ตัวแทน WWF–ผู้เลี้ยงสัตว์แปลกและผู้เกี่ยวข้อง ถ่ายภาพร่วมกัน (22 ก.ค. 2557)
ประเทศไทยตลอดจนเพื่อนบ้านโดยรอบ ทั้งพม่า ลาวและกัมพูชา ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ไม่กี่แห่งของโลกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพค่อนข้างสูง ล่าสุดกับรายงานของ กองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund-WWF) เมื่อเดือน มิ.ย. 2557 ระบุว่าพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ๆ ในพื้นที่ดังกล่าวกว่าสามร้อยชนิด ถึงกระนั้น..ดินแดนแถบนี้ก็ยังเป็นจุดเฝ้าระวัง “ธุรกิจค้าสัตว์ป่า” เห็นได้จากข่าวการจับกุมผู้ลักลอบค้าและขนส่งสัตว์ผิดกฏหมายได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อพูดถึงพื้นที่เฝ้าระวังในประเทศไทย เชื่อว่าคงหนีไม่พ้น “จตุจักร” ตลาดสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่กลางกรุงเทพมหานคร ที่มีเสียงร่ำลือถึงการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฏหมายมานับสิบปี ชนิดที่ว่ากันว่า “หาให้ได้ทุกอย่างขอเพียงเงินถึง” ซึ่งปัญหานี้เอง ได้ทำให้กลุ่มที่อาจจะใกล้เคียงกัน และทำมาหากินในพื้นที่เดียวกันอย่าง “คนรักสัตว์แปลก” (Exotic Pets) พลอยโดนหางเลขไปด้วย เพราะถูกองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติทั่วโลกจับตามอง
เช่นกรณีที่ WWF ไปยื่นหนังสือถึง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อ 25 มิ.ย. 2557 รวมทั้งให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ในเวลาไล่เลี่ยกัน ถึงข้อเสนอ 10 ประการให้เอาจริงเอาจังกับการคุ้มครองสัตว์ป่า และมีการพาดพิงโดยใช้ถ้อยคำว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ป่าและสัตว์แปลกถิ่น” ทำให้ทางกลุ่มผู้นิยมสัตว์แปลกรู้สึกไม่สบายใจ จน WWF ต้องออกแถลงการณ์ชี้แจงในเวลาต่อมา
“ทั้งนี้ WWF-ประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจและน้อมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นที่ตัวแทนขององค์กรได้กล่าวถ้อยคำหรือประโยคบางส่วนในการให้สัมภาษณ์ที่อาจสร้างความคลุมเครือต่อสาธารณชนโดยไม่ได้ระบุชัดเจนถึงคำว่า..การค้าสัตว์ป่าและ/หรือสัตว์แปลกที่ผิดกฎหมาย..และแสดงความเห็นอันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับสาธารณชน และอาจสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่เสียหายและความรู้สึกให้กับกลุ่ม Exotic Pets ที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย” ข้อความในแถลงการณ์ดังกล่าว ระบุ
ล่าสุดกับการนัด “เคลียร์ใจ” ระหว่าง WWF , แกนนำกลุ่มผู้นิยมสัตว์แปลก และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อ 22 ก.ค. 2557 ณ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังถกเครียดราวชั่วโมงเศษ ครรชิต ดีสมศักดิ์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานแห่งประเทศไทย เปิดแถลงข่าว ยืนยันว่าเครือข่ายผู้นิยมสัตว์แปลก ไม่สนับสนุนการค้าหรือเลี้ยงสัตว์ป่าผิดกฏหมาย และพร้อมถูกตรวจสอบทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม
“กลุ่ม Exotic Pets ของเรา เราไม่สนับสนุนการค้าขายสัตว์ป่าที่ผิด พ.ร.บ. อยู่แล้ว รวมไปถึงสัตว์ CITES 1 (บัญชีสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ห้ามค้าเด็ดขาด) แม้กฎหมายบ้านเมืองเราจะผิดแค่ศุลกากร แต่โดยจริยธรรมแล้ว เราก็ไม่ควรจะไปยุ่ง” คุณครรชิต ย้ำชัด และอยากให้แยกแยะว่า วงการนี้ก็เหมือนกับทุกวงการ ที่มีทั้งสีขาว สีเทา และสีดำ อย่าเหมารวมว่าผู้ค้าและผู้นิยมเลี้ยงสัตว์แปลกทุกราย จะต้องพัวพันกับธุรกิจค้าสัตว์ผิดกฏหมายไปทั้งหมด
อีกด้านหนึ่ง จากการหารือครั้งนี้ ประธานชมรมผู้เลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานแห่งประเทศไทย กล่าวถึงโครงการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต คือความร่วมมือระหว่างกลุ่มผู้นิยมสัตว์แปลก กับหน่วยงานรัฐในการดูแลสัตว์ผิดกฎหมายที่ถูกอายัดไว้ โดยให้สมาชิกกลุ่มที่มีศักยภาพเพียงพอ มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับสัตว์ดังกล่าวไปดูแล เพราะที่ผ่านมามีสัตว์ผิดกฏหมายที่ถูกอายัดเป็นของกลางเป็นจำนวนมาก จนเป็นภาระหนักของภาครัฐในการดูแล
“เราเห็นเป็นปัญหาคาใจมาตลอด สัตว์ที่ถูกยึดได้เอาไปไหน ดูแลไหวหรือเปล่า? เอาไปตายหรือเปล่า? ซึ่งในต่างประเทศ สัตว์ที่ถูกยึดได้ จะมีประชาชนที่มีศักยภาพขออนุญาตรับไปเลี้ยง รับไปดูแล โดยมีเจ้าหน้าที่ออกเอกสารฝากสัตว์ถูกต้อง เพราะกลุ่มที่อาสามานี้เขามีศักยภาพ
คือเจ้าหน้าที่คาดเดาไม่ได้เลย ว่ายึดได้แต่ละครั้งมันมากแค่ไหน เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่อาจจะไม่พอ อาจจะแออัด หรือในบางชนิด การจัดสภาพแวดล้อมของสัตว์ชนิดนั้นๆ ที่ยึดได้อาจจะไม่เหมาะ ดังนั้นการพบกันระหว่างผู้เลี้ยงกับเจ้าหน้าที่รัฐ นี่เป็นนิมิตหมายอันดี เป็นก้าวต่อไปเลย แน่นอนรัฐยังเป็นเจ้าของอยู่ เราก็สบายใจที่สัตว์ได้กินดีอยู่ดี ส่วนรัฐก็ประหยัดค่าใช้จ่าย วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย หันหน้าเข้าหากันแบบไม่เผชิญหน้ากัน” คุณครรชิต กล่าว แต่ย้ำว่านี่เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น รายละเอียดคงต้องหารือกันต่อไป
ส่วนข้อกังวลจากสังคม ที่อาจจะมองว่านี่คือ “ใบอนุญาตให้ทำผิดกฏหมาย” หรือไม่? ตัวแทนเครือข่ายผู้นิยมสัตว์แปลก รายนี้ ให้ความเห็นว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่จะต้องออกแบบกลไกว่าจะควบคุมผู้ที่ได้สิทธิ์นี้อย่างไร มิให้นำสัตว์หวงห้ามเหล่านี้ไปขายหรือนำไปเพาะพันธุ์เพื่อการค้า คล้ายกับการที่อนุญาตให้สวนสัตว์เอกชนเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองได้ แต่ไม่อนุญาตให้ค้าหรือส่งออก ทั้งสัตว์มีชีวิตและที่เป็นซากแล้วก็ตาม
ซึ่งเชื่อว่าคงไม่เกินความสามารถ หากตั้งใจที่จะทำจริงๆ
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี