วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
ไขข้อข้องใจ‘เสาสัญญาณมือถือ’ สูง!!!‘คลื่นแรง-ลดอันตราย’.???

ไขข้อข้องใจ‘เสาสัญญาณมือถือ’ สูง!!!‘คลื่นแรง-ลดอันตราย’.???

วันพุธ ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558, 02.00 น.
Tag :
  •  

ปัจจุบันธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่กำลังเติบโตขยายเครือข่าย เช่นเดียวกับเทคโนโลยีในการส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ก้าวสู่ “ยุค 4G” เพื่อรองรับปริมาณผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดการณ์ว่าปี 2559 จะมีจำนวนการลงทะเบียนผู้ใช้มือถือ(subscriber) เติบโตกว่า 1.3 พันล้านเครื่อง ซึ่งจะทำให้การจราจรทางข้อมูลทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 100%

ภายใต้อัตราการขยายตัวที่ว่านี้ “สถานีเครือข่าย” เพื่อเป็นต้นทางในการแพร่สัญญาณ จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ขณะที่การรับส่งสัญญาณยังต้องเข้าถึงทุกซอกทุกมุมของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่...สิ่งที่ตามมา คือ ผลกระทบจาก “คลื่นวิทยุ” หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่กลายเป็นเรื่อง“อันตราย” ระดับสากล มีการถกเถียงในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย


ข้อมูลของ “คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ” หรือ กสทช. ระบุว่า “คลื่นวิทยุ”(Radio Signal) ที่ถูกปล่อยออกมาจากสถานีเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ Base stations ที่มีสัญญาณแรงในระดับสูงสามารถสร้างความร้อน และเป็นสาเหตุ
สำคัญที่ทำให้ “เนื้อเยื่อ” ของมนุษย์ถูกทำลายได้ ซึ่งเป็นผลกระทบทางชีววิทยา หรือ Biological Effect ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยา เนื่องจากถูกกระตุ้น หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และ biological effect occurs จะกลายเป็นความ “เสี่ยง” ต่อสุขภาพ หรือ Health Hazardต่อเมื่อการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยานั้นนำมาซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

คำถาม คือ ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อให้เกิด BiologicalEffect หรือไม่ และถ้าก่อให้เกิด Biological Effect จริง สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่แรงพอที่จะนำไปสู่ HealthHazard หรือไม่.???

ข้อมูลของ กสทช. พบว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามี 2 ประเภท คือ 1.คลื่นนอนไอโอไนซ์ (Non-ionizing radiation)ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อ หรือเซลล์ของมนุษย์ โดยให้เพียงความร้อนเท่านั้น เช่น คลื่นวิทยุ FM/AM และคลื่นจากสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สถานีฐานโทรทัศน์ เป็นต้น และ2.คลื่นไอโอไนซ์(Ionizing radiation) ซึ่งมีผลกระทบต่อเซลล์ เช่น รังสีเอกซเรย์ที่ใช้ในวงการแพทย์

“อันตราย” ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นอยู่กับระดับ “กำลัง” ถ้ากำลังมากจะทำให้ความร้อนมาก ซึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีกำลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแตกต่างกัน เช่น คลื่นวิทยุFM รัศมี 50 กิโลเมตร มีระดับกำลัง 100 กิโลวัตต์,เตาไมโครเวฟ มีระดับกำลัง 1 กิโลวัตต์, “โทรศัพท์เคลื่อนที่” ระบบ 2G มีระดับกำลัง 2 วัตต์ แต่ระบบ 3G มีระดับกำลังประมาณ 0.8 วัตต์ ถ้าระบบ 4G ระดับกำลังจะน้อยลงอีก

ทั้งนี้ การปล่อยคลื่นสัญญาณโทรศัพท์จากสถานีฐานนั้น เครื่องรับส่งสัญญาณจะอยู่ด้านบนสุดของเสา ซึ่งระยะห่างจากเสามีผลต่อระดับกำลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้รับ-ส่งสัญญาณ ระหว่างโทรศัพท์เคลื่อนที่กับเสาสัญญาณ ถ้าอยู่ “ไกล” เสา ก็จะใช้กำลังมากกว่า แต่จะไม่เกินกำลังสูงสุดที่กำหนดไว้ของอุปกรณ์คือ กรณีโทรศัพท์ระบบ GSM มีกำลังสูงสุด 2 วัตต์ จะส่งสัญญาณไปยังเสาสัญญาณได้สูงสุด 2 วัตต์ แต่หากอยู่ใกล้เสาสัญญาณจะใช้กำลังส่งคลื่นไม่ถึง 2 วัตต์

อย่างไรก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่มักกลัว “เสาส่งสัญญาณ” ที่มีขนาดใหญ่มากกว่าจะกลัว “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” จากเครื่องรับ-ส่งสัญญาณ ทั้งที่ในความเป็นจริง คือ“เครื่องรับ-ส่งสัญญาณ” มีขนาดไม่ใหญ่ แต่เป็นตัวปล่อย “คลื่นอันตราย” ส่วนเสาสัญญาณที่มีขนาดใหญ่เพราะต้องการให้เครื่องรับ-ส่งสัญญาณอยู่สูงๆ เพื่อส่งสัญญาณได้ไกล และยิ่งอยู่สูงจะยิ่งปลอดภัยจากความแรงของคลื่นอันตรายอีกด้วย

ขณะที่ “สถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ VS สถานีฐานโทรทัศน์” ที่มีระดับกำลังส่งเดียวกัน กำลังการแพร่ที่ใกล้กับสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะมีค่าน้อยกว่าสถานีฐานโทรทัศน์เป็นอย่างมาก โดยสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะมีความหนาแน่นมากกว่าเครือข่ายของสถานีถ่ายทอดสัญญาณวิทยุเป็นอย่างมาก ดังนั้นสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่จะใช้กำลังส่งน้อยกว่าสถานีถ่ายทอดสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์อย่างมาก และสามารถติดตั้งในเขตพื้นที่ชุมชนได้อย่าง “ปลอดภัย”

“ดร.เจษฎา ศิวรักษ์” เลขานุการประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. “ไขข้อข้องใจ” ในประเด็น “เสาส่งสัญญาณ” โทรศัพท์เคลื่อนที่ใกล้ตัวอันตรายจริงหรือไม่ว่า ความเข้าใจของคนทั่วไปมักกังวลว่าการอยู่ใกล้เสาส่งสัญญาณจะเกิดอันตราย แต่ความจริงอันตรายไม่ได้อยู่ที่เสาส่งสัญญาณ แต่อยู่ที่ “เสาอากาศ” ที่อยู่บนเสาส่งสัญญาณมากกว่า ที่ผ่านมายังไม่พบว่าคลื่นความถี่สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีอันตรายต่อสุขภาพโดยตรง เป็นแต่เพียงมีความ “เสี่ยง” ต่อสุขภาพเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณด้วยว่าจะมีผลทางชีวภาพกับร่างกายหรือไม่

“ข้อสงสัย” ที่พบบ่อย เช่น การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ใน “พื้นที่ปิด” มีอันตรายหรือไม่ ความจริงพื้นที่ปิด เช่น ลิฟต์ หรือรถไฟฟ้า มีระยะห่างจากสถานีฐานมาก ทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ต้องเพิ่มความแรงในการส่งสัญญาณมากขึ้น...โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นสาเหตุให้เกิด “มะเร็ง” ความจริงแล้วอันตรายจากรังสี หรือสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังปลอดภัยกว่าแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ และรังสีเอกซเรย์...“ห้ามใช้” โทรศัพท์เคลื่อนที่ใน “โรงพยาบาล” ความจริงห้ามใช้เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนกับอุปกรณ์วัด “คลื่นหัวใจ” ไม่มีอันตรายใดๆ...ฯลฯ

“คลื่นวิทยุ หรือคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าจากเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่มีผลกระทบกับร่างกายโดยตรง จุดที่มีความเสี่ยง คือ เสาอากาศที่อยู่บนเสาส่งสัญญาณหรือสถานีฐาน ในระดับสัญญาณย่านความถี่เดียวกันเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ปลอดภัยกว่าเสาส่งสัญญาณโทรทัศน์ ที่มีขนาดเสาเท่ากัน นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานว่าคลื่นวิทยุเป็นอันตราย มีเพียงส่งผลกระทบทางชีวภาพ ประเด็นมีความเสี่ยงยังไม่มีผลกระทบทันทีขึ้นอยู่กับการสะสมจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพต่อร่างกาย” ดร.เจษฎา กล่าว

นี่คืออีกหนึ่งข้อเท็จจริงเรื่อง “อันตราย...เสาสัญญาณมือถือ” ที่ กทค. และ กสทช. ออกมา “ไขข้อข้องใจ”เพื่อหวังให้ผู้คนเข้าใจมากขึ้น แต่ปัญหาเรื่องอันตรายจากเสาส่งสัญญาณยังเป็นประเด็นถกเถียงในวงกว้าง โดยเฉพาะผลกระทบทางสุขภาพ หลายพื้นที่ “รุนแรง” ถึงขั้น “ต่อต้าน”และเรียกร้องให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบ สวนทางกับ “โครงข่าย”ที่กำลังพัฒนาไปไกล เพื่อรองรับเทคโนโลยีระบบ 4G ซึ่งทำให้ต้องตั้ง “เสาส่งสัญญาณ” มากขึ้น และอาจนำมาซึ่งการ“ขัดขวาง” จากประชาชนในชุมชนที่มองว่าจะได้รับผลกระทบถือเป็น “การบ้าน” ที่อาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยี 4G “สะดุด” ซึ่งทุกหน่วยงานและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกัน “ชี้แจง” ให้ประชาชนเข้าใจ ที่สำคัญเรื่องนี้ “ช้า”ไม่ได้ ต้องชี้แจงแบบ...

“เร็ว...แรง...ทะลุทะลวง”!!!

น้ำฝน บำรุงศิลป์
SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62

มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน

สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved