การกลับมามีลุ้นแชมป์แบบ”ไม่ได้เจตนา”ของ ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ
มีความน่าสนใจทั้งในและนอกสนาม
โมเมนตั้มทุกอย่างดูเหมือนจะเทให้ และเป็นใจแก่กองทัพ “หงส์แดง” ให้ทำในสิ่งที่ “เดอะ ค็อป” และ “ค็อปไพร์” ต้องการ
นั่นคือได้แชมป์ลีก ยุติ 24 ปีที่รอคอย
เมื่อฟากฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลและตลอดไป กำลังอยู่ในกราฟที่หัวตก ให้หลังจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ลงจากบัลลังก์ไม่ถึงปี
กระจกเงาสะท้อนความยิ่งใหญ่กลับมายังเมอร์ซี่ย์ไซด์อีกครั้ง
ลิเวอร์พูล กำลังเดินหน้าสู่ความสำเร็จขั้นสูงสุด จากเมืองที่เคยเงียบเหงาเป็นเป่าสาก กลับกลายมามีชีวิตชีวากันอีกครั้ง
มาที่นี่ต้องฟังเดอะ บีทเทิ่ลส์ และดูบอลที่แอนฟิลด์ หรือ กูดิสัน พาร์ค เดินกินลมที่แม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ทุกอย่างกำลังจะก้าวไปพร้อมๆ กันอีกครั้ง
ลิเวอร์พูล หงอยเหงากับการร้างราจากไปของ เดอะ บีทเทิ่ลส์ เมื่อเต่าทองทั้ง 4 เริ่มเหลือน้อยลงไป เช่นเดียวกับผลงานในสนามของ ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน จากที่ยิ่งใหญ่ต่อเนื่อง และแข่งขันกันเองในช่วงทศวรรษที่ 80
กลายเป็นว่า ไม่ได้แชมป์กันมาตั้งแต่ปี 1990
เอฟเวอร์ตัน หายไปเลย ส่วน ลิเวอร์พูล กำลังกลับมาอย่างร้อนแรง เป้าหมายจากเดิมที่มองกันว่า ติดอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปก็เพียงพอ เปลี่ยนมาเป็นลุ้นไปแชมเปี้ยนส์ลีก ขยับมาเป็นยึดโควตาให้ได้ไปแบบไม่ต้องคัดเลือก
แต่นาทีนี้กลายเป็นว่า 3 นัด 270 นาที หากได้อีก 7 คะแนนจะเป็นแชมป์สมัยที่ 19
ชีวิตและเรื่องราวของเมืองนี้กลับตาลปัตรเหลือเชื่อ นับตั้งแต่การได้รับเลือกให้เป็นเมืองมรดกโลก เมื่อ 10 ปีก่อน เรื่อยมาจนถึงงานฉลองครบรอบ 50 ปีของเดอะ บีทเทิ่ลส์ เมื่อปี 2012 บวกกับมีการกล่าวขอโทษจากรัฐบาลอังกฤษครั้งแรกในปีเดียวกัน เกี่ยวกับเรื่องเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ฮิลล์สโบโร่
มันปลุกให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ กำลังถูกจับตามองจากทั่วโลกว่า จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
มีข่าวว่าแม้จะยังขาดทุน แต่มีเงินเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เพราะแฟนบอลแห่แหนกันเข้าไปซื้อของที่ระลึกของทีมแบบไม่ขาดสาย แม้กระทั่งฝนตกก็ยังยืนรอต่อคิวเพื่อเข้าไปซื้อของในสโตร์
รายรับเฉพาะจุดนี้กำไรฟันไปแล้ว 30 ล้านปอนด์เห็นๆ
ไม่แปลกที่จะมีการรื้อข่าวเรื่องต่อเติมสนามขึ้นมาอีกครั้ง โดยจะให้มียอดเพิ่มขึ้นเป็น 59,000 ที่นั่งเลยทีเดียว
ซึ่งแผนการขยายสนามฝั่งอัฒจันทร์มีทั้งฝั่ง เมน สแตนด์ และฝั่ง แอนฟิลด์ โรด สแตนด์ โดยจะเสร็จสิ้นพร้อมเปิดใช้งานในฤดูกาล 2016-17
เป็นประเด็นข่าวที่น่าสนใจเช่นเดียวกันกับ การดวลกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ในวันอาทิตย์นี้ เวลา 20.05 น.ตามเวลาประเทศไทย
ที่โลกนี้กำลังเฝ้ารอชมเกม
เรื่องราวนอกสนามในเรื่องของ “ตั๋วเข้าชมฟุตบอล” ถือว่าดุเดือดรุนแรงและร้อนแรงมากๆ
พูดภาษาไทยง่ายๆ คือ “แพงฉิบหาย”นั่นเอง
เอาง่ายๆ จากเดิมคือ ตั๋วฮอสปิตอลลิตี้ บัตรดูบอลพร้อมทานอาหารก่อนเกม ราคาสตาร์ทอยู่ที่ 17,000 บาท นั่นคือเดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อบวกกับผลงานของทีมที่ชนะต่อเนื่องและมีลุ้นแชมป์ราคาตั๋วบอลจึงฉุดเอาไว้ไม่อยู่
ทะลุขึ้นมาที่ 400 ปอนด์ หลังจากเกมหักคอไก่-สเปอร์ส
ต่อด้วยราคา 600 ปอนด์ หลังจากบุกไปชนะ เวสต์แฮม
หลังจากเอาชนะ แมนฯซิตี้ 3-2 ทันทีที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ร้องไห้ ตั๋วคู่นี้ทะลักขึ้นไป 1,000 ปอนด์ หรือ 50,000 บาท
หนักสุดๆ ก็คือ หลังจากบุกไปชนะ นอริช ซิตี้ ราคาตั๋วขึ้นเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง ขึ้นทีละ 100 ปอนด์ จนกระทั่งไปจอดอยู่ที่ 1,800 ปอนด์ก่อนแข่ง 3 วัน
ล่าสุดก่อนเกมนี้บัตรราคาทะลุฉุดไปอยู่ไปที่ 2,000 ปอนด์ หรือกว่า 110,000 บาท
น่าเสียดายที่ว่า ทั้งหมดนี้เงินจะเข้าสโมสรตามหน้าตั๋วเท่านั้น
ตั๋วที่ว่าไม่ใช่”ตั๋วผี”แต่เป็น”ตัวบอลของจริง” ที่ถูกจับจองล่วงหน้าผ่านทั้งเอเย่นต์ และจากแฟนฟุตบอล ที่ต้องการเก็งกำไรจากตั๋วปีที่ตัวเองถือไว้
อย่าลืมนะครับว่า ประเด็นปัญหาตกงาน ยังเป็นเรื่องใหญ่ของคนเมืองลิเวอร์พูล ดังนั้นตั๋วพวกนี้ก็ช่วยได้เช่นกันในยามยาก
แม้จะอยากจะเข้าไปดูในสนามใจแทบขาด
ราคาหน้าตั๋วอาจจะไม่เกิน 100 ปอนด์ เมื่อปล่อยให้กับเอเย่นต์ ราคาอาจจะได้ขึ้นมา 2 เท่า จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเอเย่นต์ที่จัดให้มันทะลุไปตามสถานการณ์
ช่วงนี้ถือว่า อ้วนกันเละเทะ เพราะตั๋วบอลราคาตามฟอร์มหงส์แดง ยิ่งเล่นดีเท่าไหร่ ตั๋วก็จะแพงขึ้นเท่านั้น
แน่นอนว่า เอเย่นต์ดีมีถมไป เอเย่นต์ไม่ดีก็มีมากมาย เราจะพบได้ว่า บางคนกักเก็บตั๋วไว้จนนาทีสุดท้าย เพื่อดึงราคา และไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นที่ว่างในแอนฟิลด์วันอาทิตย์นี้
เพราะคนจะไม่สู้ราคาตั๋วบอล ที่ว่างเหลือ เสียหายต่อเสียงเชียร์ และภาพลักษณ์สนามที่ขายบัตรหมดทุกเกม แต่พอประกาศออกมา ว่างไปหลายร้อยที่
แมทช์กับแมนฯซิตี้เราได้เห็นมาแล้ว
ราคาตั๋วคู่พุ่งไป 2 แสนบาท แต่พอประกาศยอดคนดูก็หายไปบาน ก็เพราะพวกที่กักตุนตั๋วเอาไว้แล้วขายไม่ออก
ประเด็นนี้แก้ไขได้ง่ายนิดเดียวนั่นคือ การมีน้ำใจซึ่งกันและกัน การโก่งค่าตั๋วทุกคนรับได้ แต่ถ้ามากเกินไป ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
อย่างว่า ธุรกิจต้องเดินหน้า มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันในทุกสังคม ในขณะที่ราคาตั๋วกำลังแพงหูฉี่ ก็มีการลดราคาตั๋วบอลจาก 2,000 ปอนด์ เหลือ 1,800 ปอนด์ ทั้งที่มีคนให้มากกว่าแท้ๆ แต่เลือกจะลดราคาจากผู้ที่มีความต้องการและจำเป็นจริงๆ
ส่วนผลการแข่งขันเกมนี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นมากมายจริงๆ หากผลออกมาว่า ลิเวอร์พูล ชนะ
มันจะทำให้ เชลซี หมดลุ้นแชมป์ทันที และจะเหลือแค่ แมนฯซิตี้ เท่านั้นที่มาเบียดแย่งแชมป์
ส่วนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ บอกว่าจะส่งสุดสองลงเล่นนั้น ก็แค่ลมปากผ่าน เพราะชุดสองของพี่แกก็หินๆทั้งนั้น ตัวอย่างก็คือ เนมานญ่า มาติซ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ถามว่า หมูตรงไหน
ขณะที่ ลิเวอร์พูล สิ่งที่น่าสนใจก็คือตำแหน่งของ ลูคัส เลว่า หาก แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หายเจ็บทัน เชื่อว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหงส์จะส่งลงแน่ และปรับทัพเล่น 4-3-3 หรือ 3-4-3 เต็มรูปแบบอย่างเคยทันที
ประเด็นคือ ลูคัส กลายเป็นคนที่เล่นไม่ทันเพื่อน ช้าไปครึ่งจังหวะ และถ้า สเตอร์ริดจ์ ไม่ฟิต จะทำให้ เชลซี รับมือกับ หลุยส์ ซัวเรซ ได้ง่ายขึ้นทันที
ดังนั้นต่อให้ เชลซี จัดชุดไหนใหญ่หรือเล็กลงเล่น เรื่องของเรื่องมันอยู่ที่ลิเวอร์พูลเป็นหลักกว่า
หากผลออกฝั่งหงส์ก็น่าจะยุติการรอคอย แต่ถ้าหากออกมาทาง เชลซี อันนี้น่าสนใจทันทีกับสองเกมที่เหลือ
โดยเฉพาะแมทช์สุดท้ายที่แอนฟิลด์ ไม่ใช่แค่เกมในสนาม แต่เป็นเกมนอกสนาม
พวกที่อมตั๋วเอาไว้อาจแพ้ภัยตัวเอง
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี