หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn “เสือไท” ยกมาให้ดูอีกทีว่าคำสั่งคสช.คลาดล็อกพรรคการเมือง นั้น ที่บรรดานักการเมืองเขาร้องเจี๊ยวจ๊าวว่าห้ามหาเสียงทางโซเชียล ขณะที่กกต.เองก็ยังงงๆ ไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไร มีข้อความดังต่อไปนี้ “พรรคการเมืองจะดำเนินการประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารกับผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ ภายใพรรคการเมืองและสมาชิกของพรรคการเมืองของตน โดยวิธีผ่านทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่ออีเล็กทรอนิกส์ก็ได้ แต่การดำเนินการนั้นต้องไม่มีลักษณะเป็นการหาเสียง ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาจกำหนดลักษณะต้องห้ามของการประชาสัมพันธ์หรือการติดต่อสื่อสารที่จะมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือสั่งให้มีการระงับการดำเนินการดังกล่าวก็ได้...”นี่คือคำสั่งคสช.ที่ออกมา “เสือไท” จะคัดมาทีละประโยค เริ่มประเด็นแรกคือ ให้พรรคการเมืองใช้สื่อโซเชียลติดต่อสมาชิกพรรคได้ ประการที่ 2 คือ เฉพาะการหาสมาชิกติดต่อสื่อสารเท่านั้น แต่ห้ามใช้สื่อโซเชียลในการหาเสียง ประการที่สามกกต.กับคสช.จะออกข้อกำหนดทีหลังว่าจะมีขอบเขตในการใช้สื่อโซเชียลอย่างไร ประการสุดท้ายคือหากเห็นการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายใช้สื่อโซเชียลหาเสียงและจะกระทบกับความมั่นคง คสช.มีอำนาจสั่งให้ยกเลิกการกระทำนั้นได้...
nn “เสือไท” มองโลกในแง่ดีว่า ในระยะเริ่มต้น คสช.ยังไม่ให้ใช้สื่อโซเชียล เพราะคำนึงถึงว่า สื่อโซเชียล มันไปเร็ว หากใช้สื่อโซเชียลในการปลุกระดม จะทำให้บ้านเมืองกลับมาวุ่นวายอีกครั้งหนึ่ง จึงห้ามไว้ แต่ในทางกลับกัน ต้องยอมรับว่าสื่อโซเชียลทุกวันนี้มีอิทธิพลอย่างมาก ในต่างประเทศก็ใช้สื่อโซเชียลในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง อาทิ ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค เป็นต้น อย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ใช้ทวิตเตอร์สื่อสารกับประชาชนตลอดเวลาแทนการให้สัมภาษณ์ นั้นจึงมองได้ว่า คสช.มาห้ามใช้สื่อโซเชียล มันจะเป็นการพัฒนาที่ถอยหลังหรือไม่ อย่าลืมว่า รัฐบาล-คสช. ประกาศมอตโต้ ไทยแลนด์ 4.0 นั้นหมายความว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ แต่หากในทางปฏิบัติกลับสวนทางกัน เช่นนี้คนก็จะโจมตีรัฐบาล-คสช.ได้ว่า นโยบายไทยแลนด์4.0 มันแค่นโยบายด้านการตลาดเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติไม่มีอยู่จริง มันจะทำให้รัฐบาลเสียหน้า...
nn บอกตรงๆ ว่า ยุคนี้มันไม่มีทางเลี่ยง ยังไงก็ต้องให้พรรคการเมืองและนักการเมือง เขาหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลได้ แต่ทำอย่างไรจะให้อยู่ในกรอบที่ไม่ไปละเมิดกฎหมายอื่น หรือหากว่ามีการละเมิด กฎหมายอื่นๆ อาทิ กฎหมายคอมพิวเตอร์ ก็มีบังคับใช้อยู่แล้ว หากใครทำผิดพ.ร.บ.คอมพ์ เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินคดีได้เลยจึงไม่เห็นว่าจะต้องไปกังวลอะไร เว้นอยู่อย่างเดียวว่ารัฐบาลเองตามไม่ทันกลัวจะเสียเปรียบ...
nnพูดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบในการใช้สื่อโซเชียลหาเสียง ต้องยอมรับว่า พรรคเพื่อไทย เขาจะได้เปรียบกว่าทุกพรรค เพราะว่าเป็นพรรคแรกๆ ที่เริ่มใช้สื่อโซเชียลในทางการเมือง และแน่นอนว่า พรรคเพื่อไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร มีสายสัมพันธ์อันดีกับ ค่ายมือถือ เอไอเอส (AIS) ดังนั้นหากจะมองว่าการใช้สื่อโซเชียล พรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบ ก็ไม่ผิดนัก ยิ่ง ทักษิณ ที่อยู่ต่างประเทศ ก็ใช้สื่อโซเชียลเป็นเครื่องมือในการโจมตีรัฐบาล-คสช.อยู่บ่อยๆ แต่ถ้าว่ากันตามจริง รัฐบาลมีอำนาจก็ย่อมจะใช้บริการเจ้าไหนก็ได้ โดยเฉพาะหากเพื่อไทย ใช้ เอไอเอส เปิดศึกหาเสียง รัฐบาล-คสช.ที่สนิทกับ ซีพี ก็น่าจะใช้ ทรู (TRUE) บริษัทในเครือของซีพีได้ เพราะ ศุภชัย เจียรวนนท์ ก็นั่งอยู่ในกรรมการปฏิรูปของรัฐบาลหลายชุด การจะอาศัยใบบุญกันก็ไม่น่าเกลียด ดีเสียอีกจะได้ยื่นหมูยื่นแมว แลกกับรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน ที่ว่ากันว่า รัฐบาล นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ยกให้ ซีพี ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าไม่มีผิดไปจากนี้ จบข่าว...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี