วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
การศึกษาไทย "บ๊วยอาเซียน" เรื่องจริงหรือเข้าใจคลาดเคลื่อน

การศึกษาไทย "บ๊วยอาเซียน" เรื่องจริงหรือเข้าใจคลาดเคลื่อน

วันอาทิตย์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556, 02.00 น.
Tag :
  •  

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงในสังคมไทยตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา กรณีข่าวการจัดอันดับของ เวทีเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum - WEF) พบว่าการศึกษาไทยอยู่รั้งท้ายในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยได้เพียงอันดับ 8 เท่านั้น ถึงขนาดเจ้ากระทรวงอย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง ก็ออกปากยอมรับว่าคุณภาพการศึกษาไทย ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจนัก

อีกด้านหนึ่ง มีเสียงทักท้วงปรากฏทั่วไปในโลกออนไลน์ ถึงวิธีการจัดอันดับของ WEF ว่ามีมาตรฐานหรือไม่? รวมถึงการหยิบยกเพียงบางประเด็นมานำเสนอ ทำให้อาจมีความคลาดเคลื่อน ล่าสุด ดร.นพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กระทรวงวัฒนธรรม และผู้อำนวยการสำนักวิจัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC Poll) ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยเช่นกัน


“หลังจากใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการศึกษาผลการจัดอันดับการศึกษาในประเทศ โดยรายงานของเวทีเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum - WEF) และข้อมูลที่ค้นพบในกระแสข่าวที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมไทย ทำให้เกิดประเด็นขึ้นในความคิดว่า การศึกษาของประเทศไทยน่าจะถูกจัดอันดับรั้งท้ายของอาเซียนจริงๆ

เพราะยังไม่เจอนักวิชาการคนไทย ระดมความคิดรวบรวมข้อมูลวิพากษ์วิจารณ์รายงานของ WEF อย่างจริงจังในเชิงวิธีการศึกษา (Methodology) การเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล และเมื่ออ่านต้นฉบับของรายงาน WEF ฉบับเต็มที่ http://www.weforum.org/reports/global-competitiveness-report-2013-2014 พบว่ามีประเด็นที่น่าพิจารณาเบื้องต้นดังนี้”

ดร.นพดล กล่าว และอธิบายต่อไปว่า ข้อเท็จจริงที่พบจากรายงานฉบับนี้ หลักๆ มี 3 ประการคือ 1.ประเทศไทยถูกจัดอันดับโดย WEF ได้ที่ 37 จาก 148 อันดับของโลก ในตัวชี้วัดการแข่งขันโดยภาพรวม และเป็น อันดับ 4 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ มาเลเซียและบรูไน ซึ่งสามารถดูต้นฉบับได้ที่ http://www3.weforum.org/docs/GCR2013-14/GCR_Rankings_2013-14.pdf ดังนั้นถือว่าอยู่ในอันดับที่ดีเลยทีเดียว

2.รายงานด้านการศึกษา (Thailand’s Education) ของประเทศไทย 5 ตัวชี้วัดจากทั้งหมด 8 ตัวชี้วัด อยู่ในอันดับที่ค่อนข้างดี ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในข่าวที่แพร่สะพัดออกมา โดยหมวดด้านการศึกษาอยู่ในอันดับที่ดีที่สุด คือด้านการฝึกอบรม ที่ถามคนตอบแบบสอบถามในประเทศไทย ถึงการลงทุนด้านการฝึกอบรมบุคลากร และประเทศไทยได้อยู่ในอันดับที่ 50 ของโลกจาก 148 อันดับทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณารายละเอียดของแต่ละตัวชี้วัดด้านการศึกษาในอาเซียน จะพบว่า การศึกษาของไทยในรายงานของ WEF ไม่น่าจะทำให้คนไทยรู้สึกแย่เท่าไรนัก

“ผลการจัดอันดับที่มีปัญหา ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน คือการไปหยิบยกเพียงตัวชี้วัดเดียวขึ้นมาสรุปภาพรวมของการศึกษาของประเทศทั้งหมด ซึ่งไม่ถูกต้อง และข้อมูลที่ได้จากตัวชี้วัดนั้นมาจากความคิดเห็น (Opinion) ของผู้ตอบแบบสอบถามที่อ้างว่าเป็นผู้นำด้านธุรกิจ (Business Leaders) ของประเทศ แต่เมื่อไปอ่านรายระเอียดในรายงานฉบับเดียวกันของ WEF กลับระบุว่า เป็นเพียงกลุ่มคนที่มีศักยภาพทางธุรกิจ (Potential) ไม่ใช่ผู้นำด้านธุรกิจที่แท้จริง

และคำถามที่พบในปี 2008 (พ.ศ.2551) ถามทำนองว่า..คุณคิดว่าระบบการศึกษาของประเทศคุณ ได้บรรลุความต้องการต่างๆ ของเศรษฐกิจที่แข่งขันมากน้อยเพียงไร 1 คือไม่บรรลุความต้องการ และ 7 คือบรรลุความต้องการ..ซึ่งการตั้งคำถามแบบนี้ มีปัญหาถกเถียงกันได้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากคนตอบคนหนึ่งอาจจะนิยามถ้อยคำต่างๆ ในข้อคำถามที่แตกต่างกันได้ เช่นคำว่าระบบการศึกษาของคนหนึ่ง อาจแตกต่างไปจากสิ่งที่อีกคนหนึ่งคิดถึงระบบการศึกษา และคำว่าเศรษฐกิจเชิงแข่งขัน อาจถูกให้ความหมายแตกต่างได้เช่นกัน” ดร.นพดล ชี้แจง

3.ในรายงานของ WEF มีส่วนของระเบียบวิธีวิจัย ที่ต้องพิจารณาสำคัญๆ ได้แก่ กลุ่มคนที่แสดงความคิดเห็นที่ WEF ระบุไว้ในหน้าที่ 6 เป็นผู้นำด้านธุรกิจ (Business Leaders) แต่ในหน้า 85 กลับระบุว่าเป็นเพียงกลุ่มคนที่มีศักยภาพทางธุรกิจ (Potential) และถูกสุ่มมาตอบแบบสอบถามจำนวน 86 คนจากบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศไทย

โดย WEF ระบุว่ากลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามมีความเป็นตัวแทน (Representative) ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งในทางวิชาการ ถ้าทำได้เช่นนั้นก็จำเป็นต้องระบุค่าความคลาดเคลื่อน (Sampling Error) แต่ไม่ปรากฏในผลการศึกษาฉบับเต็มที่เผยแพร่

ทั้งนี้ ดร.นพดล ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกระแสข่าวดังกล่าวไว้ดังต่อไปนี้ คือ 1.ผู้ใหญ่ในสังคม นักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป น่าจะศึกษาข้อมูลจากรายงานต้นฉบับก่อนนำข้อมูลผลการศึกษาใดๆ มาวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการสื่อสาร และลดความสับสนในหมู่ประชาชน 2.หน่วยงานที่ทำวิจัยเป็นเครือข่ายของ WEF ในประเทศไทย ควรมีตัวแทนออกมาให้ข้อมูลความเป็นจริงที่เกี่ยวข้อง แทนการปล่อยให้ผู้อื่นที่ไม่ทราบความเป็นจริงของการศึกษา มาแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

และ 3.WEF น่าจะพิจารณาปรับปรุงระเบียบวิธีวิจัย และหลีกเลี่ยงการเขียนผลการศึกษา ที่เกินขอบเขตของข้อมูลที่ค้นพบ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่นำไปสู่การสื่อสารที่สร้างภาพลบต่อประเทศไทย เพราะ WEF ระบุไว้ในหน้า 35 ที่อาจถูกแปลได้ว่าสำหรับประเทศไทย การลงทะเบียนเรียน (Enrollment) และคุณภาพของอุดมศึกษาอยู่ในระดับที่ต่ำผิดปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลการศึกษาในหน้า 365 ระบุอันดับประเทศไทยไว้ค่อนข้างดีทีเดียว คืออยู่ในอันดับ 55 จาก 148 อันดับของโลก และอยู่ในอันดับ 2 ของอาเซียน

ส่วนเรื่องของคุณภาพระบบการศึกษา ก็มาจากความคิดเห็นของคนตอบแบบสอบถามเพียง 86 คน ดังนั้น ดร.นพดล ฝากทิ้งท้ายว่า สำหรับการศึกษาในอนาคต น่าจะพิจารณาคุณภาพการศึกษาของประเทศต่างๆ จากความเป็นจริงแหล่งอื่นๆ มากกว่าเพียงความรู้สึก-ความคิดเห็นเพียงอย่างเดียว

เช่น เด็กนักเรียนไทยที่ชนะเหรียญทองโอลิมปิกวิชาการด้านต่างๆ และจำนวนนักศึกษาไทยในต่างประเทศ ที่มีความสามารถศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก อันเป็นผลมาจากระบบการศึกษาในท้องถิ่นของประเทศไทย

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ผู้ตรวจการแผ่นดิน รับเรื่อง คณะ สว. ร้องสอบ คณะกรรมการคดีพิเศษ แทรกแซง กกต. คดีฮั้วเลือก สว.

'สมชัย'ชี้ตรรกะป่วยจัด! ปม'สมศักดิ์'แจงเหตุวีโต้มติแพทยสภา

'ตุรกี'เอาจริง! สั่งปรับเงินผู้โดยสารที่ชอบรีบลุกขึ้นยืน ก่อนเครื่องบินลงจอดสนิท

'เซีย' อัด รมว.แรงงาน ปรับค่าจ้างช้ากว่าเต่าย่อง ลากไส้นำงบความปลอดภัย ไปสร้างตึก 50 ล.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved