ไทยจะมีรายได้ประชาชาติรวมถึง 17,592,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการของปีงบประมาณใหม่ 2562 มีรายงานจากองค์การท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งเป็นองค์การสาขาขององค์การสหประชาชาติในปี 2561 ระบุว่าไทยเป็นประเทศมีรายได้จากการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากถึงปีละ 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.625 ล้านล้านบาท ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน 2 ชาติมหาอำนาจ ปี 2561 คาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่า 36 ล้าน คนเฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านคน
การคำนวณรายได้ประชาชาติของไทยนั้นปัจจุบันไทยมีรายได้ก้อนใหญ่จาก 3 สาขา คือ การส่งออกปีละ 240,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับ 7.8 ล้านล้านบาท รองลงมาได้แก่งบประมาณภาครัฐปีละ 3 ล้านล้านบาทตามด้วยงบประมาณของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 56 แห่ง ปีละ 2 ล้านล้านบาท ในขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวนั้นอยู่ในระดับ 4 นั่นคือประมาณ 1.625 ล้านล้านบาท เป็นที่คาดหมายว่าอีกไม่นานอาจจะ 2 ปีข้างหน้ารายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะสูงถึง 3 ล้านล้านบาท
กิจการท่องเที่ยวของไทยอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็นรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ได้รับงบประมาณปีละประมาณ 7,200 ล้านบาท มีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ เป็นปลัดกระทรวง ประกอบด้วย 3 หน่วยงานด้านท่องเที่ยว ได้แก่ คือ 1.กรมการท่องเที่ยวมีนายอนันต์ วงศ์เบ็ญจรัตน์ เป็นอธิบดี, 2. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีนายยุทธศักดิ์ สุภสร เป็นผู้ว่าการ และ 3.องค์การมหาชน คือ อพท.ที่มีชื่อเต็มว่าองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมี นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการ อพท.
ในขณะนี้ไทยมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วประเทศในทุกๆ ภาค กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ชูมนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวเปิด 3 จังหวัดในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ได้แก่ อุดรธานี บึงกาฬ หนองคาย จัดเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยตำนานพญานาค “นาคี รูท” ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในภาคอีสาน ชูศักยภาพเมืองที่มีความพร้อมรอบด้าน
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.อุดรธานี หัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เผยว่าจังหวัดในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 หรือ กลุ่มจังหวัดสบายดี ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ เป็นกลุ่มจังหวัดที่น่าจับตามอง และมีความน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการและกลุ่มนักลงทุน ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มจังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านการค้าแล้ว ยังเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ มีทัศนียภาพที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์ แม้ในบางจังหวัดซึ่งเป็นจังหวัดเล็ก แต่กลับพบว่า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืมโดยได้มีการจัดกิจกรรมสื่อสัญจร “ท่องเที่ยวตามรอยตำนานพญานาค นาคี รูท” 3 จังหวัดแห่งอารยธรรม และความเชื่อ ความศรัทธา อุดรธานี บึงกาฬ และหนองคาย ซึ่งนอกจากจะเผยให้เห็นทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ งดงามแล้ว ยังเป็นอีกเส้นทางตัวเลือกหนึ่งสำหรับการจัดทริปท่องเที่ยว เพื่อสักการะ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเส้นทางแห่งความเชื่อ และความศรัทธา
ความน่าสนใจ และความเชื่อมโยงด้านความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ในเส้นทาง “นาคี รูท” ได้แก่ 3 จังหวัด หลักๆ คือ อุดรธานี จุดเริ่มต้นแห่งเส้นทางนาคี มีจุดสำคัญ คือ “คำชะโนด” เกาะลอยน้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 20 กว่าไร่ มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ต้นชะโนด” ขึ้นเต็มไปหมดเมื่อเข้าไปที่ คำชะโนด อากาศจะเย็นสบายเหมือนติดแอร์ ที่นี่ พอถึงหน้าฝน รอบๆ เกาะ น้ำจะท่วมทุกปี แต่ที่ คำชะโนด น้ำจะไม่ท่วม ดูเหมือนว่า เกาะนี้จะลอยขึ้นตามน้ำ คือ ถ้าหากน้ำขึ้นก็ขึ้นตาม น้ำลงก็ลงตาม น่าประหลาดมากๆ น้ำจะเอ่อล้นมาจาก “แม่น้ำสงคราม” ซึ่ง แม่น้ำสงคราม จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ คำชะโนด
ส่วนบึงกาฬนั้นได้แก่ตามรอยเส้นทางพญานาคที่ “บึงโขงหลง”ตามตำนานปู่อือลือที่ข้องเกี่ยวกับบึงโขงหลงนั้น เชื่อว่า เกิดจากการล่มเมืองของพญานาค ซึ่งเกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย และได้กลายมาเป็น “บึงโขงหลง” นอกจากนี้ จ.บึงกาฬ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นอันซีน ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมอีกหลายจุด
ด้านหนองคายก็การนำเที่ยวคือการตามรอยนาคีที่หนองคาย ชิ้นแรก คือ หลวงพ่อพระใสวัดโพธิ์ชัยตำนานพระพุทธรูปหนึ่งเดียวที่พญานาคได้มาร่วมสร้างหลวงพ่อพระใสประดิษฐานอยู่ ณ วัดโพธิ์ชัย ตั้งอยู่ในเขต อ.เมือง จ.หนองคาย สระมุจลินท์ หรือสระพญานาคสระน้ำ ที่มีตำนานอันเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอาณาจักรล้านช้างตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย ภายใน “สระมุจลินทร์”
สิ่งสำคัญอีกแหล่งคือพระธาตุกลางน้ำ หรือ พระธาตุหล้าหนองพระธาตุกลางน้ำ ตั้งอยู่กลางแม่น้ำโขง เขตเทศบาลหนองคาย โดยตำนานกล่าวถึง การอัญเชิญพระธาตุของพญานาคเมื่อกว่า 200 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์องค์พระธาตุพังทลายลงกลางแม่น้ำโขง ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวถือเป็นการเติมเงินในกระเป๋าชาวบ้าน โกยเงินเข้าประเทศให้ได้ตามเป้าหมายปีหน้า 2562 เท่ากับ 5–6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.95 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี