l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
7.เรื่องที่เขียนถึงลูกทั้งสอง มีทั้งเรื่องสุข ทุกข์ และเรื่อง เศร้า อันเป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ที่ต้องพานพบ แต่การมาเขียนเรื่องในอดีต เพื่อเป็นบทเรียนของชีวิตและประวัติศาสตร์ของนักต่อสู้ของประชาชนเราต้องก้าวข้าม “ความรู้สึกที่ไม่ดี การใช้อคติ ความแค้น มากำหนด” มีอนาคตของชีวิตที่จะก้าวเดินต่อไป @ บางคนที่มีอคติ ไม่ใช้การแสวงหาความจริง ด้วยความรู้ ความคิด สติปัญญา ก็คงจมอยู่ในความมืดมิดหากทำเฉพาะส่วนตัวของเขา ก็เป็นสิทธิอันชอบธรรม เพราะเป็นชีวิตของเขา ที่ต้องตัดสินด้วยตัวเองแต่มีไม่น้อย กลับใช้อคติความคิดความเชื่อของตน ไปยัดเยียดไปสอนให้นักศึกษาหรือชาวบ้านทำตาม ซึ่งเป็นเรื่องเศร้า ความไม่มีจรรยาบรรณ และความไม่รับผิดชอบ ของคนที่อ้าง “ประชาชน” ทุกลมหายใจยิ่งคนละดับผู้นำ ที่มีศักยภาพ มีอำนาจ เงินตรา ข้าราชการ นักวิชาการ สื่อมวลชน ยิ่งอันตรายมากลูก “อย่าไปชิงชังเขา แต่อย่าไปทำตามอย่างเขา” เพราะ “ชีวิตหนึ่งมีอิสระ ที่จะกำหนดชีวิตของตนเอง” แล้วในที่สุด “ความจริง ความยุติธรรม ก็จะตัดสิน การกระทำหรือกรรม ที่ใครก่อต้องได้รับผลนั้น
8.การแสวงหาสัจธรรม จากความเป็นจริง พิจารณารูปธรรม อย่างเป็นรูปธรรม ตามความจริงของมันโดยใช้ความรู้ สติปัญญาความจริง และการสรุปบทเรียนทุกระยะของการทำงานและดำรงอยู่ของชีวิตด้วยการเอาจริง เพราะ : อุปสรรคและความยาก
ลำบากใดๆ ในโลกนี้ ยกธงขาวยอมแพ้ “คนเอาจริง” โดยใช้วิริยะอุตสาหะ บากบั่นมานะ อดทน : จักนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว ครอบครัวและการงาน การทำผิดทำพลาด เป็นธรรมดาของคนเรา แต่การสรุปประเมินผล แก้ไขข้อบกพร่อง เป็นเรื่องของคนดีจริง @ คนดีต่างจากคนชั่ว คือ คนดี คือ คนที่คิดดีทำดี และเมื่อมีโอกาสทำชั่ว จักไม่ทำ เป็นอันขาด
9.การศึกษาทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ก่อนที่จะลงมือกระทำ เป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง ซึ่งดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ในชีวิตจริงของคนส่วนใหญ่ ที่ประสบปัญหาในชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และการงาน เพราะ “ไม่ทำตาม” สาเหตุ เพราะ “ไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้” และคิดเอาง่ายๆ ว่า “ทำได้ ไม่มีปัญหา” เช่น “ความรักในครอบครัว” ต้องเข้าใจว่า “ความรัก จักต้องร่วมกันก่อสร้างพัฒนาขึ้น ให้ดีและยั่งยืนเพราะ ก่อนแต่ง หรือก่อนมีลูก เรายังขาดประสบการณ์ ทำให้มีความคิดและการทำ ที่บกพร่องผิดพลาด ฉะนั้นการพยายามปรับตัวเข้าหากัน ลดทิฐิมานะส่วนตัว เสริมสร้างความรักความเข้าใจกัน เป็นสิ่งที่ควรทำ @ หลักการสำคัญ ต้องคิดถึงอนาคตที่ดี งดงาม ทั้งระหว่างเรา “ภรรยาสามี” และ “ลูกของเรา” มีความสุข ก็สุขด้วยกัน มีทุกข์ ก็ทุกข์ร่วมกัน, เราต้องสร้างบรรยากาศที่ก่อสุข มิใช่สร้างทุกข์ควรต้องเคารพรัก “พ่อแม่ และญาติของกันและกัน” เพราะเป็นตัวเสริมเพิ่มพูนความรักระหว่างกัน
10.พี่น้องต้องรักกัน รักครอบครัว ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ และต้องรักและเคารพพ่อแม่ เพราะนับวัน “สังคมมีแนวโน้ม เป็นไปเพื่อตนเอง” มีแต่พี่น้อง ร่วมท้องร่วมสายโลหิต ที่จะรักกันจริง
11.สำหรับพ่อแม่ ในบั้นปลายของชีวิต คงต้องพึ่งและอาศัยลูกทั้งสอง ในยามวัยชราที่พึ่งตนเองไม่ได้เพื่อรักษาหลักการ “การพึ่งตนเอง คือ ความเป็นอิสระเสรีของชีวิต” จึงต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงและเข้มแข็ง ส่วน “ใจ” น่าจะผ่านได้ เพราะ “ใจนี้มีแต่ให้” มาตลอดเพื่อให้ “วันเวลาที่ไม่อิสระ” ทำอะไรเองไม่ได้ ต้องพึ่งลูก ให้น้อยที่สุด สมมุติหาก “พ่อต้องจากไป ในวัยก่อน 80 ปี ไม่ว่า ด้วยสุขภาพ หรืออุบัติเหตุ คงไม่ต้องพึ่งพาลูก แต่หากเกิน 80 ปี จนถึงเวลาจากไป นั่นแหละ คงจะต้องพึ่งลูก
หลักการช่วยดูแลพ่อแม่
1) ลูกควรทำในเรื่องที่ถูกที่ควร อย่าตามใจพ่อแม่ในสิ่งที่ผิด โดยเฉพาะ เรื่องผิดใหญ่
2) การทำให้ตัวเอง พึ่งตนเองและเป็นที่พึ่งของลูก (หลาน) เป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้ พ่อแม่ไม่กังวล
3) การดูแล ต้องทำทั้งกายและใจ ทำด้วยรักเคารพ ด้วยความเต็มใจ เพราะทำให้ลูกได้ชื่อว่า “กตัญญู”
4) หากอาการหนักมาก รักษาไม่ได้แล้ว อยู่ไปมีแต่ทรมาน ก็ควรจะ “หยุดการรักษา ให้จากไปอย่างสงบ”
5) การทำศพ ไม่ต้องจัดใหญ่หลายวัน หากจัดวันเดียวได้ ก็จะดี ไม่สิ้นเปลืองและไม่รบกวนผู้ยังอยู่เก็บอัฐิของพ่อใส่โกศ ให้ ลูกเก็บไว้ เคารพ อันเป็นเครื่องหมายความเป็นลูกที่ดีและเป็นคนดี
6) พินัยกรรม : ส่วนใหญ่ พ่อได้จัดการไปให้แล้ว โดยหลัก คือ ความเท่าเทียมกัน ในฐานะลูกของพ่อแม่และหากส่วนที่มีอยู่ หากพ่อจากไปก่อนแม่ ก็ให้แบ่งเป็น 4 ส่วน : 3 ส่วนให้ทุกคน อีก 1 ส่วน จัดงานศพและตั้งเป็นกองทุนให้คนเสียสละที่ขาดแคลน เป็นการต่อเนื่องจากที่พ่อทำมา
7) ส่วนที่เป็นมรดกจาก คุณปู่คุณย่า : พ่อ แบ่งเป็น 2 ส่วน ให้น้องที่ขาด และตั้งเป็นกองทุนช่วยพี่น้องฯ
8) ควรติดต่อสัมพันธ์กับ ญาติทั้งทางพ่อและแม่ เพราะเป็นการสร้างสายใยรักแห่งวงศ์ตระกูลญาติมิตร
9) การคิดดี ทำดี ด้วยความรู้สติปัญญา ของลูก ครอบครัว และหลาน ทำให้พ่อแม่มีความสุข สบายใจ
10) การทำดี ไม่ทำชั่ว ตามสิ่งที่พ่อแม่ได้ทำมา และหากมีโอกาส ช่วยเหลือสังคมและบ้านเมือง อย่ารีรอ
12. เรื่องราวที่พ่อ ได้ทำมา ทั้งต่อตนเอง พี่น้อง บรรพบุรุษ ครอบครัว เพื่อนมิตร ชุมชน และบ้านเมืองเป็นสิ่งที่พ่อได้ทำ
ด้วยการศึกษาเรียนรู้ ความคิด สติปัญญา ส่วนใหญ่ เป็นเรื่องที่ดีงาม ถูกต้องชอบธรรมเป็นสิ่งที่พ่อทำและหวังผล แห่งความดีที่ทำ จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนรุ่นหลัง และที่สำคัญ เพื่อลูกหลานเพราะ “เรื่องการคิดดีทำดี” มันตกทอดถึงลูกหลานได้จริง ตามสุภาษิตไทย ที่ว่า “ลูกไม้ตกไม่ไกลต้น” ปู่ย่าตายายที่ทำสิ่งที่ดีงามไว้ ก็ตกมาถึงพ่อ และเป็นแบบอย่างที่ทำให้พ่อคิดดีทำดีตาม
1. เริ่มพัฒนาไปอย่างช้าๆ “slow but sure” จากกิจกรรมเพื่อส่วนรวม แล้วพัฒนาไปสู่เรื่องของบ้านเมือง
2. การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย “เกิดและพัฒนาขึ้นในจิตใจ” จากการศึกษาเรียนรู้ และการปฏิบัติในชีวิตจริง
3. การสรุปบทเรียน ข้อดีข้ออ่อน ทำให้เกิดความเข้าใจและพัฒนา ไปถึงการปรับปรุงความคิดและจิตวิญญาณ
4. ยึดหลักง่ายๆ : การเอาจริง มีใจจดจ่อ ด้วยความเพียร ให้บรรลุเป้าหมาย ด้วยวิธีการที่ดี สุจริต ชอบธรรม
5. ทำเพื่อผู้อื่น สังคมและบ้านเมือง ให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เป็นความสุขอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มทำ
6. เริ่มต้นก่อน สู้ฟันฝ่าอุปสรรคความยากลำบาก ร่วมกับเพื่อนมิตร จนบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
7. หลังจากเสร็จงานในแต่ละครั้ง เราก็กลับไปจุดเดิมของตน ไม่หวังผลตอบแทนอำนาจวาสนา ใดๆ
8. การทำสิ่งที่ดี เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติธรรม เป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ที่ทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ
9. การให้แก่คนที่ทุกข์ (ขาด) โดยเฉพาะ “ความคิดที่ดีถูกต้อง เป็นบุญใหญ่ เฉกเช่น” พระราชาให้เบ็ด
10. เมื่อคนเราตายไป ก็เป็นการจบชีวิต ไปสู่ธรรมชาติ เหลือแต่คุณงามความดี ให้ลูกหลาน ภาคภูมิใจ
ลูกทั้งสอง คือ ความรักความภาคภูมิใจของพ่อแม่ จงรักกันและทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเองครอบครัวและบ้านเมือง และนี่ คือ “ความรักความสุขอย่างพอเพียงของพ่อด้วย” จาก พ่อจิ๊บ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี