นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม
ครม.สัญจร ที่ชุมพร ระนอง เมื่อปลายเดือนที่แล้วพี่น้องชาวปักษ์ใต้ถามผมว่า เขตระเบียบเศรษฐกิจภาคใต้ ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดไฟเขียวให้แล้ว จะแล้วเสร็จเมื่อไหร่
ผมบอกว่าใจเย็นๆ เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังลุย ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) หรือ EEC เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยมติคณะรัฐมนตรีในพ.ศ. 2558 ตั้งอยู่บริเวณในชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของอ่าวไทยซึ่งถือเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในระเบียงเศรษฐกิจนี้ มีมูลค่ามหาศาล สามารถเชื่อมโยงอุตสาหกรรมไปทั่วโลก
งานนี้ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ถือเป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน สร้างโอกาสให้ประเทศและสร้างโอกาสด้านต่างๆ ให้ประชาชน
งาน “แนวหน้า Forum #1 จับชีพจรเศรษฐกิจไทย” เมื่อค่ำวันที่ 23 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ณ รร.สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ร่วมบรรยายหัวข้อ “เศรษฐกิจไทย 4.0 ก้าวทัน ก้าวไกล ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยเน้นไปที่ EEC
ยืนยันชัดว่า วันนี้โอกาสประเทศไทยมาถึงแล้ว ในการ 1.สร้างฐานความเจริญใหม่ และฐานเดิมที่ดีอยู่แล้วต้องยกระดับให้ดีขึ้น ภาคการผลิตต้องเพิ่มมูลค่าได้ 2.เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ของภาคอุตสาหกรรมไทย และ 3.ต้องกระจายการเติบโต ลดการกระจุกตัวในบางจุดซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานานของสังคมไทย ฯลฯ
EEC ที่รัฐบาลมุ่งจะใช้เป็นหัวรถจักรนำขบวนปฏิรูป ที่จะสร้างงาน สร้างเงิน สร้างคนและบรรยากาศดีๆ ให้ประเทศไทย เพราะมีอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นมากมาย ระบบคมนาคมทางน้ำ ทางบก ทางอากาศทันสมัย ที่อนาคตต้องกลายเป็น “เมืองอัจฉริยะ” (Smart City) “ผู้ประกอบการทั่วโลกจ่อคิวมาลงทุนในไทยมากมาย
เสร็จจาก EEC แล้วผมเชื่อว่าต้องลุยต่อเขตระเบียบเศรษฐกิจภาคใต้ บ้านผม
แต่ที่ไม่ต้องรอ คือ โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและบัตรคนจน ที่มี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการดำเนินโครงการ เพื่อช่วยเหลือประชาชน ลดภาระค่าครองชีพ สร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ที่ขณะนี้มีร้านธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศกว่า 45 หมื่นร้านเข้าไปแล้ว เพื่อให้บริการซื้อขายสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์จากจำนวนผู้ซื้อที่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ซื้อทั่วไปที่เห็นว่าราคาสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ จะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ ถือเป็นการกระจายรายได้และสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านค้ารายย่อยอีกทางหนึ่ง
ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งการซื้อสินค้าจากร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้ง เครื่องรูดบัตร EDC และร้านค้ารายย่อยที่รับชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นทางมือถือ ซึ่งจะกระจายตัวอย่างทั่วถึงทุกชุมชน
แม้ผู้ที่ไม่ได้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็สามารถเข้าไปจับจ่ายใช้สอยได้มีสินค้าเพื่อการดำรงชีพมากมาย
นอกจากนั้น ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าชุมชนในท้องถิ่นพัฒนาร้านโชห่วย ให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ได้เปิดรับสมัครใหม่ได้มากขึ้นด้วย
ครับทั้ง EEC ของกระทรวงอุตสาหกรรม โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและบัตรคนจน ของกระทรวงพาณิชย์ และอีกหลายๆ โครงการในส่วนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงเกษตรฯ ก็ล้วนแต่ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม น่าชื่นชมครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี