ภายหลังคณะทหารก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลระบอบโกงของทักษิณ ชินวัตร ไปได้ 2 ครั้ง 2 คราว เพื่อไม่ให้คนที่โกงบ้านกินเมืองมีแผ่นดินอยู่ต้องหนีคดีระเห็จออกไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศในวันที่ 19 กันยายน 2549 และวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ใช่ว่าคนเป็นรัฐบาลภายหลังจะอยู่รอดปลอดภัยง่ายๆ เพราะโลกในทุกวันนี้ใครมีอำนาจเงินหนาก็สามารถจะซื้อสื่อสารมวลชนทั้งในและนอกประเทศเข้ามาเป็นสมัครพรรคพวกได้อย่างสบายสมัยนี้มีเงินเสียอย่าง เงินซื้ออะไรได้หมดทั้งสิ้น
ยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้วมีการสื่อสารทางระบบโซเชียลมีเดียและมีการแพร่ข้อความภาพข่าวอันเป็นเท็จอยู่ในต่างประเทศกว่าจะรู้ว่าถูกคนโกงคนชั่วหลอกลวงมันก็สายเกินไปเสียแล้ว เสียท่าคนชั่วนักการเมืองเลวๆ ง่ายดายขนาดคนชั้นกลางทั่วประเทศไทย มาชุมนุมขับไล่นักการเมืองหน้าเงินหน้าด้านขี้โกงทำไขสือไม่ยอมลาออก ร้อนถึงคณะทหารต้องขนรถถังปืนกลออกมาไล่นั่นแหละคนโกงจึงได้หนีคดีออกไปต่างประเทศเพราะกลัวอำนาจปืนพวกเขาไม่กลัวประชาชนเพราะประชาชนซื้อได้นั่นเองไม่เชื่อก็ต้องเชื่อในความเป็นจริงข้อนี้
บางครั้งก็มีการคิดแบ่งแยกดินแดนประเทศไทยออกไปเป็นรัฐอิสระประเทศใหม่ ก็ยังมีอยู่ให้เห็นโดยเฉพาะ 7–8 จังหวัดทางภาคเหนือ ของประเทศไทยที่เป็นบ้านของระบอบทักษิณ มีข่าวว่ามีการเคลื่อนไหวมาหลายปีแล้วกำลังคิดประกาศแยกตัวออกไปเป็นประเทศใหม่โดยจะเรียกร้องขอให้องค์การสหประชาชาติขอเป็นสาธารณรัฐเกิดใหม่ ให้มีการลงประชามติจากประชาชนในพื้นที่แบบเดียวกับการขอแยกสกอตแลนด์จากสหราชอาณาจักร หรือ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กำลังดำเนินการอยู่ตลอดมานับสิบๆ ปี
การบริหารราชการแผ่นดินสมัยนี้ยุคโลกแคบลงรัฐบาลจะประมาทไม่ได้หากก้าวพลาดเมื่อใดพวกของระบอบทักษิณที่เป็นนักการเมืองหนังหนาและข้าราชการทั่วไปเป็นจำนวนมากได้อาศัยโซเชียลมีเดียโจมตีพลเอกประยุทธ์และคณะคสช.โดยตลอด บางครั้งก็เอาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาใส่หัวประชาชนผ่านไลน์กลุ่มก็มีมากมายทีเดียวเพราะฉะนั้นหากไม่ระมัดระวังในการสื่อสาร ประชาชนที่ได้รับเอาข้อมูลข่าวสารที่ผิดๆ ก็จะหลงเชื่อง่ายๆ
เคยได้ยกตัวอย่างการล้มรัฐบาลสมเด็จพระเจ้าชาห์ปาเลวี แห่งสาธารณรัฐประชาชนอิสลามอิหร่าน มาแล้วว่า
คณะอะยาโตเลาะห์ โคไมนี ได้ใช้ระบบสื่อสารเดิม คือ ม้วนเทปและม้วนวีดีโอที่มีการอัดเทปภาพและเสียงปลุกระดมของโคไมนีเข้ามาแจกจ่ายให้ประชาชนชาวอิหร่านก่อเหตุก่อจลาจลลุกฮือล้มรัฐบาลพระเจ้าชาห์ได้สำเร็จ ขณะนี้ได้ข่าวว่า
มีการใช้การปลุกระดมประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานให้หลงเชื่อว่าระบอบทักษิณถูกแกล้งบ้างถูกใส่ร้ายบ้างและมีการทำลายระบบความหน้าเชื่อถือของระบบศาลและตุลาการของไทย หาว่าศาลไทยมี 2 มาตรฐาน
โดยคนพวกนี้มีเป้าหมายใหญ่ต้องการแยกดินแดนออกไปเป็นรัฐอิสระใหม่แล้วนำเอาทักษิณกลับมามีอำนาจทางด้านการเมืองในรัฐที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้เป็นการสร้างเงื่อนไขนำพาให้ประเทศไทยเกิดปัญหาความแตกแยกของประชาชนอย่างรุนแรง นำไปสู่การสงครามกลางเมือง คนไทยแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันต้องมาจับอาวุธฆ่ากันเองอย่างที่เคยปรากฏมาแล้วในหลายๆประเทศ เช่น ในปากีสถาน อัฟกานิสถาน ซูดาน เอธิโอเปีย โซมาเลีย สหพันธรัฐรัสเซีย สหพันธรัฐยูโกสลาเวีย เม็กซิโก สหรัฐอเมริกา สเปน เป็นต้น
เชื่อว่ารัฐบาล คสช.คงทราบมาแล้วเพราะอำนาจเงินนั้นทำให้คนเลวมาสวามิภักดิ์ยอมเป็นทาสรับใช้คนโกงได้ง่ายๆ
โดยอ้างเอาสิทธิเสรีภาพมาบังหน้าอ้างคำว่าประชาธิปไตยมาขยายความหลอกประชาชนหวังอาศัยประชาชน
และมวลชนเป็นเครื่องมือสร้างฐานอำนาจแล้วนำไปสู่การสร้างสงครามกลางเมืองแบบที่หลายๆ ประเทศ
ในโลกนี้ประสบเหตุมาแล้วจนทำให้มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก
การรวมหัวสร้างความแตกแยกและปั่นป่วนในไลน์กลุ่มมีการกระทำมานานเป็นปีแล้ว บางครั้งก็ไปเอาเรื่องของการปราบปรามพระสงฆ์ทุศีลที่โกงเงินงบประมาณหรือคดีเงินทอนวัดของภาครัฐที่ได้กระทำไปตามหลักฐานและประจักษ์พยานแห่งคดีความกล่าวหาว่ารัฐบาลคสช.มุ่งทำลายพระพุทธศาสนาถึงขั้นไปปลุกระดมประชาชนและพระภิกษุในหลายๆ จังหวัดให้หลงเชื่อเตรียมการให้พระมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลก็มี
เรื่องนี้เชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลทั้งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ที่ทำหน้าที่เลขาธิการคสช.คงได้มีการสั่งการให้ฝ่ายข่าวกรองทางทหารดำเนินการสืบหาตัวการทั้งในประเทศและต่างประเทศนอกจากนี้ทางกองบัญชาการตำรวจสันติบาลน่าจะคงพอทราบเบาะแสบ้างว่า มีใครเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังบ้าง
ประการสำคัญรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชูเกียรติ มาลินีรัตน์ เลขาธิการสำนักข่าวกรองแห่งชาติพลเอกวัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และพลตำรวจโทสราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลต้องวางแผนรับมือด้วยความรอบคอบไม่ให้เหตุบานปลายล่วงหน้าไว้ด้วย
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี