ที่ผ่านมา นโยบายจัดระเบียบสังคมของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นไฮไลท์สำคัญ จะอยู่ที่การจัดระเบียบพื้นที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชุมทางคมนาคมของชาวกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสถานที่จอดรถตู้โดยสารสาธารณะ จากที่จอดกันบนถนนสายหลักตลอดพื้นที่ ไปจอดในพื้นที่อื่นๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ มักกะสัน หรือใต้ทางด่วนต่างๆ เป็นต้น
“สกู๊ปหน้า 5” ลงพื้นที่สำรวจอีกครั้งหลังผ่านไปเดือนเศษ จากการสังเกตเบื้องต้น พบว่าแม้จะมีรถตู้บางส่วนยังคงจอดรอรับผู้โดยสารอยู่ตามซอยย่อยต่างๆ โดยรอบ แต่ไม่มีการลงมาจอดบนถนนสายหลักอีก ซึ่งเมื่อสอบถามก็พบว่า หลังมีการจัดระเบียบ หากพื้นที่จอดตามซอยรองเหล่านี้เต็ม รถที่เหลือก็จะไปจอดในสถานที่อื่นๆ ข้างต้น
กฤตเติมพงษ์ คำภีรสุดพัฒน์ ชายวัย 60 ปี ผู้ดูแลคิวรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ลาดกระบัง กล่าวว่า คิวรถตู้บริเวณนี้ไม่มีปัญหากับการจัดระเบียบ เพราะต่างคนก็มีที่จอดอยู่แล้ว ทั้งที่มักกะสัน ใต้ทางด่วน หรือตามสถานีบริการน้ำมันต่างๆ โดยหากไปจอดตามปั๊ม จะเสียค่าจอดชั่วโมงละ 25 บาท ซึ่งก็ไม่รบกวนต้นทุนมากนัก
อย่างไรก็ตาม ลุงกฤตยอมรับว่า มีปัญหาอยู่บ้างกับชั่วโมงเร่งด่วน เพราะด้วยการจราจรที่ติดขัดทำให้การนำรถตู้จากจุดต่างๆ เข้ามายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไม่ง่ายนัก ซึ่งที่ผ่านมาจะพยายามใช้การคำนวณและบริหารเวลา กล่าวคือ เมื่อมีผู้โดยสารมารอได้ประมาณ 4-5 คน ก็จะเรียกให้รถเข้ามายังพื้นที่ ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้โดยสารหลายรายไม่เข้าใจ เพราะเคยชินกับการที่เมื่อซื้อตั๋วแล้วได้ขึ้นไปรอบนรถเลย ออกอาการบ่นด้วยความไม่พอใจอยู่เหมือนกัน
“ผู้โดยสารมักจะคอยไม่เป็น คือเขาจะเคยชินกับการที่รถมาจอดแล้วเขาขึ้นไปรอ บางครั้งพอรอสัก 10 นาที 15 นาที เร่งแล้ว..รถเมื่อไหร่จะมา?..คือมันไม่ค่อยขาดช่วงหรอก เฉลี่ยมีรถออกทุกๆ 30 นาที เราพยายามอธิบายให้ผู้โดยสารฟังว่า สาเหตุที่มันช้าเพราะอะไร บางคนรับไม่ได้ บอกว่าฉันรีบ คือเขาหงุดหงิดมากที่จะคอย คนที่โวยวายนี่ส่วนมากมักจะเป็นคนวัยทำงานไปแล้ว หรือไม่ก็คนอายุมากๆ ถ้าวัยรุ่นจะไม่ค่อยมี เพราะเขาเข้าใจ” ลุงกฤต กล่าว
เช่นเดียวกับผู้โดยสารอีกรายที่ใช้รถตู้โดยสารเป็นประจำ มองว่าการจัดระเบียบนี้ไม่มีปัญหาอะไรกับตน ส่วนเรื่องปัญหาการรอรถนาน ปกติแล้วก็ไม่ค่อยเจอบ่อยนัก แต่หากวันไหนที่มีธุระด่วนจริงๆ ก็จะหันไปใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถไฟฟ้าแทน
“คือถ้ามีธุระด่วน เราก็จะใช้แท็กซี่บ้าง แอร์พอร์ตลิ้งค์บ้าง บีทีเอสบ้าง นานๆ จะรอถึงครึ่งชั่วโมงกว่าสักที ส่วนใหญ่หลังจัดระเบียบมาก็รอไม่นานนะ ส่วนตัวคิดว่าดี อย่างคนที่เขามีรถส่วนตัว เขาจะไปธุระจริงๆ จะได้สะดวกด้วย คือถ้าไม่ด่วนแล้วรอได้ก็ไปรถตู้ แต่ถ้าด่วนจริงๆ จำเป็นจริงๆ ก็แท็กซี่จะดีกว่า” ผู้โดยสารรายนี้ ให้ความเห็น
จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เราเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ มักกะสัน จุดหนึ่งที่ใช้เป็นที่จอดรถตู้โดยสาร ก็เช่นเดียวกัน คนขับรถตู้เส้นทางกรุงเทพฯ-สิงห์บุรี รายหนึ่ง ระบุว่าไม่มีปัญหาอะไรกับการจัดระเบียบ แต่เป็นห่วงเฉพาะวันศุกร์-เสาร์เท่านั้น เนื่องจากผู้โดยสารจำนวนมากจะมารอใช้บริการรถตู้ ทั้งที่วิ่งไปชานเมืองและวิ่งไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งเมื่อรวมกับรถชนิดอื่นๆ ที่สัญจรไป-มา จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปัญหารถตู้ขาดช่วงและผู้โดยสารต้องรอนานกว่าปกติ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ผ่อนปรนบ้างใน 2 วันดังกล่าว
“ถ้าอยากดูต้องดูวันศุกร์ วันธรรมดามันไม่ติดเท่าไรหรอก ทุกวินคนมันเร็ว ทุกคนอยากกลับบ้าน แล้วกว่ารถจะไปจากนี่ (มักกะสัน) ใช้เวลาเดินทางพอสมควร ขอได้ไหม ตำรวจน่าจะผ่อนบ้าง ให้จอดได้บ้าง คือวันศุกร์ คนมันเดินทางเยอะไง อย่างวินผม วันศุกร์นี่ 15 นาทีเต็มคันแล้ว ศุกร์กับเสาร์เราขอหยวนๆ กันหน่อย ส่วนจันทร์ถึงพฤหัสฯ กับวันอาทิตย์อันนี้ไม่เป็นไร คือตอนนี้เราจอดไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีวน มันก็วิ่งอยู่ในถนน รถมันก็ติด แล้วไม่ใช่วินเดียว ทุกวินต้องวน วันอื่นแก้ได้ แต่ศุกร์เสาร์แก้ไม่ได้แน่นอน” คนขับรายนี้ ระบุ
ปิดท้ายที่ความเห็นจากตำรวจจราจรที่รับผิดชอบพื้นที่อย่าง สถานีตำรวจนครบาลพญาไท (สน.พญาไท) แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รายหนึ่งมองว่า การจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ แม้จะมีผลข้างเคียงบ้าง เช่น ปัญหารถขาดช่วงในบางวันเวลา ซึ่งจุดนี้เป็นหน้าที่ของผู้ดูแลคิวรถ หรือพนักงานขับรถต้องบริหารจัดการให้เป็น ขณะเดียวกันก็อยากให้ผู้โดยสารเข้าใจถึงความจำเป็นของการจัดระเบียบครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ยังย้ำด้วยว่า การจัดระเบียบรถตู้สาธารณะมีผลดีกับผู้ใช้บริการมากกว่า เพราะรถที่จะนำมาวิ่งเป็นรถสาธารณะต้องผ่านการตรวจสอบ มีมาตรฐานรับรองเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันการจอดรถรับ-ส่งต้องไม่จอดบนถนนหลักจนกีดขวางการจราจร
ของประชาชนที่ใช้รถชนิดอื่นๆ บนเส้นทางเดียวกันด้วย
“ประเด็นของการจัดระเบียบ ความถูกต้องต้องมีทั้งตัวรถและผู้ขับขี่ ค่าโดยสารต้องเป็นธรรม กระทบกับทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการให้น้อยที่สุด เราก็พยายามทำแล้วมันก็ดีขึ้นตามลำดับ จะเห็นว่ารถก็ถูกต้องหมด มันก็เป็นเรื่องของความปลอดภัย เป็นเรื่องของระเบียบกฎหมาย ถ้ารถมันไม่พอคุณก็ไปจดเพิ่ม ตรงนี้เป็นหน้าที่ขนส่งไม่ใช่ตำรวจ รถไม่พอคุณก็ไปขอยื่นจดป้ายเหลือง ทำให้มันถูกกฎหมาย
ถามว่าเมื่อก่อนทันไหม? มันก็ไม่ทัน ตอนมีรถผิดกฎหมายก็ไม่ทัน อนุสาวรีย์ชัยเป็นเป็นปกตินะ เขาก็เปิดโอกาสเป็นเดือนแล้วทำไมไม่จด พวกคุณทำผิดกฎหมายกันเอง พอ คสช. มาจัดระเบียบให้ถูกต้องก็ไปบ่นอย่างนั้นอย่างนี้ บอกทำไมไม่อนุโลม ถามว่าคุณอยากให้บ้านเมืองมีกฎระเบียบหรือเปล่า?” เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ฝากทิ้งท้าย
ก็เป็นหลายมุมมอง ทั้งจากคนขับ คนดูแลคิวรถ ผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านหนึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยกับการจัดระเบียบครั้งนี้ แต่ขณะเดียวกันต่างก็ยอมรับว่ายังมีปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก นั่นคือการจราจรที่หนาแน่นใน กทม.
ปัญหาใหญ่ที่ทุกคนรู้ดีและพูดถึงกันทุกยุคสมัย..แต่ยังมองไม่เห็นทางออก!!!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี