กว่า 7 เดือนที่ “ทำเนียบรัฐบาล” ฐานบัญชาการบริหารราชการแผ่นดินของผู้นำสูงสุด ถูกปล่อย “ร้าง” ไร้ข้าราชการ บุคลากร และนักการเมือง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากภาวะจำนนจากการชุมนุมปิดล้อมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขั้วอำนาจเก่า
พลันที่ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” หรือ คสช.เข้ายึดยึดอำนาจ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแทบทุกยุคทุกสมัย ที่หากการเปลี่ยนผ่านอำนาจบริหารประเทศจากมือหนึ่งสู่มือหนึ่ง กลุ่มอำนาจใหม่ คือ ผู้ถือสิทธิ์ในการจัดการ รื้อถอน สะสาง หรือสังคายนาอะไรก็ตามที่กลุ่มอำนาจเก่าเคยมี และเที่ยวนี้ คสช.ก็มีการจัดระเบียบใหม่กันหลายจุด ไม่เว้นแม้แต่.....
“ทำเนียบรัฐบาล”!!!
งานนี้ “หม่อมเหลน” ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่ง คสช. ในฐานะ “พ่อบ้านทำเนียบ” ได้จัดให้มีการทำบุญทำเนียบครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปจากวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
จากนั้นวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา “พ่อบ้านทำเนียบ” ได้จัดพิธีบวงสรวงใหญ่อีกครั้ง โดยมีพิธีสักการะบูชาพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้เชิญพระราชครูวามเทพมุนี(พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ) ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นผู้ประกอบพิธี ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยวันนั้นเกิดปรากฏการณ์ “อาทิตย์ทรงกลด” บนท้องฟ้าเหนือตึกไทยคู่ฟ้า ที่ต่างลือไปต่างๆนาๆว่าจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น
ข้างต้นเป็นพิธีกรรมทางศาสนา ที่จะว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะมีเกิดขึ้น มีให้เห็นบ่อยครั้ง ประมาณว่าเพื่อเป็นสิริมงคล หรืออาจจะเพื่อล้างซวย
แต่ที่ “ฮือฮา” ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คือ คสช.เตรียมบูรณะ ปรับปรุงภูมิทัศน์อาคารสถานที่ต่างๆในทำเนียบรัฐบาล ภายใต้งบประมาณเบื้องต้น 300 ล้านบาท จนกลายเป็นคำถามว่าเงินจำนวนดังกล่าวซึ่งดูมากโข จะถูกนำไปใช้เพื่อการณ์ใดบ้าง…..
ว่ากันถึงงบประมาณ 300 ล้านบาทนั้น จะถูกนำไปใช้แปลงโฉมทำเนียบรัฐบาล “ยุคใหม่” ดังนี้.....“ตึกไทยคู่ฟ้า” ซึ่งเป็นที่ตั้งห้องทำงานนายกรัฐมนตรี จะมีการปรับเปลี่ยนในหลายส่วน ทั้งผ้าบุโซฟาและเก้าอี้ภายในห้องรับรองต่างๆ ทั้งห้องสีงาช้าง ห้องเขียว และห้องม่วง เพื่อให้สีของที่นั่งเป็นไปในโทนเดียวกัน
รวมถึง “เครื่องสุขภัณฑ์” ภายในห้องน้ำทั้งหมด โดยให้นำ “โถปัสสาวะชาย” กลับมาติดตั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกถอดออกไปในสมัยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ยังมีอาคารอื่นๆที่ต้องดำเนินการบูรณะ ปรับปรุง ตกแต่งอีกเช่นกัน อาทิ ตึกสันติไมตรี ตึกบัญชาการ 1 และ 2 รวมถึง “ตึกนารีสโมสร” ที่จะเปลี่ยนจากที่ใช้เป็นศูนย์แถลงข่าว มาเป็นห้องรับรองของรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในอนาคต
สำหรับการดำเนินการครั้งนี้อยู่ในการควบคุมของกรมศิลปากร กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงตัวแทน คสช.ที่ระบุถึงเหตุผลในการปรับปรุงอาคารสถานที่ เพื่อการจัดระเบียบและวางผังการใช้งาน ทั้งห้องทำงาน ห้องประชุม ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา มีการปรับปรุงดัดแปลงห้องต่างๆแบบ “มั่วไปหมด” จนสิ้นเปลืองงบประมาณภาครัฐไปจำนวนมาก ขณะที่การทำงานครั้งนี้มีการยืนยัน รับรองว่า “ไม่ฟุ่มเฟือย” แน่นอน
“ทำเนียบรัฐบาลไม่ได้มีการปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีงบประมาณในการดำเนินการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่อยู่แล้ว จะปรับทุกจุดทั้งตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกบัญชาการ 1 และ 2 ตึกนารีสโมสร รวมไปถึงบ้านพิษณุโลก และบ้านมนังคสิลา โดยยืนยันว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง ส่วนสาเหตุที่ คสช.เข้ามาปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล ถือว่าเป็นหน้าตาของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย เพราะใช้หน่วยงานราชการในการดำเนินการทั้งหมด” พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. ยืนยัน
ตามกฏของความไม่จีรัง เป็นธรรมดาเมื่อเก่าไปใหม่มา หากย้อนรอยไปหลายรัฐบาลการปรับเสริมเติมแต่งทำเนียบรัฐบาลล้วนมีมาแทบทุกสมัย โดยยุค พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 1(2544-2548) ก็ได้มีทั้งการย้ายศาลพระภูมิ จากหน้าตึกไทยคู่ฟ้าไปอยู่ด้านซ้ายของตึกไทย
“ศาลพระภูมิ” มาถูกย้ายอีกครั้งในยุคของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยย้ายจากด้านซ้ายของตึกมาอยู่ที่ด้านขวาของตึกแทน เช่นเดียวกับยุคของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็มีการปรับฮวงจุ้ยในหลายจุดเช่นกัน
ส่วนการปรับปรุง แต่งโฉมทำเนียบรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ จะมีการขยับ สับเปลี่ยน โยกย้ายสิ่งใด เพื่อฮวงจุ้ยหรือไม่ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์จุดต่างๆภายในทำเนียบรัฐบาลของผู้มีอำนาจในแต่ละยุค หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีเรื่องของโหราศาสตร์เข้ามาข้องเกี่ยว ซึ่งก็เป็นไปเพื่อประคองอำนาจของพวกพ้องคณะตนไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามแย่งชิง ซึ่งผลของปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยไม่ว่าจะยุคสมัยรัฐบาลใด กาลเวลาที่ผ่านไปจะเป็นคำตอบให้สังคมรับรู้ว่า.....
ความถาวรจะไม่มีจริง หากอำนาจที่มีไม่ถูกใช้ไปเพื่อประเทศชาติและประโยชน์ส่วนรวม!!!
สิทธิชน กลิ่นหอมอ่อน
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี