มีข่าวปล่อยมาให้สื่อ ว่าขณะนี้ตำรวจฝ่ายสอบสวนขาดแคลนพนักงานสอบสวนหญิง การปล่อยข่าวเช่นนี้มาจากผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์ เนื่องจาก “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” มีคำสั่งไม่ให้ “โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน” รับผู้หญิงเข้ามาเป็น “นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน” ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เนื่องจากสตช. ไม่มีงบประมาณประกอบกับการผลิต “นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง” ไม่คุ้มค่า เมื่อนายร้อยตำรวจหญิงเรียนจบมา ต้องปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวกับเด็กและสตรี ซึ่งเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน ควรใช้ตำรวจหญิงทำการสอบสวน...แต่ไม่เป็นไปตามความประสงค์ นรต.หญิง เริ่มเปิดรับสมัครเข้ามาเรียนในปี พ.ศ. 2552 เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 66 จนถึงรุ่น 71 มีรุ่นละ 70 คน รวมทั้งหมด 1,000 กว่าคน เมื่อเรียนจบมาแล้วบรรจุเป็นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจจะได้เกือบครบทั่วประเทศ .....เมื่อจบมาแล้วคุณเธอทั้งหลายไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่ขอมาคือ “พนักงานสอบสวน” แต่ส่วนใหญ่จะใช้เส้นสายวิ่งเต้นไปนั่งประดับหน้าห้องผู้ใหญ่บ้าง ทำตัวเป็นคุณนายบ้าง ขอไปอยู่หน่วยงานที่มีเงินเยอะคือ “สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง” เป็นต้น มีตำรวจหญิงเพียงน้อยนิดที่มาเป็นพนักงานสอบสวนตามเจตนารมณ์ที่สมัครเข้ามา..... พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ควรทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่นายร้อยตำรวจหญิงกลุ่มนี้ใช้เส้นสายวิ่งเต้นเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ไม่เกี่ยวกับการสอบสวนเรียกกลับมาบรรจุในตำแหน่งพนักงานสอบสวนให้หมดตามระเบียบที่ “โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” รับเข้ามาคือพนักงานสอบสวน สตช.จะได้พนักงานสอบสวนมาอยู่ตามสถานีตำรวจ ปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวนจะได้หมดไป ถ้าใครไม่ปฏิบัติตามคำสั่งถือว่าเป็นการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที” กฎระเบียบที่ตั้งขึ้นมาแล้วต้องนำมาใช้ ท่าน ผบ.ตร.ควรรีบดำเนินการ ไม่ใช่ให้นายตำรวจเหล่านี้บอกให้สื่อไปขยายความเพื่อประโยชน์ให้กับตนเองอีก ..... มีผู้ใหญ่หลายท่านเคยติงกับการรับ “นรต.หญิง” เข้ามาว่าไม่ควรรับเข้ามาจะเกิดปัญหาในภายหลัง แต่ผู้บริหาร “สตช.” ขณะนั้นกลับเห็นดีด้วยเมื่อมีนายตำรวจระดับบริหารมาบรรยายให้ท่านฟังว่านำเข้ามาทำการสอบสวน เมื่อจบมาแล้วไม่เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติ การที่ ท่าน ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ระงับการรับ “นรต.หญิง” นั้นถูกต้องแล้วแต่ควรเรียกพวกเขาที่ไม่ยอมมา มานั่งเป็นพนักงานสอบสวน กลับมาทำหน้าที่พนักงานสอบสวนให้หมดโดยไม่ต้องเกรงใจใครทั้งสิ้น กฎระเบียบที่ร่างขึ้นมาควรนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชนไม่ใช่เพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง อย่าลืมว่า “ตำรวจคือต้นธารกระบวนการยุติธรรม” เมื่อต้นธารอยุติธรรม แล้วประชาชนจะไปพึ่งใคร ที่ผ่านมาเห็นกันชัดแจ้งแล้วตำรวจส่วนหนึ่งเลือกที่จะนำกฎหมายมาเปลี่ยนเป็นคุณ กับผู้มีอุปการคุณและพวกพ้องที่หาผลประโยชน์มาถวายให้ จึงมีกลุ่มทนายความที่ออกมาช่วยประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ ....สวัสดีครับ..เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี