พรอนงค์ เพชรล้ำ
การทำงานในยุคต่อไปจะต้องมีมาตรฐานการทำงาน ซึ่งปัจจุบันคือมาตรฐานโลก (Global Standard)
ตัวอย่างในด้านกีฬา ปัจจุบันเป็นที่พิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่าคนไทยเก่งระดับเบอร์ 1 ของโลกได้คือ เม-อารียา ปัจจุบันเมเป็นแบบอย่างที่ดีของนักกอล์ฟรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ (Purpose) สู่ระดับโลก และการที่โปรแหวน-พรอนงค์ เหลือแค่3 หลุมสุดท้าย แต่พลาดเสียก่อนมิเช่นนั้นจะเป็นแชมป์ระดับ Majorอีกคนหนึ่งได้เหมือนกัน
ผมพูดในรายการวิทยุของผมว่า เด็กยากจนในอีสาน ถ้าได้รับการสนับสนุนให้ทุนกีฬากอล์ฟเด็กยากจน ซึ่งเก่งเรื่องกอล์ฟจะเปิดโอกาสให้เยาวชนหญิงในภาคอีสานที่สนใจกอล์ฟ ที่เล่นกอล์ฟให้ดี ได้แรงบันดาลใจจากโปรแหวน-พรอนงค์ ซึ่งเป็นเด็กอีสานจากจังหวัดชัยภูมิ ก็จะนำพาให้ไปสู่อนาคตที่ดีนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศได้
ผมอยากเห็นเด็กผู้หญิงอีสานยากจน มีโอกาสมากขึ้น เช่นโปรแหวนนี้
สัปดาห์นี้ผมหันมากระตุ้นให้คนไทยที่อายุไม่มาก ที่เรียนในมหาวิทยาลัยหรือทำงานแล้วโดยเฉพาะในวงการธุรกิจดูตัวอย่างของผู้นำจากอินเดีย2 คน ได้เข้าไปสู่ตำแหน่งผู้นำของบริษัทข้ามชาติระดับโลก สร้างชื่อเสียงให้ประเทศอินเดียอย่างมาก
คนแรก ชื่อ Indra Nooyi เป็นผู้หญิงเก่งของอินเดีย ทำงานในบริษัท Pepsi จนได้เป็น CEO ของPepsi สร้างชื่อเสียงให้แก่คนอินเดียและคนในโลกอย่างมาก
Indra Nooyi
มีข้อดีเธอคือ เธอไปทำงานที่อเมริกาตั้งแต่อายุน้อยมีคนพูดว่าคนไทยชอบทำงานในเมืองไทย เมื่อให้ออกไปทำงานต่างประเทศก็ขาดความมุ่งมั่น ซึ่งจากตัวอย่างนี้อยากให้คนไทยที่เรียนอยู่หรือทำงานแล้ว ถ้ามีโอกาสควรไปทำงานในต่างประเทศบ้าง เพื่อพิสูจน์ว่าในระดับโลกนักธุรกิจไทยก็ขึ้นสู่ระดับ CEO ของบริษัทใหญ่ๆ ได้ ผมอยากให้ภายใน 5-10 ปี มีผู้หญิงไทยเก่งๆ ระดับนี้เพิ่มขึ้น
Indra Nooyi ไปได้เพราะครอบครัวและสามีสนับสนุน ให้ไปทำงานที่อเมริกาแต่เมื่อจบปริญญาตรีใหม่ๆ เธอจบปริญญาตรีที่อินเดีย และไปต่อบริหารธุรกิจต่อที่มหาวิทยาลัยเยล
นักธุรกิจหญิงไทยก็สามารถเดินตามได้ แต่อาจมีจำนวนน้อยเพราะผู้หญิงไทยจะมองว่าสำเร็จเป็น CEOระดับบริษัทในประเทศก็พอแล้ว ผมว่าทะเยอทะยานยังไม่พอ ขอให้กำลังใจต่อไป
ถ้าได้เป็น CEO ในระดับบริษัทข้ามชาติ พิสูจน์ให้เห็นว่าคนไทยทำได้ ถ้ามีโอกาสความสามารถของคุณ Nooyi มีมากมาย ขอสรุปไว้ 3 เรื่อง
1. ทำงานต้องมีความรักในงาน Passion ไม่ใช่เพราะมีรายได้หรือตำแหน่งอำนาจแต่ต้องทำ เพราะหัวใจรัก บทเรียนนี้สำคัญเพราะคนไทยมักจะคิดถึงตำแหน่งกับรายได้และอำนาจไม่ได้ทำเพราะมีใจรัก Passion
2. การทำงานไม่ได้แค่มีสมรรถนะCompetency แต่ต้องกล้าแสดงจุดยืนว่าคืออะไร
3. กล้าเปลี่ยนแปลงอย่างมั่นใจก่อนที่จะสายเกินไป
Satya Nedella
สรุปแล้ว คนไทยก็ทำได้ อยู่ที่วิสัยทัศน์ Vision ของตัวเอง ความสมดุลเรื่องงานกับครอบครัวและสำคัญที่สุดคือ มองโลกว่าแค่ไหนพอซึ่งคนไทยจะมองค่อนข้างแคบไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำงานใหญ่ๆ เช่น คุณ Nooyi จะต้องปรับตัวที่จะไปทำงานในต่างประเทศและปรับอย่างไรกับเป้าหมายของครอบครัว(สามีหรือลูก)
ส่วนอีกคนหนึ่งที่คนไทยถือเป็นแบบอย่างที่ดีได้คือ Satya Nedella ชาวอินเดียปัจจุบันเป็น CEO Microsoft
เมื่อจบปริญญาตรีจากอินเดียแล้วเรียนต่อบริหารธุรกิจ ทำงานให้ Microsoft กระทั่งวันหนึ่งBill Gates เลือกให้เป็น CEO คนที่ 3 ต่อจากตนเอง และ Steve Ballmer
ผมชอบแนวคิดของ Satya3 เรื่อง ซึ่งผมมักจะพูดเสมอและอยากให้ผู้อ่านนำไปใช้
1. การทำงานต้องมีความอยากรู้อยากเห็น ตลอดเวลา
2. ต้องกระหายการเรียนรู้ตลอดเวลา
3. การเข้าประชุมกลุ่มในบริษัท อย่าเน้นความสำคัญ Ego ของตัวเองจงฟังคนอื่นๆ บ้างในแนวคิด Lean Share Care ของผม คนเก่งมักไม่ฟังคนอื่นๆเขาปรับวิธีการประชุมใหม่ที่ Microsoftคือให้ทุกคนคำนึงถึงส่วนรวมไม่ใช่เพื่อความสำคัญของตัวเองมีความถ่อมตัวมากกว่าอวดเก่ง
วันนี้ผมกระตุ้นให้คนไทยมองไปข้างหน้า เพื่อสร้างโอกาสให้เป็นผู้นำ ธุรกิจระดับข้ามชาติชั้นนำของโลก แบบผู้นำอินเดียที่ยกตัวอย่าง
“ทำได้แน่ๆ ครับ”
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี