22 ธ.ค.57 ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลินิก.นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า บรรยากาศที่โรงพยาบาลศิริราชในวันนี้ คึกคักไปด้วยประชาชนที่มารอต้อนรับนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ไปชนะเลิศในรายการอาเซียนมา และจากการที่ทุกคนทราบข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โทรศัพท์ไปแสดงความห่วงใย ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ที่ทีมชาติไทยลงแข่งขันกับมาเลเซียที่ผ่านมา
ซึ่งคณะแพทย์ได้กราบบังคมทูลเมื่อช่วงเช้าในวันที่มีการแข่งขันว่า จะมีการแข่งขันในเวลา 19.00 น.ท่านก็ทรงตั้งพระทัยที่จะทอดพระเนตรเป็นอย่างมาก หลังจากที่ทรงตื่นจากบรรทม ได้มีรับสั่งให้พยาบาลผู้ถวายงานเปิดทีวีเพื่อติดตามการถ่ายทอดสด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรทีมชาติไทยมาโดยตลอด ทั้งในนัดที่ทีมไทยแข่งกับมาเลเซียในประเทศไทย รวมถึงครั้งที่ทีมชาติไทยไปลงแข่งขันชิงแชมป์ที่มาเลเซีย พอในช่วงพักครึ่งที่ทีมชาติไทยตามมาเลเซียอยู่ 0 - 2 นั้น ท่านทรงห่วงใยทีมนักฟุตบอลไทย จึงมีรับสั่งให้ตามรองราชเลขาธิการมาเฝ้า โดยมีพระราชประสงค์ให้โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการทีมชาติไทยที่มาเลเซีย ว่าเราดูอยู่ และขอส่งกำลังใจไปให้ เป็นสิ่งที่แสดงถึงความห่วงใยของพระองค์อย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทำให้ทีมชาติไทยของเราคว้าชัยชนะมาได้ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยมีความสุขมากในปีใหม่นี้ เพราะเราได้แชมป์ในรอบ 12 ปี
ศ.คลินิก.นพ.อุดม กล่าวต่อว่า ตนได้ชมคลิปที่มีการเผยแพรกณีที่ผู้จัดการทีมชาติไทยได้นำถ้วยรางวัลแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ทูลเกล้าฯ ถวาย หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมร้องเพลงสดุดีมหาราชา โดยตนจะตัดคลิปดังกล่าวนี้ขึ้นไปทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อฉายให้พระองค์ท่านทรงทอดพระเนตร
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ทาง นายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมชาติไทย ก็แจ้งตนว่า อยากจะนำถ้วยรางวัลดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนจึงขอให้ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำเรื่องกราบบังคมทูลฯ ผ่านทางราชเลขาธิการฯ เพื่อขอพระราชทานเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายถ้วยรางวัลดังกล่าว เมื่อทำเรื่องกราบบังคมทูลฯ แล้ว ก็รอว่าพระองค์ท่านจะทรงโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ เมื่อไหร่
"เมื่อทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้ พระองค์ก็ทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม) ถ้าเป็นทีมชาติไทยแข่งท่านสนพระทัยและท่านก็เชียร์" ศ.คลินิก.นพ.อุดม กล่าวและว่า สำหรับพระอาการประชวรของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น ขณะนี้ก็ดีเหมือนเดิม แต่พระกำลังยังไม่ดีแต่ ก็ค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลานานก็ต้องเข้าใจ