เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาทันที เมื่อองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มี นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการ ประกาศตั้ง จุดบริการสัญญาณอินเตอร์เนต หรือที่เรียกกันติดปากว่า “Wi-Fi” ให้เล่นกันฟรีๆ บน
รถเมล์ปรับอากาศ ยูโรทู (สีส้ม) จำนวน 1,500 คัน ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ดีเดย์ “ทดสอบระบบ” 1 ตุลาคม 2557 ก่อนประกาศ “ใช้จริง” ปีหน้า มกราคม 2558!!!
ทันทีที่ข่าวโครงการนี้แพร่สะพัดออกไป ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งด้านบวกและลบ ทางบวกนั้น ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า “สะดวกดี” เพราะทุกวันนี้ กิจกรรมต่างๆ ล้วนถูกยกไปไว้บนโลกออนไลน์แทบทั้งสิ้น เห็นได้จากยุคสมัยนี้ การสั่งงานหรือมอบหมายงาน มีการส่งเอกสาร รายละเอียดต่างๆ ผ่านเครือข่ายเหล่านี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาสสิกอย่างจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-Mail) หรือโปรแกรมใหม่ๆ ทั้งเฟซบุ๊ค (Facebook) อินสตาแกรม (instagram), ไลน์ (Line) เป็นต้น เรียกว่าทำงานกันได้ทุกที่ ไม่ต้องยึดติดกับออฟฟิศอีกต่อไป
อีกเหตุผลหนึ่ง คือการ “ผ่อนคลายความเครียด” เพราะต้องยอมรับว่าสภาพการจราจรใน กทม. นั้นเข้าขั้นวิกฤติมานานแล้ว บ่อยครั้งที่ผู้ใช้บริการรถเมล์ ต้องทนนั่งอยู่ในรถเป็นเวลานานนับชั่วโมงบนถนนสายหลักเพราะ “รถติด” ดังนั้นการมีอินเตอร์เนตฟรีไว้ต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเลต ก็อาจเป็นการ “ฆ่าเวลา” ได้ดีทางหนึ่ง
ชัดเจน..วิถีชีวิตคนยุคนี้ ผูกติดเป็นเนื้อเดียวกับเทคโนโลยีและโลกออนไลน์ ยากที่จะแยกจากกันเสียแล้ว!!!
อีกด้านหนึ่ง ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นเชิงลบ และออกจะเป็นห่วงไม่น้อย เพราะหลายคน “รู้ซึ้งดี” กับพฤติกรรมเสพติดโลกออนไลน์ของคนไทย ในระดับที่เมื่อได้เล่นแล้วก็ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นๆ จนเกิดปัญหาตามมามากมาย เช่น เอาแต่เดินไปกดไป ทั้งที่เป็นเวลาขึ้น-ลงรถ ซึ่งพบเห็นได้บ่อยครั้งทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า ทำให้เกะกะกีดขวางทางผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทั้งยังไม่ขยับที่ให้ผู้อื่นได้นั่งหรือยืนในที่ที่เหมาะสม และขวางทางกระเป๋ารถเมล์ในการที่จะเดินเก็บค่าโดยสาร
“ไม่รู้มาก่อนว่าทาง ขสมก. จะทำการติดตั้งสัญญาณ Wi-Fi ในรถโดยสารปรับอากาศยูโรทูให้เล่นฟรี ถ้ามีก็ดีนะ แต่รถเมล์คนแน่น เอาแต่กดโทรศัพท์ก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน”
ยุ้ย นักศึกษาสาววัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) เป็นผู้หนึ่งที่ใช้บริการรถเมล์เป็นประจำ มองว่า แม้การมี Wi-Fi บนรถเมล์จะทำให้มีความสะดวกในการเข้าถึงอินเตอร์เนต แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วย เพราะถ้าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง บางทีอาจลงผิดป้าย ต้องเสียเวลาและค่าโดยสารใหม่ไปโดยใช่เหตุ
เช่นเดียวกับ รอง สาวใหญ่วัย 41 ปี ปัจจุบันเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม. มองว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็มักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ดังนั้นหากมี Wi-Fi ฟรีขึ้นมา ก็อาจเป็นการกระตุ้นให้คนอยากใช้บริการ ซึ่งก็น่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อยเลย
“ไม่รู้มาก่อนว่าจะมี Wi-Fi บนรถเมล์ให้ใช้ฟรี ก็ดีนะจะได้รู้ข่าวสาร แต่ถ้ารถแน่นโดยส่วนตัวก็คงไม่กด เพราะตัวพี่เองก็ไม่ค่อยได้เล่น แต่สมัยนี้เวลาขึ้นรถเมล์ ทุกคนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ถ้าจะมี Wi-Fi ขึ้นมา ก็อาจเป็นสิ่งที่มีแต่คนอยากใช้บริการ ทำให้น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” คุณรอง กล่าว
ที่ดูจะรู้สึกไม่สบายใจกับข่าวนี้อย่างชัดเจน เห็นจะเป็นนักจิตวิทยาชื่อดัง อย่าง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ที่มองว่า แม้การมี Wi-Fi ฟรี จะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากปัญหาการจราจรใน กทม. ที่ปัจจุบันย่ำแย่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกได้ก็ตาม แต่เมื่อชั่งน้ำหนักกับผลกระทบแล้ว พบว่าด้านเสียอาจมีมากกว่า
ดร.วัลลภ อธิบายต่อไปว่า การใช้เวลากับโลกออนไลน์ติดต่อกันนานๆ จะทำให้เกิดภาวะเสพติด (Addict) จนยากจะควบคุมตนเองได้ เช่น ไม่รู้ว่ากำลังพูดอยู่กับใคร อารมณ์ความรู้สึก สีหน้า กิริยาท่าทาง น้ำเสียง แม้กระทั่งการหายใจก็เสียหายไปหมด เริ่มมีภาวะเครียดและซึมเศร้า อีกทั้งยังเสี่ยงต่อโรค “นิ้วล็อก” อีกด้วย และหากเล่นบนรถเมล์ที่มีทั้งที่นั่งและยืน ก็จะยิ่งสร้างปัญหามากขึ้นไปอีก
เห็นได้จากทุกวันนี้ ภาวะ “สังคมก้มหน้า” ระบาดไปทั่ว และเป็นกันทุกวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุก็ยังมี!!!
“ก็ต้องบอกเลยว่าประเทศไทยไม่ได้ประสบปัญหาประเทศเดียว ในเอเชียมีหลายประเทศที่ไม่ต้องการให้เล่นโทรศัพท์ ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน อย่าง BTS หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ประเทศญี่ปุ่นก็ประสบเจอปัญหามาก่อนเรา แต่ก็ไม่รู้จะออกกฎหมายอย่างไร เขาเลยใช้กฎสังคม และพยายามไม่ให้เปิด Wi-Fi ในที่สาธารณะ จึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นลดการเล่นโทรศัพท์ในขณะใช้บริการลงไปเยอะ” นักจิตวิทยารายนี้ ฝากทิ้งท้าย และกล่าวเสริมว่า นอกจากไทยแล้ว สิงคโปร์กับฮ่องกง ก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน
เรื่องของ Wi-Fi ฟรีบนรถเมล์ ด้านหนึ่งก็ต้องเข้าใจเหตุผลของ ขสมก. ที่ต้องการให้คนหันมาใช้บริการรถเมล์กันมากขึ้น เพื่อหวังลดปัญหาการจราจรหนาแน่นในระยะยาว อีกทั้งลดปัญหาการขาดทุนซ้ำซากของ ขสมก. เองด้วย แต่อีกด้านหนึ่ง การเปิดช่องให้เข้าถึงอินเตอร์เนตได้ง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นนี้ อาจทำให้เกิดภาวะเสพติด จนส่งผลเสียต่อทั้งผู้ใช้บริการเองและคนรอบข้างได้
ผลจะออกมาอย่างไร?..สภาพบนรถเมล์จะทุลักทุเลมากขึ้น จากการที่แต่ละคนเอาแต่ก้ามหน้าก้มตาจิ้มมือถือหรือไม่? ปีหน้าฟ้าใหม่ คงได้รู้กัน!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี