เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 3 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานพระอาการทั่วไปหลังผ่าตัดว่า รู้พระองค์ดี หายพระทัยได้ดี ยังคงมีพระปรอท(ไข้)บางช่วงเวลา การเต้นของพระหทัยลดลงใกล้เคียงปรกติ การตรวจพระหทัยด้วยคลื่นไฟฟ้าเป็นระยะติดต่อกัน ไม่ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแปลง ยังมีพระอาการเจ็บบริเวณแผลที่ส่องกล้องตัดถุงพระปิตตะ (ถุงน้ำดี) คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด และยังคงถวายน้ำเกลือ พระโอสถปฏิชีวนะ กับสารอาหารทางหลอดพระโลหิตต่อไป
ผลการตรวจทางพยาธิวิทยาของพระปิตตะ(ถุงน้ำดี)ที่ตัดออกมาแล้วพบว่ามีการอักเสบ และไม่พบความผิดปรกติของเซลล์ในผนังของพระปิตตะ(ถุงน้ำดี)จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
ส่วนบรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราชนั้น ตลอดช่วงเช้ามีประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงคณะบุคคลจากภาคส่วนต่างๆ เดินทางมาถวายพระพร ให้มีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
อาทิ คณะของนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) น.ส.จิตภัสร์ กฤษดากร นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีนายพอล โรบิลลิอาร์ด ว่าที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย
ส่วนเจ้าชายคอลีฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลีฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอนาจักรบาเรนห์ โปรดเกล้าฯให้ผู้แทนพระองค์เชิญแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯถวาย รวมทั้งนายอับเดลอิลาห์ เอล ฮุสนี่ เอกอัครราชทูตโมร็อกโก นางคริสตี้ เคนนี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย นายหลี บุญค้ำ เอกอัครรัฐฑูต แห่ง ส.ป.ป..ลาว ประจำประเทศไทย
นายพอล โรบิลลิอาร์ด ว่าที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนพึ่งมารับตำแหน่ง ที่ประเทศไทย เมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้มาลงนามถวายพระพร ขอเป็นตัวแทนในนามรัฐบาลและประชาชนออสเตรเลีย ถวายพระพรขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีสุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น
ส่วนนางคริสตี้ เคนนี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย กล่าวว่า พอทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และพวกเราประชาชนชาวอเมริกัน และเจ้าหน้าที่สถานทูต ก็รู้สึกเป็นห่วงพระองค์ ก็หวังว่าพระองค์จะมีพระพลานามัยที่แข็งแรงขึ้น และทรงพระเกษมสำราญยิ่งขึ้น
ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวว่า ทุกคนต่างมาด้วยความตั้งใจ เพื่อมาถวายพระพร พระบาทสทเด็ตพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เพื่อเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยนานเท่านาน ซึ่งสมาชิกสนช.ทุกคนก็ตั้งใจเช่นนั้น
ด้านนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า จากอาการทรงพระประชวร เราทั้งหมดที่มาจากมูลนิธิชัยพัฒนา และ สำนักงาน กปร. มีความห่วงใยพระองค์ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระบารมีของพระบรมหากษัตริย์ดลบัลดาลขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากอาการพระประชวรเพื่ออยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนอีกนานเท่านา
น.ส.วรรณพร ไทรสังขคีรีอายุ 26 ปีชาวกะเหรี่ยง หนึ่งในราษฎรในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านทิพุเย จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่ได้มาถวายพระพรที่นี่ ชีวิตที่ผ่านมาได้ประโยชย์หลายอย่างจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งการได้ฝึกฝีมือ และการส่งเสริมอาชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานพานดอกไม้ แจกันดอกไม้ ที่เหล่าพสกนิกรนำมาทูลเกล้าฯให้เจ้าหน้าที่นำไปถวายยังวัดต่าง ๆทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อตั้งที่หน้าองค์พระประธานภายในโบสถ์
และเมื่อเวลา 15.00 น. ที่หอประชุมราชแพทยาลัย รพ.ศิริราช สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดพิชัยญาติการาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีคณะสงฆ์จากวัดในเขตกรุงเทพฯ ร่วมพิธีกว่า 700 รูป
ที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.09 น. พระครูสุเทพสิทธิคุณ หรือ หลวงพ่อพันเทวา อายุ 73 ปี เกจิชื่อดังของล้านนา เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมพระสงฆ์ 9 รูป ได้ทำพิธีนั่งเพ่งดวงอาทิตย์เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีประชาชนร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพร 1 ชม. ขอบารมีพระสุริยะเทพดลบันดาลให้ทรงหายจากพระอาการพระประชวรและทรงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย