไม้ที่วางโชว์อยู่ในตู้หน้าร้าน เขาจึงเดินไปถามเด็กว่า หนูอยากได้ดอกไม้หรือ ถ้าอยากได้ ฉันจะซื้อให้ เลือกได้เลยว่าต้องการดอกไม้แบบไหน
เด็กน้อยตอบว่า หนูต้องการดอกไม้เพียงดอกเดียวเท่านั้น หนูจะเอาไปให้แม่
ผู้ชายตอบว่า ได้เลย หนูเลือกได้เลย ฉันซื้อให้
หนูน้อยเลือกดอกกุหลาบสีแดงดอกโตเพียงดอกเดียวเท่านั้น
ผู้ชายจึงถามว่า หนูจะเอาไปให้ใครหรือ
หนูน้อยตอบว่า เอาไปให้แม่ค่ะ
ผู้ชายบอกว่า ไปกับฉัน ฉันจะส่งหนูไปหาแม่ แม่หนูอยู่ไหนล่ะ
หนูน้อยตอบว่า แม่หนูอยู่ที่สุสาน ที่ไม่ไกลจากร้านขายดอกไม้นี้ค่ะ แม่เพิ่งจากหนูไปเมื่อวานนี้
เมื่อได้ฟังเพียงเท่านี้ ผู้ชายคนนี้จึงวิ่งกลับเข้าไปในร้านขายดอกไม้ทันใด แล้วบอกกับเจ้าของร้านว่า ไม่ต้องส่งดอกไม้ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้แล้ว ผมจะนำดอกไม้ไปให้แม่ผมด้วยตัวผมเอง
อยากถามคุณๆ ว่า เมื่อคุณอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้แล้ว คุณมีความรู้สึกอย่างไร ผมเชื่อว่าคุณรู้สึกอยากไปหาแม่ของคุณ
ใช่ครับ กลับไปหาแม่ให้บ่อยมากที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณโชคดีที่สุดในโลก เพราะคุณยังมีแม่ให้คุณได้กลับไปหา กลับไปหอมแก้ม กลับไปกอด และกลับไปกราบเท้า
แม่คิดถึงลูกทุกวัน ไม่ว่าจะวันไหนๆ ก็ตาม เพราะฉะนั้นโปรดอย่าปล่อยให้แม่คิดถึงลูกอีกต่อไปเลย กลับไปหาแม่เถอะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี