21 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ระหว่าง “จิ้งจอกสยาม “เลสเตอร์ ซิตี้” เจ้าบ้าน เปิดสนามคิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ผีแดง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ทั้ง 2 ทีมลงสนามมาแล้ว 4 นัด ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 มาด้วยกันทั้งคู่ มี 5 แต้ม โดย “แมนฯยูฯ” อยู่อันดับ 11 ส่วนเจ้าบ้านอยู่อันดับ 13
11 คนแรกของเจ้าบ้าน ประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิล , ริทซี่ เดอ ลาต , เวสต์ มอร์แกน , เลียม มัวร์ , พอล คอนเชสกี้ , เอสบันเต กัมบิอัวโซ่ ,เดวิด นิวเจนท์ ,แดนนี่ ดริ้งวอเตอร์ , ดีน แฮมมอนด์ เจมี วาร์ตี้ และเลโอนาร์โด อูยัว ส่วน ทีมเยือน “แมนฯยูฯ” ประกอบด้วย ดาบิด เด เคอา ,ราฟาเอล ดา ๙ลวา , จอนนี่ อีแวนส์ , ไทเลอร์ แบล็คเค็ตต์ , มาร์กอส โรโฮ , ดาลี่ย์ บลินด์ , อันเดร์ เอร์เรร่า , อังเคล ดิ มาเรีย , เวย์น รูนี่ย์ , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ราดาเมล ฟัลเกา
ครึ่งแรก เลสเตอร์เปิดฝ่ายเปิดฉากเข้าใส่อดีตแชมป์ 20 สมัยก่อน และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวทันที ทว่า เกมผ่านมาได้ไม่ถึง 13 นาที แฟนบอลเจ้าบ้านก็เงียบกริบ เมื่อ “ฟัลเกา” สลัดหลุดตัวประกบทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนเปิดบอลเข้ามาเสาสอง “ฟาน เพอร์ซี่” เทกตัวขึ้นโหม่งบอลแฉลบกองหลังผ่านมือ “ชไมเคิล” ให้ ทีมเยือน “ผีแดง” ออกนำไปก่อน 0 ประตูต่อ 1
หลังจากได้ประตูแรก เกมของทีมเยือนก็ได้ใจ ถัดมาอีก 3 นาที ก็ได้ประตูที่สอง เมื่อ “รูนี่ย์” พาบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลบอลต่อให้ “ดิ มาเรีย” แตะบอลหนึ่งจังหวะก้อนชิพบอลข้ามหัว “ชไมเคิล” เป็นประตูให้ ผีแดงออกนำเจ้าบ้าน 0 ประตูต่อ 2 แต่แค่นาทีเดียว เมื่อเขี่ยบอล เลสเตอร์เปิดบอลออกข้าง ก่อนที่จะโยนบอลเข้ามากลางประตู “อูยัว” กระโดดขึ้นโหม่งคนเดียวเข้าประตูให้ เจ้าบ้านตามมา 1 ประตูต่อ 2
หลังได้ประตูตีตื้นมา เลสเตอร์ ก็เร่งเกมโหมเข้าใส่ แมนฯยูฯ มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ แมนฯยูฯ ก็ยังไม่สามารถสร้างสรรเกมได้มากนัก กระทั่งหมด 4 นาทีแรก เลสเตอร์ตามหลังแมนฯยูฯอยู่ 1 ประตูต่อ 2
ครึ่งหลัง ลงมาเล่นได้ 4 นาที อาคันตุกะก็เกือบได้ประตูที่สาม เมื่อ “ฟัลเกา” ได้ลูกจ่ายจาก “รูนี่ย์” จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดยิงทันทีบอลพุ่งชนคาน กระดอนออกมารอดการเสียประตูไปหวุดหวิด กระทั่งนาทีที่ 57 ผีแดง ก็ขยับสกอร์หนีห่างออกไปจนได้ เมื่อ “ฟาน เพอร์ซี่” จ่ายบอลจากในเขตโทษย้อนหลังออกมาให้ “ดิ มาเรีย” กดด้วยซ้าย ลูกพุ่งไปตรง “เอร์เรร่า” ไขว้หลังเล่นเอา “ชไมเคิล” ได้แค่มองอย่างเดียว เจ้าบ้านตามหลัง 1 ประตูต่อ 3
จากนั้นเกมก็พลิกไปคนละแบบ เมื่อ นาทีที่ 62 กรรมการเป่าให้ เลสเตอร์ ได้ลูกจุดโทษจากการเข้าสกัด “วาร์ดี้” ของ “ราฟาเอล” โดย “นูเจนท์” รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตามมาเป็น 2 ประตูต่อ 3 ถัดมาอีก 2 นาที “เลสเตอร์” ก็ตีเสมอได้สำเร็จจากลูกชุลมุนหน้าประตู “กัมบิอัสโซ่” กดตูมเดียวบอลหายเข้าไปซุกตาข่ายให้ เลสเตอร์ตีเสมอเป็น 3 ประตูต่อ 3
หายนะมาเยือน “ผีแดง” ทันที เมื่อมาถึงนาทีที่ 79 เลสเตอร์ ก้ได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อ “ดริ้งวอเตอร์” ฉกบอลมาจาก “ฆวน มาต้า” ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมา จ่ายทะลุหลังให้ “วารน์ดี้” จี้เข้าไปในเขตโทษก่อนยิงอย่างเหนือชั้นให้ เลสเตอร์ ขึ้นนำบ้างเป็น 4 ประตูต่อ 3 อีก 3 นาทีถัดมา ผีแดงก็สังเวลยประตูที่ 5 ให้แก่เจ้าบ้าน เมื่อ “แบล็คเค็คต์” ไปเสียบ “วาร์ดี้” ล้มลงในเขตโทษ เป็น “อูยัว” รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ เลสเตอร์ขึ้นนำไป 5 ประตูต่อ 3 กระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน เป็นอันว่า เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกจากตามมาถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 ประตูต่อ 3 ทำแต้มขึ้นไปอยู่อันดับ 6
ขอบคุณภาพจาก ทวิตเตอร์ Manchester United
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี