“กินคลีน”...
เป็นกระแสการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่มาแรงมากในยุคนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รักและดูแลสุขภาพ ซึ่งหลายคนรู้จักวิธีกินอาหารแบบนี้ แต่มีคนอีกไม่น้อยเช่นกันที่เข้าใจคลาดเคลื่อน และเน้น “จำกัดอาหาร” จนเกินพอดี ทำให้พฤติกรรมการกินคลีนเกิดโทษต่อร่างกาย
บางคนคิดว่าการกินคลีน ต้องกินผัก กินสลัด ถึงจะดีที่สุด ทำให้เกิดภาวะ Orthorexia หรือการเลือกเฉพาะอาหารที่ไร้การปนเปื้อน และตัดหมวดอาหารที่จำเป็นทิ้ง ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นบางกรณีการควบคุมอาหารกลับเป็นการ “ตีกรอบ” ให้ตัวเองจนเกินไป จนส่งผลต่อจิตใจและกลายเป็นความกดดันจากพฤติกรรมการกิน
แล้ว “กินคลีน” ให้เคลียร์ ต้องทำอย่างไร.???
พญ.ธิดากานต์ รัตนบรรณางกูร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลสมิติเวช กล่าวว่า อาหาร หรือ “กินคลีน” คือ การกินอาหารที่ทำสุกใหม่ๆ มีความหลากหลายเต็มไปด้วยสารอาหารครบ 5 หมู่ และถูกหลักโภชนาการ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหารไปจนถึงกรรมวิธีการปรุง ที่ใช้การ “นึ่ง อบ” แทนการผัด หรือทอด รสชาติไม่จัดจ้านจนเกินไป
“สมัยก่อนคนไทยจะทานเพียงน้ำพริก ผักสด ปลานึ่ง นี่คือที่เรียกว่ากินคลีนจริงๆ ดังนั้นการกินคลีน คือ การย้อนเวลากับไปสู่ยุคบรรพชน คือ กินตามมีตามเกิด ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลม กินอาหารตรงเวลา ไม่ปล่อยให้ท้องหิว” พญ.ธิดากานต์ กล่าว
ด้าน นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า รสชาติของ “อาหารคลีน” จะต้อง
“ไม่หวาน มัน เค็ม” จนเกินไปนัก ทั้งรสหวานจากน้ำตาล หรือรสเค็มจากการเติมเกลือและน้ำปลา รวมถึงเครื่องปรุงรสใดๆที่ทำให้อาหารมีรสผิดไปจากธรรมชาติ นอกจากนี้อาหารประเภททอดที่ทอดด้วยน้ำมันท่วมๆ หรืออาหารผัดที่ใช้น้ำมันมากๆ
ก็เป็น “อาหารต้องห้าม” สำหรับหมวดคลีน
“หลักสำคัญของการกินคลีนที่ถูกต้อง คือ การกินให้ใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด โดยไม่ปรุง ไม่แต่ง ไม่เติม หรือทำให้อาหารผิดธรรมชาติ ด้วยการใส่สารสังเคราะห์เข้าไป เข้าใจง่ายๆ คือ การกินที่ใกล้ หรือหวนกลับไปสู่ธรรมชาติมากที่สุด” นพ.กฤษดา กล่าว
นพ.กฤษดา กล่าวด้วยว่า “ข้อดี” ของการกินคลีน คือ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารปรุงแต่ง ที่อาจมีโทษสะสมในร่างกายน้อยลง เนื่องจาก 1.เมื่อเรา “ลดเค็ม” ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับไต หรือหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต รวมถึงโรคเกี่ยวกับความดัน 2.“ลดหวาน” จะช่วยความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น ที่สำคัญ คือ “โรคอ้วนลงพุงมฤตยู”(Metabolic syndrome) ที่เสี่ยงถึง “ตาย” ได้ และ 3.“ลดมัน” ได้ จะห่างจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ไขมันเกาะตับ รวมถึงช่วยให้ร่างกาย “เสื่อมสภาพ” ช้าลง
“แม้การกินคลีนจะเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ แต่ต้องกินให้ถูกวิธี หลักง่ายๆ คือ 1.ปรุงแต่งให้น้อยที่สุด 2.ไม่อดอาหาร ข้อนี้น่าเป็นห่วงเพราะหลายๆ คนเข้าใจผิดว่ากินคลีนต้องกินให้น้อยเข้าไว้ โดยเชื่อว่าจะช่วยลดน้ำหนักได้ ซึ่งในความเป็นจริงกินคลีน ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนัก ไม่ได้ทำให้ผอม แต่กินคลีนทำให้สุขภาพดี และถ้าอยากให้ผอม นอกจากกินคลีนแล้ว ร่างกายต้องขยับออกกำลังกายด้วย” นพ.กฤษดา กล่าว
นพ.กฤษดา กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกวันนี้คนไทยบางส่วนกินคลีน โดยเน้นอาหารคลีนจากร้านหรูหรา ราคาแพง ซึ่งไม่จำเป็น เพราะอาหารคลีนหากินได้ง่าย แค่สั่งแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งทั่วๆ ไปก็ได้ โดยให้ลดผงชูรส หรือเน้นกินอาหารอบ นึ่ง ไม่ทอด เปลี่ยนจากไข่ดาวเป็นไข่ต้ม
แค่นี้ก็ถือว่า “กินคลีน” แล้ว...
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี