เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมาร่วมสิบปีแล้ว กับกรณี “สวนสัตว์พาต้า” ด้านหนึ่ง ฝ่ายที่มองว่าการที่สัตว์ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในอาคารที่มองไม่เห็นบรรยากาศภายนอก เป็นการทารุณสัตว์หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพที่ดูเศร้าสร้อยของ “บัวน้อย” กอริลลาในสวนสัตว์ดังกล่าว ที่มีการแชร์กันบนโลกออนไลน์บ่อยครั้ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการย้ายสัตว์ทั้งหมดไปไว้ที่อื่น ที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า และมีบรรยากาศที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากกว่า
ล่าสุดเรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสอีกครั้ง หลังมีผู้ไปเปิดกระทู้ล่ารายชื่อในเว็บไซต์ดังอย่าง Change.org และสามารถรวบรวมรายชื่อได้กว่า 35,000 คน และได้มีการนำมายื่นต่อ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เมื่อ 24 ก.ย. 2557 ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้กรมอุทยานฯ เพิกถอนใบอนุญาตสวนสัตว์แห่งนี้
นางศิลจิรา อภัยทาน ผู้จุดกระแสเรียกร้องครั้งนี้ กล่าวว่าต้องการให้ภาครัฐ เล็งเห็นถึงความสำคัญของ “บัวน้อย” กอริลลาตัวเดียวและตัวสุดท้ายในประเทศไทย พร้อมกับตั้งคำถามว่า..ทางออกของที่อยู่ใหม่ซึ่งก็คือ “บ้าน” ที่แท้จริงของบัวน้อยควรจะอยู่ที่ไหนกันแน่? ระหว่างบนยอดตึกสูง หรือบนพื้นดินที่ออกแบบให้เป็นศูนย์อนุรักษ์และดูแลสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังย้ำว่า ไม่ได้เป็นห่วงเฉพาะกอริลลาเท่านั้น แต่รวมถึงสัตว์ทุกชนิดในสวนสัตว์แห่งนี้ด้วย
“การรณรงค์ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อกอริลลาเพียงตัวเดียวแต่เพื่อสัตว์อื่นๆ ที่อยู่บนสวนสัตว์ลอยฟ้าด้วย แม้จะดูว่าสัตว์ต่างๆบนตึกนั้นร่างกายแข็งแรงดี แต่สัตว์มีทั้งร่างกายและจิตใจเหมือนเรา
จึงอยากให้เจ้าของเปิดใจรับฟังและปิดตำนานสวนสัตว์ลอยฟ้าด้วยตัวเอง และนำสัตว์เหล่านั้นมาสู่การอนุรักษ์อันยั่งยืนและความชอบธรรมในการจัดการธุรกิจสวนสัตว์สาธารณะ ซึ่งหากเจ้าของสวนสัตว์พาต้าเปิดใจยอมรับก็สามารถตั้งชื่อสวนสัตว์ใหม่ เป็น Pata Conservation Center ได้ เพราะเราเข้าใจดีกว่าสัตว์เหล่านี้เป็นของพาต้า การย้ายสวนสัตว์พาต้าไม่ใช่การปิดสวนสัตว์พาต้าแต่อย่างใด” คุณศิลจิรา กล่าว
เช่นเดียวกับ ป๊อกกี้ อาชีพวิศวกร อายุ 27 ปี เธอมาเยี่ยมชมสวนสัตว์พาต้าหลังจากที่ได้ดูรีวิวจากในเว็บไซต์ Pantip.com มาก่อน พอมาเห็นของจริงมันให้ความรู้สึกแย่กว่าที่เห็นมา โดยเธอมองว่าสถานที่อาจจะดูเล็กและคับแคบเกินไป สวนที่กังวลว่าหากนำกอริลลาบัวน้อยลงมาดูแลบนพื้นดิน จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของบัวน้อยเพราะไม่เคยชิน ส่วนตัวเชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการเตรียมความพร้อม สำหรับการปรับตัวของบัวน้อยอยู่แล้ว
“น่าจะหาพื้นที่ที่ใหญ่กว่านี้ เพราะในนี้มันอับ และอีกอย่างก็มีอายุมาหลายปีแล้ว ในกรณีบัวน้อย ถ้าจะเอาเขาลงมาจริงๆ ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบเขาต้องเตรียมพื้นที่ คิดปัญหาล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะย้ายออกมา” ผู้เยี่ยมชมสวนสัตว์พาต้า รายนี้ ระบุ
อีกด้านหนึ่ง ในเวลาต่อมา นายคนิต เสริมสิริมงคล ผู้อำนวยการสวนสัตว์พาต้า ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ยืนยันว่าที่ผ่านมา สัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์พาต้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีตามหลักวิชาการมาโดยตลอด ยกตัวอย่างกอริลลาอีกตัวที่เสียชีวิตไป แล้วมีคนส่งภาพต่อๆ กันบนโลกออนไลน์ คุณคนิตชี้แจงว่ากอริลลาดังกล่าวตายเพราะสิ้นอายุขัย ซึ่งปกติแล้ววงจรชีวิตของสัตว์ชนิดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 40 ปี ดังนั้นจึงอยากย้อนถามกลับเช่นกัน ว่าหากสวนสัตว์พาต้าดูแลสัตว์ไม่ดีจริง กอริลลาจะได้อยู่จวบจนครบอายุขัยหรือไม่?
“มีแค่คนบางกลุ่มที่เข้าไปร้องเรียนว่าสวนสัตว์ดูแลสัตว์ไม่ดี ซึ่งไม่เป็นความจริง สวนสัตว์ดูแลสัตว์ทุกตัวดี ถ้าอยากให้สวนสัตว์ลอยฟ้าทำอย่างที่ทุกคนอยากให้ทำ ก็ออกกฎหมายเลยว่าจะให้ทำอะไรบ้าง แล้วสวนสัตว์ทั่วประเทศต้องทำด้วยนะ”
ผู้อำนวยการสวนสัตว์พาต้า ระบุ
สอดคล้องกับ ดิว อาชีพรับข้าราชการ อายุ 27 ปี ที่ได้มาเยี่ยมชมสวนสัตว์พาต้าเช่นกัน เธอคิดว่าบัวน้อยมีอาการเหงาๆ ดูแล้วไม่ค่อยร่าเริงเท่าที่ควร แต่ก็กังวลว่าหากย้ายไปที่อื่นจะปรับตัวได้หรือไม่ เพราะอยู่ที่นี่มานานแล้ว
“อยู่ที่นี่เขาดูเหงาๆ แต่เขาเคยอยู่มานาน เขาน่าจะอยู่ได้นะ เพราะที่นี่ก็อยู่มา 20 กว่าปีแล้ว ถ้าเอาเขาลง กลัวว่าตัวกอริลลาจะมีปัญหา” ผู้เข้าเยี่ยมชมสวนสัตว์พาต้า อีกราย ให้ความเห็น
เบื้องต้นหลังกลุ่มประชาชนเข้ายื่นหนังสือดังกล่าว อธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้ต่อใบอนุญาตดำเนินการสวนสัตว์พาต้าไปอีก 1 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาทางห้าง ดำเนินการตามข้อกำหนดของกรมอุทยานฯ มาโดยตลอด ทั้งปรับปรุงที่อยู่อาศัยใหม่ให้สัตว์แต่ละชนิด กำหนดแผนอพยพหากเกิดอัคคีภัยหรือแผ่นดินไหว
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ทางกรมอุทยานฯ เห็นว่า ควรดำเนินการเคลื่อนย้ายสัตว์ทั้งหมดลงมาด้านล่าง เบื้องต้นกำหนดเวลาไว้ 180 วัน หลังจากวันที่ต่อใบอนุญาต ส่วนกรณีของกอริลลาบัวน้อย เจ้าของสวนสัตว์ขอเลื่อนกำหนดเคลื่อนย้ายไปก่อน เพราะเป็นห่วงเรื่องอันตรายกับตัวกอริลลาเอง นอกจากนี้ยังต้องใช้งบประมาณราว 40-50 ล้านบาท ในการหาบ้านใหม่ให้กอริลลาตัวนี้ ซึ่งปัจจุบันบัวน้อยก็อายุ 27 ปีแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าจะคุ้มค่าหรือไม่?
“ที่เขาขออนุญาตในปี 2526 มันเป็นกฎหมายกระทรวงพาณิชย์ ตอนนั้นยังไม่มี พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่เกี่ยวข้องกับสวนสัตว์สาธารณะ พอเขาอนุญาตก็ต่ออายุมาเรื่อยจนเข้าระบบนี้ ถ้าเราเป็นคนดูสมัยก่อน เราคงไม่อนุญาตให้หรอก แต่นี่มันเป็นเรื่องที่อนุญาตมาแล้ว
มันมีแนวทางแต่ยังไม่มีข้อกฏหมาย อย่างเสือ 5 ปี 1 ตัว ควรมี Space (พื้นที่) เท่านี้ มันยังไม่มีไง มันมีแต่กรอบกว้างๆ ถ้ามันมีมันก็ดี กรณีกอริลลา เขาก็ได้มาอย่างถูกกฎหมาย เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลของเขาที่ซื้อมาจากสวนสัตว์เยอรมัน ผ่านกระบวนการไซเตสถูกต้อง เราจะไปยึดแล้วบอกเขาผิดกฎหมายไม่ได้เลย ต้องขอร้องเขาอย่างเดียว
คือในการย้ายมันก็มีปัญหานิดนึง คือเขาต้องลงทุนมาก เขาให้เหตุผลว่ากอริลลาอาจจะติดเชื้อถ้าเอามาลงพื้นดิน ตรงนี้เดี๋ยวผมจะมีคณะทำงาน มีที่ปรึกษาเป็นอาจารย์จากคณะสัตวแพทย์ทั้งมหิดล เกษตรฯ แล้วก็จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็จะมาดูว่า มันเป็นจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า? สุดท้ายเราให้เวลาเขาถึงปีหน้า ก่อนที่เขาจะต่อใบอนุญาต ต้องย้ายลงมา” อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวชี้แจง
ห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้า เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี 2525 เป็นห้างเก่าแก่แห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรีที่ยังคงเปิดมาจนถึงปัจจุบัน ในอดีตนั้นมีจุดเด่นที่ “ลิฟต์แก้ว” และ“สวนสัตว์พาต้า” โดยส่วนของสวนสัตว์นั้นจดทะเบียนนิติบุคคลอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2527 ตั้งอยู่บนชั้น 6-7 ของห้างแห่งนี้ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าอย่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ออกมาบังคับใช้
ห้างพาต้าเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2535 ครั้งนั้นต้องมีการอพยพสัตว์หนีตายกันอย่างทุลักทุเล หลังจากนั้นห้างและสวนสัตว์ก็เข้าสู่ภาวะซบเซา อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกระแสเรียกร้องให้ย้ายสัตว์ทั้งหมดออกไป คนในสวนสัตว์พาต้าทั้งผู้บริหารและบุคลากร จะออกมาชี้แจงเสมอว่าแม้คนเที่ยวชมจะน้อยลง แต่การดูแลสัตว์ในสวนสัตว์ก็ยังดูแลอย่างดีเช่นเดิม เช่นในครั้งนี้ ผู้อำนวยการสวนสัตว์พาต้า ระบุว่า ในอนาคตประมาณ 5 ปีข้างหน้า ก็จะมีโครงการขยับขยายพื้นที่ เพื่อเคลื่อนย้ายสัตว์ทั้งหมดลงสู่พื้นดินต่อไป
มหากาพย์สวนสัตว์ลอยฟ้าเก่าแก่แห่งนี้ ที่ยืดเยื้อมานับสิบปีจะจบลงอย่างไร? วันนี้ยังไม่มีคำตอบ!!!
แก้วกานดา ตันเจริญ
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี