ความคืบหน้ากรณีปัญหาระหว่าง “น้องก้อย” รุ่งระวี ขุระสะ จอมเตะสาววัย 23 ปี กับ “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ หลังจากที่ “โค้ชเช” ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. และได้เปิดแถลงข่าวขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเห็นใจไปยัง “น้องก้อย” ที่ยังมีอนาคตในทีมชาติและพร้อมที่จะเปิดประตูต้อนรับ หากเจ้าตัวยังต้องการเล่นทีมชาติต่อไป
เมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม “น้องก้อย” ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกว่า ที่ผ่านมารู้สึกเครียดเพราะว่าเจอกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักจากข่าวที่เกิดขึ้น จนแทบไม่ได้ติดต่อกับใคร รวมถึงไม่ได้เล่นเฟสบุคหรือสื่อตามโซเชี่ยลอะไรเลย แต่จากนี้ไปก็พร้อมที่จะไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับ โค้ชเช ทันทีที่ทางสมาคมทำการนัดหมายมา ส่วนเรื่องโอกาสที่จะหวนกลับคืนสู่วงการเทควันโดหรือไม่นั้นส่วนตัวอยากจะกลับไปติดทีมชาติแน่นอน เพราะไม่ใช่โอกาสที่ใครจะมีได้ หากได้รับโอกาสอีกครั้งจะตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่
“ส่วนหนึ่งก้อยเข้าใจว่าเป็นเพราะตัวเองที่หลบหน้าสื่อมวลชน ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง จึงอยากจะขอโทษสำหรับความใจร้อน หรือรู้เท่าไม่ถึงการ์ณของตัวเอง เรื่องที่จะเข้ามาพูดคุยกับผู้ใหญ่ของสมาคมเทควันโดฯจะเข้าไปอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้ หากถูกโค้ชลงโทษไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม หากไม่รุนแรงเหมือนที่เคยเจอมา ก็จะน้อมรับและไม่ออกมาเรียกร้องเหมือนที่เป็นปัญหาอยู่ในทุกวันนี้อีก” จอมเตะสาวกล่าว
และว่าสภาพจิตใจของตนเองตอนนี้ดีขึ้นมาก ส่วนเรื่องกับโค้ชเชนั้นตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรคาใจอีกแล้ว
ขณะที่ “บิ๊กชา” นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีหาก “น้องก้อย”จะเข้ามาเจรจาพูดคุยกับ โค้ชเชและคณะกรรมการบริหารจริง เพื่อต้องการให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย เพราะเรื่องนี้มันเป็นปัญหาภายในสมาคมที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ อะไรที่ไม่เหมาะสมก็ควรมาพูดกันภายใน ไม่จำเป็นต้องเอาไปโพสต์ในโลกสังคมออนไลน์ หรือ ให้คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับรู้ เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อในกรณีแบบนี้ได้ ยิ่งหากสื่อสารกันผิดพลาดแล้วมันจะบานปลายไปกันใหญ่
“นักกีฬากับผู้ฝึกสอนก็เหมือนกับ ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ที่ผ่านมากระแสสังคมได้ตีแผ่เรื่องนี้ไปมากแล้ว ดังนั้นทุกอย่างควรจะจบลงและเดินหน้าเพื่อคว้า เหรียญทอง กีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่นานจิง ประเทศจีน และ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ จะดีกว่า”นายปรีชา กล่าว
ทั้งนี้สมาคมฯ ยังอ้าแขนรับน้องก้อย เข้าสู่แคมป์ทีมชาติ เพราะสิทธิ์ที่เขามีอยู่ในการคัดเลือกตัวชุดเอเชี่ยนเกมส์ยังไม่ได้ตัดออกไป หากเจ้าตัวพร้อมจะเดินทางมาก็สามารถติดต่อมายังสมาคมฯได้ รวมไปถึงการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ โค้ชเช เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางสมาคมเองก็พร้อมและยินดีอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว ทำให้กำลังใจนักกีฬาคนอื่นๆเสียขวัญ
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นมาตรฐานที่ดีต่อไป รวมไปถึงการออกกฏระเบียบลงโทษนักกีฬาที่ประพฤติตัวไม่ดี ขาดระเบียบวินัย และการทุ่มเทเอาใจใส่ทั้งในสนามฝึกซ้อมและแข่งขันว่า จะต้องมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ นายปรีชา ยังได้โทรศัพท์ไปหา นาง นพมาศ ขุระสะ มารดาของ “น้องก้อย” รุ่งระวี เพื่อปรับความเข้าใจต่างๆทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมได้เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย และให้ทุกอย่างจบเพียงแค่นี้
โดยวันพุธที่ 23 ก.ค.นี้ เวลา 15.00 น. ที่ทำการสมาคมเทควันโด กกท.หัวหมาก “น้องก้อย” รุ่งระวี กับเพื่อนคู่ซี้ คาสซานดร้า ฮาลเลอร์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวนี้โดยการให้ข้อมูลกับบุคคลบางกลุ่ม จะเดินทางนำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาโค้ชเช เ พื่อขอโทษต่อเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมจะนำเสื้อผ้าเข้าแคมป์ฟิตซ้อมเตรียมตัวทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ทันที ในเวลา 17.00น.
ด้านนายวิมล ขุระสะ ปู่น้องก้อย กล่าวว่า เท่าที่ติดตามข่าวโค้ชเช ได้ออกมาขอโทษ พ่อแม่น้องก้อยแล้ว รู้สึกดีใจที่ทุกอย่างจบ ไปในทางที่ดียุติปัญหา โดยตนได้โทรศัพท์ ไปพูดคุยกับนายวัลลพ พ่อน้องก้อยและน้อยก้อยหลานสาว ขอให้หยุดโกรธเคืองกัน ทางพ่อแม่น้องก้อยก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว
“ส่วนน้องก้อยระหว่างที่พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ปู่ก็ขอให้น้องก้อยลดทิฐิลงอย่ามีความโกรธ ขอให้หันหน้ากลับไปสร้างฝันที่ฝันไว้ว่าอยากเป็นนักกีฬาโอลิมปิกดีกว่า”นายวิมลระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี