การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาชาติ หรือปัญหาของส่วนรวมในบ้านเมืองนั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ใครก็ตามที่เป็นผู้บริหารบ้านเมืองต้องตระหนักในเรื่องนี้
โดยเฉพาะพวกถือปืนที่เข้ามามีอำนาจอยู่ในขณะนี้
เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาชาตินั้นก็คือ การใช้ “ยุทธวิธีแนวร่วม” ในการต่อสู้นั่นเอง ไม่ว่าจะต่อสู้กับข้าศึก หรือต่อสู้กับปัญหาที่เผชิญหน้า
ร่ำเรียนวิชาทางทหารมาย่อมต้องรู้และเข้าใจ
อย่าใช้แต่ “สงครามจิตวิทยา” กับประชาชนในประเทศของตนเอง ด้วยการสร้างความหวัง ยังความกลัว ยั่วให้เกลียดพวกนั้นพวกนี้แต่อย่างเดียว จนลืมนึกถึงเรื่อง “ยุทธวิธีแนวร่วม” ดังกล่าว คือเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาชาติ
อ่วมลงไปทุกวันก็เพราะเรื่องอย่างนี้
แม้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ก็ยังกำหนดเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนไว้ทุกฉบับที่ผ่านมา
การใช้สิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนดังกล่าว มีหลายระดับ ตั้งแต่การใช้สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสาร หรือการร้องเรียนเพื่อการตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้มีอำนาจทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ การใช้สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมและการสมาคม สิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมือง รวมทั้งสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ อันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในทางการเมือง นอกเหนือจากการใช้สิทธิเลือกตั้ง หรือการใช้สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง
ต้องรู้จักแยกแยะในเรื่องอย่างนี้ โดยเฉพาะในการใช้สิทธิเสรีภาพรวมกลุ่มของประชาชน ต้องอย่าเข้าใจหรือเหมารวมไปในทิศทางของพรรคการเมือง เพราะการรวมกลุ่มของประชาชน หรือการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองก็มี แต่เป็นวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองแก้ไขเรื่องนั้นเรื่องนี้ เป็นต้น
ไม่ใช่เอะอะก็คิดว่าเป็นพวกพรรคการเมือง
อยากชี้ให้เห็นถึงกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมต่างๆ ที่กำลังเกิดให้เห็นในบ้านเราขณะนี้ ว่าการรวมกลุ่มของพวกเขานั้นมาจากเหตุผลอะไร เช่น
1. การรวมกลุ่มของบุคคลที่มีผลประโยชน์อย่างเดียวกัน มีตัวตน หรือมีอัตลักษณ์อย่างเดียวกัน การใช้ชีวิตในสังคมอย่างเดียวกัน มีการเคลื่อนไหวไปตามเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อันเกิดผลกระทบต่อกลุ่มคน กลุ่มดังกล่าวนี้โดยทั่วไปไม่มีความสนใจที่จะเข้าไปมีอำนาจในทางการเมือง เหมือนการรวมกลุ่มในรูปแบบพรรคการเมือง
2. การรวมกลุ่มของพรรคการเมือง เป็นการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีอุดมการณ์ แนวคิด และผลประโยชน์ร่วมกัน มีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกันในการเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล หรือเข้าไปใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐ อันเป็นที่มาของอำนาจทางการเมือง ในอันที่จะบริหารประเทศ หรือนำแนวคิดของตนไปกำหนดนโยบายของรัฐ ไม่ว่าจะป็นทางเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง
3. กลุ่มผลักดันหรือกลุ่มอิทธิพล เป็นการรวมกลุ่มของผู้ที่มีความประสงค์ในการเรียกร้อง หรือผลักดันให้ผู้มีอำนาจทางการเมือง ดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือผลักดันนโยบายที่กลุ่มมีความประสงค์ แต่ไม่ได้มีความสนใจในการช่วงชิงอำนาจรัฐ หรือจะอยู่ในอำนาจการปกครอง แต่มุ่งเน้นผลักดันในเรื่องผลประโยชน์ของส่วนรวม หรือของสังคมเป็นหลัก มากกว่าการมุ่งเน้นผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่ม
นี่เป็นกลุ่มประชาชนที่เคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆ
คนที่มีอำนาจรัฐต้องแยกแยะให้ออก
ต้องมีความเข้าใจให้ชัดเจนในลักษณะของการรวมกลุ่มต่างๆที่เคลื่อนไหวในบ้านเมือง อย่าเหมารวมไปเหมือนๆกันหมด เพราะการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ดังกล่าว เป็น “แนวร่วม” สำคัญในการแก้ปัญหา จัดการกับปัญหาที่ต้องแก้ไข
ไม่ต้องอ่วมอยู่คนเดียวเช่นในขณะนี้
การเคลื่อนไหวของประชาชนในแต่ละรูปแบบดังกล่าวที่ยกมาให้เห็นข้างต้นนั้น ถ้าไม่หลงตัวเองไปกับอำนาจที่มีในมือขณะนี้ การรับรู้รับฟังและพิจารณาปฏิบัติให้ถูกต้อง หรือเป็นไปตามข้อเสนอ ข้อเรียกร้องของประชาชนในกลุ่มต่างๆดังกล่าว เท่ากับได้กำลังมาเสริมในการแก้ไขปัญหา หรือต่อสู้กับปัญหานั่นเอง
เสียงทักท้วง เสียงแนะนำที่ดีๆ หรือข้อเรียกร้องที่ดีสมเหตุสมผลของประชาชนกลุ่มต่างๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ย่ำแย่หลายเรื่องขณะนี้ ถ้าไม่หลงตัวลืมตัว รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการ ความสำเร็จจะยืนรออยู่ข้างหน้า
ความตื่นตัวของประชาชนกลุ่มต่างๆ ในบ้านเมืองขณะนี้ปรากฏให้เห็นมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุที่มาจากการทำงานกว่า 4 ปีแล้ว ทำไมบ้านเมืองไปไม่ถึงไหน
อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้
เหมือนถ้านุ่งกางเกงตูดขาด มองด้วยตัวเองไม่เห็น และมีผู้มาบอกมาเตือนให้รู้ตัวก่อนออกไปเดินนอกบ้าน การมีส่วนร่วมของคนที่มาบอกอย่างนี้เป็นประโยชน์ไม่ใช่หรือ
เพราะฉะนั้น การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาชาติ หรือปัญหาส่วนรวมของบ้านเมือง จึงมีความสำคัญอย่างมาก ใครก็ตามที่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารบ้านเมืองจึงต้องตระหนักให้มาก
ถ้าประชาชนมีส่วนร่วม ก็ไม่ต้องอ่วมอยู่คนเดียว
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี