การพัฒนาตัวเองตลอดเวลาของนักฟุตบอล เพื่อให้ทีมแข็งแกร่งสามารถต่อกรกับคู่แข่งได้ เช่นเดียวกับ นักสืบ หากหยุดเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางตามจับคนร้ายได้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะผู้จัดการทีม ได้ดึงมือปราบต่างๆ เข้ามาอยู่ในค่ายชื่อชุด ศปอส.ตร. ไม่ต้องเก่งระดับ พระกาฬ แค่ขยัน ทุ่มเท ตั้งใจทำงานสำคัญคือระบบ ทีมเวิร์ก พร้อมให้ทุกคนแสดงฝีมือที่เท่าเทียมกันออกมา
พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง หรือ รองเปียก ศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย นรต.รุ่น 51 อีกหนึ่งลูกทีมจอมขยันที่นอกจากอยู่ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วยังมีชื่อในชุด ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) และศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.)
รอง ผกก.วัย 43 ปี เล่าว่า ทำงานครั้งแรกอยู่ในนครบาลแทบจะตลอด จนไปเป็นนายเวร ผบช.ภ.5 ตนเคยอยู่ทั้งงานสอบสวน ป้องกันปราบปราม และจราจร เพราะอยากเรียนรู้ทุกหน้างาน และค้นหาตัวเองว่าชอบทำงานด้านไหน จึงมาค้นพบว่าจริงๆ แล้ว เราถนัดงาน สืบสวน รู้สึกทำแล้วมีความสุข เมื่อลงจากตำแหน่ง สว.ทล.6 กก.2 ก็เลือกที่จะลง สว.สส.บก.น.4 ต่อด้วย สว.สส.บก.น.6
จากนั้นเป็น รอง ผกก.สส.สน.บางกอกใหญ่ และมา สน.ห้วยขวาง ตนมองว่างานสืบโรงพักมีธรรมชาติของมันอยู่คือ จิปาถะ เยอะแยะไปหมดทุกเรื่อง ตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ซึ่งเลือกไม่ได้ ทุกอย่างที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน หากเกิดในพื้นที่รับผิดชอบต้องทำให้หมด ไม่ได้เลือกทำคดีใหญ่ๆ หรือสลับซับซ้อน ฉะนั้นเราต้องบริหารกำลังพลดีๆ ที่มีอยู่จำกัดกับปริมาณงานที่มาก
“ผมมีภารกิจเยอะมาก เมื่อมีเวลาว่างสิ่งแรกคือครอบครัว ผมคงทำเองไม่ไหว และถ้าจะให้ผมสามารถทำงานได้เยอะๆ คือสร้างองค์ความรู้ให้ทีมงาน และพัฒนาให้เขาขึ้นมามีความรู้เท่ากัน ถ้าเราหวงวิชาหรือผูกยึดกับบุคคลใด การทำงานของเราจะไม่กว้างขวาง ต้องทำคนน้อยให้เป็นคนมาก มี 10 คน ถ้าทำได้เท่ากันก็ทำได้ 10 งาน แต่ถ้าไปผูกกับ 1 คนแล้วอีก 9 คน แห่ตามไปก็จะทำได้ทีละงาน”
รอง ผกก.สส.ห้วยขวาง กล่าวว่า ตนมี สว.อยู่ 2 คนและกำลังพลประมาณ 30 คน ก็ได้ถ่ายทอดความรู้ ส่งเสริม และสนับสนุนให้เขาสามารถทำงานใหญ่ๆ หรือมีความซับซ้อนได้ ขณะนี้เขาพัฒนาศักยภาพการทำงานเรียกว่า เกือบจะทำหน้าที่ได้เท่ากับตน ไว้วางใจจนนึกภาพ สว.คือตัวเราเอง ดีกว่าเรามานั่งอมความรู้เอาไว้คนเดียว นักสืบยุคเก่าจะหวงวิชา ตอนนี้มันหมดยุคแล้ว เราต้องทำงานเป็นทีม
เมื่อมีการแข่งขันด้านงานสืบสวน สน.ห้วยขวาง แทบจะเป็นอันดับ 1 เสมอของ บช.น. รวมถึงการระดมหมายจับที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ตนไม่ได้ภูมิใจการเป็นที่ 1 และไม่ได้แปลว่าเก่งที่สุด ถ้าเป็นที่ 1 เพราะเราไปกระตุ้นผลักดัน วันหนึ่งเราจากไปเขาอาจจะทำไม่ได้ แต่เชื่อว่าหากตนย้ายไปที่อื่น ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ที่เคยร่วมงานกับตนเขาทำได้ และอยากจะเป็นที่ 1 เมื่อไหร่ก็ได้เพราะตัวเขาเอง
“ชีวิตราชการผมเหลืออีกหลายปี ต้องย้ายไปไม่รู้อีกกี่ที่ ถ้าสร้างองค์ความรู้ไปเรื่อยๆ ทุกที่ที่ จะมีทีมงานที่ทำได้อย่างนี้อีกไม่รู้กี่ทีม ผมภาคภูมิใจทำให้เพื่อนร่วมงาน ได้พัฒนาขีดความสามารถของตัวเอง”
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นตัวอย่างการบริหารงานสืบสวนที่ดี ตนพยายามเอาแนวทางการทำงานของท่าน มาปรับใช้กับตัวเองให้มากที่สุดเทียบแล้ว ยังไม่เห็นฝุ่นเลย อย่างน้อยตนก็มีแบบอย่างที่ดีให้ยึดเดินตาม ทั้งการบริหารคนและองค์กร ไม่มีการเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ท่านบอกว่าเป็นใครก็ช่าง ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ทำอย่างตรงไปตรงมา
ไม่มีเลือกสีเลือกข้าง
มือปราบคอลเซ็นเตอร์ กล่าวต่อว่า คดีไหนเป็นเรื้อรังในประเทศไทยสิบๆ ปี หรือเกิดขึ้นใหม่พร้อมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ใครทำไม่ได้ รองโจ๊ก ทำได้ ทำไมช่วงนี้จับอะไรต้องเป็นที่สนใจ คนอื่นอาจจะพยายามทำคนเดียวหรือเปล่าไม่รู้ แต่ของเราบูรณาการร่วมกันเกิดเป็นทีมงาน ขณะนี้ ศปอส.ตร. หรือศูนย์คอลเซ็นเตอร์ สถิติการรับแจ้งเป็น เลขศูนย์ หากโผล่ขึ้นมาอีกจะอยู่ประเทศไหนก็ตามไปจับ
ต่อไปรูปแบบอาชญากรรมจะไม่มี พรมแดน การทำงานในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องเข้าไปอยู่ในโลก ไซเบอร์ ผ่านเทคโนโลยี ทีมงานก็ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน จะเป็นนักสืบยุคเก่าเดินเตะชายกางเกง ตื่นสายบ่ายกินกาแฟ เย็นออกไปทำงานไม่ได้ เพราะแหล่งการหาข้อมูล และการเรียนรู้เปลี่ยนแปลงหมดแล้ว ถ้าไม่พัฒนาตัวเองวิวัฒนาการจะ Speed หนีคุณจนกลายเป็นนักสืบตกยุค
“ผมไม่ใช่คนเก่งเพราะไม่รู้ทุกอย่าง แต่ผมพัฒนาตัวเอง ตั้งใจที่จะเรียนรู้ และรับผิดชอบงาน มาคอลเซ็นเตอร์จากไม่รู้อะไรเลย จนพาทีมงานไปจับมาแล้ว 9 ครั้ง 8 ประเทศ ถ้าถามว่าผมเก่งหรือไม่ เอาผลงานที่ผมทำมาไปตัดสินละกันว่า ผมอยู่ตรงไหน” พ.ต.ท.เขมรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี