“เป็นเกษตรกรมีแต่ยากจน”...ถึงเวลาต้อง “โละ” ความเชื่อนี้ทิ้งเสียที เพราะที่ผ่านมาตามหน้าสื่อต่างๆ ปรากฏภาพของเกษตรกรหลายคน ตั้งแต่ระดับบัณฑิตจบปริญญายันรากหญ้าสามัญผู้มีการศึกษาน้อย แต่ใช้ภูมิปัญญาทำการเกษตรจนฐานะของตนและครอบครัวดีขึ้นมาแล้วมากมาย
รายนี้ก็เช่นกัน..บ่ายวันที่ 23 ส.ค. 2558 “สกู๊ปหน้า 5”ติดตามคณะของศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ลงพื้นที่ บ้านสนวนนอก หมู่ที่ 2 ต.สนวน อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ที่นี่เราพบกับ ประถม โกติรัมย์ หนุ่มใหญ่วัย 62 ปี ที่ปัจจุบันกลายเป็นวิทยากรขาประจำของหมู่บ้าน คอยบรรยายให้ความรู้กับผู้ที่สนใจมาศึกษาดูงาน
ชีวิตของคุณลุงประถม ต้องบอกเลยว่า “ไม่ธรรมดา” เพราะทำงานหนักมาตลอด ไล่ตั้งแต่วัยหนุ่มที่เริ่มต้นกับอาชีพ “คนงานก่อสร้าง” ใช้แรงแลกเงิน ต่อมาเมื่อมีทักษะมากขึ้นพร้อมกับประสบการณ์ที่มากพอ ก็ผันตัวมาเป็น “ผู้รับเหมา” ซึ่งคุณลุงรายนี้กล่าวว่า งานช่างที่เกี่ยวกับการสร้างอาคารบ้านเรือนนั้น “ทำมาหมด” ทั้งงานปูน งานไม้ หรืองานทำท่อประปา กระทั่งในวัย 58 ปี หนุ่มใหญ่รายนี้ถึงเวลาต้อง “เกษียณ” จากงานก่อสร้าง
เพราะ “ใช้ร่างกายหักโหม” สะสมเป็นเวลานาน..จนเกิน “ขีดจำกัด” จะรับได้อีกแล้ว!!!
2 ภาพบน : ประถม โกติรัมย์ กับแผ่นหลังที่มีอาการปวดเพราะทำงานหนักมาค่อนชีวิต
2 ภาพล่าง : พริกและมะนาว พืชที่คุณลุงประถมปลูกไว้ในสวนเป็นจำนวนมาก
“ลูกผมบอกให้หยุดครับ มันหนักแล้ว ไม่ไหวแล้วทุกวันนี้กระดูกผมเสีย หลังผมมันก็เริ่มโก่ง” เขากล่าว พร้อมกับเปิดเสื้อด้านหลังให้ดูบริเวณหลังและเอว ซึ่งเป็นจุดที่มีอาการปวดบ่อยครั้ง
เมื่อแรกเริ่มหันเหสู่วิถีเกษตร คุณลุงประถมเริ่มจากที่ดินเพียง 2 ไร่ โดยช่วงแรกๆ เริ่มจาก “ไม้ยืนต้น” จำพวกมะพร้าว มะม่วง และมะนาวก่อน เพื่อให้ร่มเงากับผืนดิน จากนั้นก็เริ่มนำพืชอื่นๆ มาลงเรื่อยๆ เช่น พริก ขิง ชะอม มะรุม มะละกอ ฯลฯ
5 ปีผ่านไป..พื้นที่ 2 ไร่นี้ ทำรายได้ให้กับเขาทุกวัน!!!
“ส่งขายตลาดนัดบ้าง โรงงานบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นตลาดนัด เพราะมีทุกวันครับ ขอให้มีผักไปขายได้ทุกวันก็แล้วกัน” คุณลุงประถม บอกเล่าอย่างภูมิใจ
เมื่อถามว่าไปทราบวิธีทำการเกษตรแบบนี้มาได้อย่างไร? คุณลุงประถมตอบว่า “แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง” มาโดยตลอด เช่นศึกษาจากโครงการ “ทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสน” ของหอการค้าไทย หรือทฤษฎี “เกษตรผสมผสาน” ตามแนวทางพระราชดำริ แล้วนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของตน ว่าในพื้นที่ควรจะแบ่งไว้ปลูกอะไรบ้าง
หนุ่มใหญ่รายนี้ ระบุว่า หัวใจสำคัญของการเกษตรอยู่ที่ “ดิน” ถ้าดินมีความเหมาะสม มีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตที่ได้ก็จะงามไปด้วย ดังนั้น การปรับปรุงดินจึงเป็น “ขั้นแรก” ที่ต้องทำ ไล่ตั้งแต่ปลูกพืชระยะสั้นอย่างถั่วก่อนจะไถกลบเพื่อเพิ่มแร่ธาตุในดิน การนำฟางมาคลุมดินเพื่อให้ดินชุ่มชื้น รวมถึงใช้ปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพเป็นหลัก ถึงกระนั้นก็ยอมรับว่ายังคงใช้สารเคมีอยู่บ้าง
แต่ใช้สำหรับ “กำจัดศัตรูพืช” เท่านั้น โดยใช้ในปริมาณเจือจาง และไม่ใช้บ่อยๆ!!!
“ยอมรับว่าถ้าจำเป็น ถ้าศัตรูพืชมันเยอะจริงๆ ก็ต้องใช้สารเคมีบ้าง แต่พยายามใช้ให้น้อยที่สุด” คุณลุงประถมกล่าวย้ำ ซึ่งเขาก็หวังว่าคงมีสักวันหนึ่งที่สวนแห่งนี้จะเป็น “เกษตรอินทรีย์” ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีอีกต่อไป
กว่า 5 ปีที่เปลี่ยนวิถีชีวิตจากช่างก่อสร้างมาเป็นเกษตรกร คุณลุงประถมกล่าวว่า “สุขภาพดีขึ้น” ทั้งร่างกายที่ไม่ค่อยจะเจ็บป่วยง่ายๆ ทั้งๆ ที่อายุอานามเลยวัยเกษียณมาแล้ว อีกทั้งสวนแห่งนี้ยังบุกเบิกเองด้วย “ตัวคนเดียว” เกือบทุกขั้นตอน
นั่นหมายถึงการต้องใช้แรงกายอยู่มากเช่นกัน ขณะที่จิตใจก็สงบและมีความสุข ซึ่งคุณลุงยังย้ำอีกว่า “จะทำต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว” เพราะไม่ต้องการให้ลูกทั้ง 2 คนเป็นห่วง ซึ่งขณะนี้คนหนึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส่วนอีกคนเป็นข้าราชการไปประจำอยู่พื้นที่อื่น
“ผมว่าผมโชคดีนะ มีสวนอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ต้องเดินไกล เกษตรอำเภอยังบอกเลยว่าผมโชคดี เชื่อไหมครับปีก่อนพริกนี่สูงท่วมหัวผมเลยครับ คือมันงามจริงๆ ข้างหลังนี่มีสระน้ำด้วยนะครับ ถ้าผมมีทุนหน่อยคงเอาปลามาลงแล้ว ผมบอกทุกคนว่าวันนี้ผมทำได้ผมทำก่อน ถ้าวันไหนผมทำไม่ได้ ผมจะนอนกินของที่ผมทำนี่แหละ”
หนุ่มใหญ่รายนี้ กล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับตอบข้อข้องใจเกี่ยวกับรายได้ไว้ว่า..
ถึง “ไม่รวย” แต่ก็ “ไม่จน” เพราะรายจ่าย “ลดลง” แต่รายรับ “ไม่เคยขาดมือ”!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี