ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดี “อดีตพระเณรคำ” ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
ในคำพิพากษาระบุถึงพฤติการณ์หลายกรณี ทำให้หวนนึกถึงกรณีของ “ธัมมชโย”
1. “อดีตพระเณรคำ” หนีคดีไปต่างประเทศ ก่อนที่ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาเมื่อปี 2560
แต่ “ธัมมชโย” ยังหลบหนีหมายจับคดีฟอกเงินอยู่
ทางการเชื่อว่า หนีออกไปจากวัดพระธรรมกายแล้ว
2. อดีตพระเณรคำ ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ด้วย ซึ่งธัมมชโยยังไม่ปรากฏว่าโดนข้อหานี้
โดยอดีตพระเณรคำอาศัยความเป็นพระภิกษุ ในฐานะประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และความศรัทธาของประชาชน หลอกลวงว่า นิมิตพบองค์อินทร์ ขอให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และสร้างมหาวิหารครอบองค์พระ โดยใช้หยกเขียวแท้จากประเทศอิตาลี และสร้างเครื่องทรงพระแก้ว 3 ฤดูด้วยทองคำแท้ และก่อสร้างเสาวิหารแก้ว 199 ต้น ต้นละ 3 แสนบาท รูปหล่อพระทองคำ (รูปเหมือนตนเอง) ก่อสร้างวิหารสำหรับประชาชนที่วัดป่าฯ สาขา 1 จ.อุบลราชธานี สร้างวัดที่ จ.สุพรรณบุรี รวมทั้งการจัดซื้อเรือจากสหรัฐฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยประกาศชักชวนให้ประชาชนนำเงิน ทองคำ และทรัพย์สินมาบริจาคที่วัดป่าฯ โดยจัดตู้บริจาค 8 ตู้
นอกจากนี้ อดีตพระเณรคำยังได้ใช้เว็บไซต์ “www.luangpunenkham.com เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการจัดสร้างสิ่งต่างๆ จนมีผู้เสียหาย 29 ราย (เฉพาะที่มาร้องทุกข์)หลงเชื่อว่า เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เข้าร่วมบริจาคเงินและทรัพย์สินต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 28,649,553 บาท แล้วโอนเงิน 1,130,000 บาท ที่ได้จากการฉ้อโกงไปซื้อรถยนต์ตู้โตโยต้า 1 คันโดยทุจริต ทั้งที่ความจริงแล้วมิได้ก่อสร้างตามที่ประกาศไว้
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การอวดอ้างนิมิตถึงพระอินทร์แล้วหลอกลวงให้ประชาชนที่เคารพศรัทธา ที่เป็นพุทธศาสนิกชนหลงเชื่อจนบริจาคเงินให้ แล้วนำไปซื้อรถปอร์เช่ รถตู้ รถกระบะ หลาย 10 คัน รวมทั้งใช้เงินเกินความจำเป็นความเป็นสงฆ์ กระทั่งจำเลยก็ถูกศาลแพ่งริบทรัพย์ 43,478,992 บาท นั้น ฟังได้ว่าการกระทำของจำเลยนั้นผิดตามฟ้อง
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกรรมเป็นกระทงความผิดไป จึงพิพากษาให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 รวม 29 กระทง กระทงละ 3 ปี รวม 87 ปี, พ.ร.บ.คอมพ์ฯ มาตรา 14 (1) เป็นเวลา 3 ปี และความผิดฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 12 กระทง กระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 24 ปี
รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี
แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตามกฎหมาย มาตรา 91(2) แล้วได้ 20 ปี
และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย จามจำนวนที่ได้ฉ้อโกงไป
ส่วนคดีชำเราเด็กหญิงนั้น ศาลอาญาจะนัดพิพากษาในเดือน ต.ค.นี้.
3. เปรียบเทียบกับกรณีธัมมชโย
กรณีอดีตพระเณรคำ คณะสงฆ์สามารถดำเนินการให้พ้นจากความเป็นสงฆ์ได้ โดยที่เจ้าตัวหลบหนีอยู่ก่อนหน้าที่จะถกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีด้วยซ้ำ
แต่กรณีของธัมมชโย ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย ทั้งๆ ที่ ถูกถอดสมณศักดิ์ไปแล้ว
4. ธัมมชโยถูกดำเนินคดีในข้อหาอาญา ฐานฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน รับของโจร
แต่ก่อนหน้านี้ มีพฤติการณ์อวดอ้างอิทธิฤทธิ์มากมาย
พระต้นธาตุต้นธรรม
ไปเจอสตีฟ จ๊อบ
ไปนรกไปสวรรค์
ระดมเงินจากประชาชนมากมายมหาศาลยิ่งกว่า
มีการผ่องถ่ายเงินออกไปไหนต่อไหน มากมายมหาศาลยิ่งกว่า
น่าสงสัยว่า ธัมมชโยถือครองทรัพย์สินมากมายมหาศาลแค่ไหน? ถูกต้องแค่ไหน?
ทั้งในชื่อของธัมมชโย และในชื่อของบุคคลอื่น มีอีกแค่ไหน?
เหตุใด จึงไม่มีการดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชนกับธัมมชโย?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี