ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปกับ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ) หรือที่เรียกกันติดปากว่า “หมอชิต” ที่มีข่าวมาเป็นระยะๆ ว่าจะย้ายจากบางซื่อไปอยู่ ณ พื้นที่อื่น ที่ผ่านมาก็มีข้อเสนอทั้งในเมืองทองธานีบ้าง สนามบินดอนเมืองบ้าง หรือใกล้กับห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิตบ้าง และไม่นานนี้ก็มีข่าวออกมาว่าน่าจะเป็นที่ดินรกร้างย่านรังสิต จ.ปทุมธานี ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงงาน “ไทยเมลอน” ที่ปิดกิจการไปแล้วนับสิบปี
อย่างที่ทราบกันดีว่า “หมอชิต” เป็นมากกว่าแค่สถานีขนส่ง เพราะที่นี่เป็นจุดรวมพลของ “คลื่นมนุษย์” นับแสนนับล้านคน โดยเฉพาะจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เข้ามาแสวงหาโอกาสในชีวิตทั้งทำงานและศึกษาต่อ ณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เห็นได้จากเทศกาลหยุดยาวอย่างปีใหม่และสงกรานต์ คนจำนวนมหาศาลมาใช้บริการรถประจำทางเพื่อกลับภูมิลำเนาและกลับมาทำงาน ณ ที่นี่เสมอ ดังนั้นการย้ายหมอชิตจึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
“สกู๊ปหน้า 5” ลงพื้นที่ ณ ขนส่งหมอชิตปัจจุบันย่านบางซื่อ สำรวจความเห็นของหลากหลายชีวิตผู้เกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้ เริ่มจาก พี่จอย หญิงอายุ 39 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี พนักงานจัดอาหารขึ้นรถทัวร์ เธอกล่าวว่า หากต้องย้ายจริงๆ ตนก็ต้องย้ายที่พักตามไปเพราะทำงานอยู่กับตรงนี้ ถึงกระนั้นก็อดเป็นห่วงผู้ใช้บริการรถทัวร์ไม่ได้ ว่าหากย้ายไปย่านรังสิตจริง จะทำให้เดินทางลำบากขึ้นหรือไม่?
เช่นเดียวกับ ลุงคม หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานขับรถทัวร์ ที่กล่าวว่า หากมองในมุมคนขับรถ การย้ายหมอชิตไปที่รังสิตทำให้การขับรถทัวร์เข้า-ออกทำได้ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัดเหมือนในกรุงเทพฯ แต่หากมองในมุมผู้โดยสาร ก็อาจลำบากเพราะต้องเดินทางไกลขึ้นกว่าเดิม
ซ้าย : หมอชิตเดิมหลังสวนจตุจักร-บางซื่อ ขวา : ที่ดินรกร้างย่านรังสิต-อดีตโรงงานไทยเมลอน
ด้าน ลุงสมาน หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี อีกราย ชาว จ.มหาสารคาม พนักงานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระขึ้นรถ ให้ความเห็นว่า ในอนาคตอันใกล้ สถานีขนส่งรวมอย่างหมอชิตอาจ “หมดความสำคัญ” เนื่องจากปัจจุบันบริษัทรถทัวร์หลายแห่งเริ่มมีจุดจอดรถและจำหน่ายตั๋วเป็นของตนเอง
“ต่อไปผมคิดว่ารถแต่ละบริษัทเขาคงไม่มาขึ้นตรงนี้เขามีที่จอดของเขาเอง มาที่นี่แค่นิดหน่อย รถเขามีเยอะครับแต่มันไปจอดอยู่ตามจุดของเขา ตามป้ายของเขา ต่อไปสถานีขนส่งก็จะหมดความสำคัญเพราะรถทัวร์จะไม่เข้ามา เขาจะอยู่ที่ป้ายของเขา” พนักงานขนสัมภาระรายนี้ ระบุ
ไม่เพียงแต่พนักงานในหมอชิตเท่านั้น ยังมีผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ขายรอบสถานีขนส่งแห่งนี้ที่พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย อย่างในรายของ ลุงแอ๊ดอายุ 48 ปี ชาว จ.ปทุมธานี พ่อค้าแผงลอย เผยว่าตนเคยขายของตั้งแต่หมอชิตยังตั้งอยู่ที่ด้านหน้าสวนจตุจักร จนมีการย้ายมาตั้งหลังสวนจตุจักรในปัจจุบัน และหากย้ายไปที่รังสิตจริง ก็จะต้องย้ายตามไปเช่นกัน
พ่อค้ารายนี้มองว่า การย้ายไปตั้งบริเวณรังสิตเห็นว่าแตกต่างจากที่ตั้งเดิมมาก ที่เห็นได้ชัดคือการเดินทางน่าจะไกลเกินไป อีกทั้งการจัดสายรถทัวร์จะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพราะ “รังสิตไม่ใช่กรุงเทพฯ” ดังนั้นต่อไปจะใช้ชื่อเส้นทางว่า “กรุงเทพฯ-...(ชื่อจังหวัดปลายทาง)”ไม่ได้อีก แต่จะต้องเปลี่ยนเป็น “ปทุมธานี-...(ชื่อจังหวัดปลายทาง)” จึงกังวลว่าจะทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้ใช้บริการหรือไม่?
“มันต่างกันเยอะมากครับ เพราะตรงนั้นมันไกลมากนะ คนละเรื่องกันเลย ผมพอรู้อยู่ว่าเขาเช่าที่กันเมื่อก่อนยังเช่าได้แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่เช่าต่อ ได้ยินข่าวมาหลายครั้งแล้วครับ ถ้าจะย้ายไปตรงนั้นก็ต้องแก้อีก ที่รังสิตไม่ใช่เขตกรุงเทพฯนะ จากรถทัวร์ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ก็ต้องเปลี่ยนเป็น ปทุม-เชียงใหม่” พ่อค้ารายนี้ กล่าว
ถัดจากหมอชิตบางซื่อ ในวันเดียวกัน เรามุ่งหน้าไปยังย่านรังสิต บริเวณโรงงานไทยเมลอนเดิมที่ปัจจุบันเหลือแต่รั้วและซากป้อมยามเก่าๆ กั้นที่ดินรกร้างที่มีหญ้าและต้นไม้ขึ้นหนาทึบ ที่นี่เราพบกับ พี่แอน หญิงอายุ 36 ปี ชาว จ.พะเยา แม่ค้าขายยำมะม่วง เธอกล่าวว่าถ้าจะย้ายมารังสิตตนก็เห็นด้วย เพราะว่าเมื่อตนจะเดินทางกลับไปบ้านเกิด การที่ต้องนั่งรถไปหมอชิตบางซื่อถือว่าค่อนข้างลำบากเพราะปัญหารถติดในกรุงเทพฯ แต่ก็มีข้อสงสัยว่าพื้นที่ดังกล่าวเพียงพอต่อการตั้งสถานีขนส่งที่ครบวงจรหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม คนพื้นที่อย่าง ป้านก อายุ 50 ปี ชาวจ.ปทุมธานี ขายของเบ็ดเตล็ดอยู่ใกล้กับที่ดินดังกล่าว แสดงความเป็นห่วงว่าการย้ายขนส่งหมอชิตมาไว้ที่นี่ จะนำพาปัญหา “มลพิษ” ทั้งเสียงเครื่องยนต์รถและกลิ่นควันพิษท่อไอเสียมาด้วยหรือไม่? เพราะชุมชนบริเวณนี้ก็มี“ผู้สูงอายุ” อยู่ด้วยเป็นจำนวนไม่น้อย
“มันไม่ดีนะลูก เพราะมันเป็นชุมชน มันเป็นสถานที่ที่มีคนอยู่ มันเป็นมลพิษ ผลกระทบหลายอย่างถ้าจะย้ายมาสร้างตรงนี้ควรจะขยับไปอีก ตรงนี้เป็นที่คนอาศัยอยู่หนาแน่น มันจะทำให้บรรยากาศไม่ดีต่อคนในชุมชน” คุณป้ารายนี้ กล่าวทิ้งท้าย
หากยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วเราเคยนำเสนอประเด็นการย้ายหมอชิตไปแล้วครั้งหนึ่ง (สกู๊ปหน้า 5-ห่วง“รถติด-เข้าออกลำบาก” เสียง ปชช. กรณี “ย้ายหมอชิต” วันที่ 25 ก.ย. 2557) ซึ่งเสียงสะท้อนจากประชาชนในครั้งนั้นก็ไม่ต่างจากครั้งนี้มากนัก คือเป็นห่วงว่าหากย้ายหมอชิตไปไว้ที่รังสิตจริง อาจทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการต้องเดินทางลำบากขึ้น หากไม่มีระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ รองรับเพียงพอ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ยังเป็นคนระดับ “รากหญ้า” ที่รายได้ต่อหัวไม่สูงนัก การต้องเดินทางหลายต่อจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจนกระทบต่อภาระการครองชีพหรือไม่?
ก่อนจะย้ายไปไหน..หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรคิดถึงมาตรการรองรับในจุดนี้ด้วย!!!
อรสา อ่ำบัว
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี