และแล้วในวันที่บทความนี้ลงตีพิมพ์น้ำก็คงล้นเขื่อนมากกว่าเมื่อสัปดาห์ก่อน และคงจะท่วมมากกว่าสัปดาห์ก่อน เขื่อนเล็ก เขื่อนน้อย ก็คงจะแตกร้าว หรือทรุดมากกว่าสัปดาห์ก่อน แต่เขื่อนใหญ่จะเป็นประการใดนั้นก็ต้องคอยฟังข่าวกันต่อไป
อันเขื่อนเล็ก เขื่อนน้อย ที่ทรุดแตกหรือร้าวนั้น เกิดแต่เหตุ 2 สถาน คือน้ำทะลักมาสถานหนึ่ง และมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างที่ไม่ได้คุณภาพหรือมาตรฐานที่จะรองรับกับปริมาณน้ำ หรือไม่เป็นตามแบบในการก่อสร้างอีกสถานหนึ่ง และคงจะเปิดเผยร่องรอยให้เห็นการทุจริตที่เป็นไปในขบวน “โกงทุกหย่อมหญ้า” ที่เป็นมาระยะหนึ่งแล้วด้วย
ความจริงขณะนี้พึ่งเป็นช่วงระยะต้นพรรษาที่ถือว่าเป็นต้นฤดูฝน และในการกำหนดฤดูฝนนั้นอย่าไปเที่ยวยึดถือเชื่อฟังคำประกาศใดๆ ซึ่งไม่เคยเห็นตรงกับความเป็นจริงเลย ขอให้ดูจากวันที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต เป็นเครื่องทรงฤดูฝนนั้นเถิด ว่านั้นแล้วคือสัญญาณการเริ่มต้นที่แท้จริงของฤดูฝน ที่ไม่เคยผิดพลาดคลาดเคลื่อนเลย
ฤดูฝนในประเทศไทยนั้น มีกำหนดระยะเวลาประมาณ 4 เดือน คือ ตั้งแต่ประมาณวันเข้าพรรษาหน้า ไปจนถึงวันออกพรรษาหน้า โดยห้วงเวลาตั้งแต่วันกำหนดการพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญนั้น คือวันส่งสัญญาณแรกให้เตรียมการไถ่ ปลูก หว่าน เสียให้พร้อมก่อนที่ฤดูฝนจะมาถึงเต็มตัว
ทว่าในปีนี้ ไม่ใช่ปีปกตินักมีผู้เตือนให้ได้เห็นเป็นระยะๆ ว่าปีนี้น้ำจะมากจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ กระทั่งอาจเกิดแผ่นดินไหวและเขื่อนอาจจะแตก ขออย่าได้ตั้งอยู่ในความประมาท ขอให้เตรียมการให้พร้อม เพื่อป้องกันการเสียหายและภัยพิบัติทั้งหลาย
แต่บ้านเมืองนี้แปลกยิ่งนัก ใครทัก ใครท้วง ใครติง เรื่องอะไร ก็จะมีคนออกมาดูถูกดูแคลนเหยียดหยาม แล้วก็โวโอ้อวดว่า จะไม่เป็นอย่างนั้น จะไม่เป็นอย่างนี้ และในที่สุดเมื่อเกิดพิบัติขึ้นแล้วก็ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ทำให้หัวหน้ารัฐบาลต้องเดือดร้อน วุ่นวาย แก้ไขปัญหา แบบฉุกเฉินกันลั่นไป
ในเรื่องน้ำ เรื่องฝน เรื่องลมนั้น มิได้มีแค่วิธีทางอุตุนิยม ซึ่งหยาบและมีความผันแปรเปลี่ยนแปลงได้หลายประการดังที่ปรากฏอยู่เสมอ ว่าเหตุการณ์จริงหลายครั้งไม่ได้เป็นไปตามที่ประกาศนั้นเลย
ยังมีแบบแผนการคำนวณทางจันทรคติที่มีสถิติโบราณนับเนื่องกันมา คำนวณกำหนดรอบระยะ เวลา ปี เดือน ฤดูกาลก็มีความถูกต้องแม่นยำตลอดมา ดังจะเห็นการคำนวณฤดูกาลทางจันทรคตินั้น โดยกรอบใหญ่ก็ไม่เคยผิดพลาดคลาดเคลื่อน
นอกจากนั้นยังมีแบบแผนวิธีการคำนวณจากการโคจรทางดาราศาสตร์ ที่พิจารณาจากการโคจรจากดาวเดือน ที่จรไปในนภาอากาศ แล้ววางลงในราศีจักรอันประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ และกลุ่มดาวฤกษ์ทั้งหลายที่จัดหมวดหมู่เป็น 27 กลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มอัศวณีไปจบครบที่กลุ่มดาวเรวตี
ในครั้งนี้ก็มีผู้คำนวณจากการโคจรของดาวเดือนในอากาศ ประกอบกับราศีธาตุทั้งสี่ ที่ประจำทั้งราศีทวาร และอีกสองราศีหน้าหลังแล้ว ก็ปรากฏว่าช่วงสองห้วงเวลาพระจันทร์เพ็ญตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลังไปนั้น ดาวเดือนดินฟ้าอาเพศวิปริต
กล่าวโดยประมาณคือ ดาวมฤตยูอันเป็นวิญญาณธาตุโคจรทับดวงเมืองอยู่ในราศีธาตุไฟ พระราหูธาตุลมจรอยู่ในราศีกรกฎธาตุน้ำ พระอังคารธาตุลมจรอยู่ในราศีมังกรธาตุดิน พฤหัสธาตุดินโคจรทรงคุณกล้าอยู่ในราศีตุลย์ธาตุลม ในขณะที่พระเสาร์ธาตุไฟโคจรอยู่ในราศีธนูธาตุไฟ เป็นตรีโกณหลังกับดวงเมือง
เป็นลักษณะอาเพศที่เกี่ยวกับน้ำ ลม ดิน และไฟ ส่งผลถึงดวงเมืองและความรู้สึกนึกคิดของผู้คนทั้งหลายอย่างพร้อมเพรียงกัน
อาการอย่างนี้ คือสัญญาณบ่งบอกว่าพายุจะพัดจับฝนจะตกหนัก น้ำจะไหลท่วมหนัก และหนุนเนื่องด้วยน้ำทะเลทั้งจากทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออก จะเกิดสภาพน้ำท่วมหนักประดังเข้ามาทุกทิศอาจเกิดระเบิดใต้ผิวโลก และอาจเกิดภูเขาไฟระเบิดในหลายที่ ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว และน้ำท่วมใหญ่ เขื่อนเล็ก เขื่อนน้อย และเขื่อนใหญ่ อาจได้รับผลกระทบ
ซ้ำเติม
เป็นลักษณะการที่เรียกว่าพระราหูเล่นน้ำ ต้องระวังให้จงหนัก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี